ช่วงหลังๆมานี้ หนังของ MCU หลายๆเรื่องที่ปล่อยออกมา มีทั้งดีและไม่ดีในด้านรายได้และคำวิจารณ์ต่างๆนาๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หนังเหล่านี้ยังไม่สามารถเป็นแกนหลัก หรือเป็นจุดยืนให้กับ MCU ได้เลย ดูจะเป็นหนังทางผ่านเสียมากกว่า แม้กระทั่ง Captain America: Brave New World ที่เอาตรงๆว่าแค่ พอไปได้เท่านั้น ไม่ได้ ว้าว อะไรเหมือนก่อนเลย จนการมาถึงของหนัง Fantastic Four: First Steps ที่หลายๆคนคงคาดหวังและลุ้นไปตามๆกันว่าหนังเรื่องนี้จะสามารถกู้ศรัทธาของหนัง MCU กลับมาได้หรือไม่ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! Fantastic Four: First Steps จะเป็นการเล่าเรื่องราวที่แตกต่างจากฉบับก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง โดยจะพาผู้ชมย้อนกลับไปสู่ยุค 60s ซึ่งเป็นยุคแห่งการสำรวจอวกาศและนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ ตัวภาพยนตร์จะนำเสนอในสไตล์ย้อนยุคแบบ Retro-Futurism ที่มีกลิ่นอายของวิทยาศาสตร์ในยุคเก่าผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ล้ำยุค ทำให้ตัวหนังมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และจะเป็นการปูพื้นฐานให้กับ Fantastic Four เข้าสู่จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) อย่างเป็นทางการ เรื่องย่อ เรื่องราวจะเริ่มต้นขึ้นในยุค 60s เมื่อ Reed Richards (รับบทโดย Pedro Pascal) นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ ได้เริ่มต้นโครงการสำรวจอวกาศเพื่อไขปริศนาของจักรวาล โดยมีทีมงานที่ประกอบไปด้วย Sue Storm (รับบทโดย Vanessa Kirby) ผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาและเป็นคู่หมั้นของเขา, Johnny Storm (รับบทโดย Joseph Quinn) นักบินอวกาศผู้กล้าหาญและเป็นน้องชายของ Sue, และ Ben Grimm (รับบทโดยโดย Ebon Moss-Bachrach) นักบินอวกาศผู้มากประสบการณ์และเป็นเพื่อนสนิทของ Reed ในระหว่างภารกิจ พวกเขาต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในอวกาศ ซึ่งทำให้พวกเขาได้รับรังสีคอสมิกปริศนา และเมื่อกลับมายังโลก พวกเขาก็พบว่าร่างกายของตัวเองเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง Reed ได้รับความสามารถในการยืดตัวได้อย่างไร้ขีดจำกัด, Sue สามารถสร้างสนามพลังและล่องหนได้, Johnny กลายเป็นมนุษย์เพลิง, ส่วน Ben กลายเป็นสิ่งมีชีวิตหินยักษ์ที่แข็งแกร่ง หลังจากได้รับพลังพิเศษ พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะใช้พลังนี้เพื่อปกป้องโลกจากภัยคุกคามต่างๆ ในขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับปัญหาภายในครอบครัวและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงของ Ben ที่ต้องปรับตัวกับการกลายร่างเป็น The Thing โดยเนื้อเรื่องจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของตัวละครในฐานะ "ครอบครัว" และการค้นหาตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาในฐานะ Fantastic Four นอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังจะมีการปรากฏตัวของ Silver Surfer (รับบทโดย Julia Garner) ในฐานะ Shalla-Bal ซึ่งเป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงเรื่องราวเข้ากับ Galactus ผู้เป็นจอมกลืนกินดวงดาว และจะเป็นการปูทางไปสู่เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่กว่าในอนาคตของ MCU นักแสดง Reed Richards รับบทโดย Pedro Pascal Sue Storm รับบทโดย Vanessa Kirby Johnny Storm รับบทโดย Joseph Quinn Ben Grimm รับบทโดยโดย Ebon Moss-Bachrach Silver Surfer รับบทโดย Julia Garner ผู้กำกับ Matt Shakman ข้อดี สไตล์ที่แตกต่างและโดดเด่น: ผู้กำกับ Matt Shakman ตั้งใจนำเสนอภาพยนตร์ในสไตล์ย้อนยุคแบบ Retro-Futurism ในยุค 60s ซึ่งแตกต่างจากภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นๆ ของ MCU ที่เน้นความทันสมัย ทำให้ตัวหนังมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจและสดใหม่ การคัดเลือกนักแสดงที่ลงตัว: ทีมงานคัดเลือกนักแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม Pedro Pascal ในบท Reed Richards ที่มีศักยภาพในการเป็นผู้นำ และ Vanessa Kirby ในบท Sue Storm ที่คาดว่าจะมีความโดดเด่นและมีมิติ ส่วนตัวยกให้เป็น MVP ของหนังเลย นอกจากนี้ เคมีของทีมนักแสดงหลักทั้ง 4 คนก็น่าจะเข้ากันได้ดี ทำให้ผู้ชมเชื่อในความเป็นครอบครัวของพวกเขา การเล่าเรื่องที่เน้นประเด็นครอบครัวและฮีโร่: เนื้อหาของ Fantastic Four มีแก่นหลักอยู่ที่ความเป็นครอบครัว การร่วมมือกัน และความสัมพันธ์ของตัวละคร แต่ก็เป็นฮีโร่ที่ต้องช่วยเหลือผู้คนในเวลาเดียวกัน เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกตัดสินในเรื่องที่ยาก หนังจะแสดงให้เห็นถึงการแก้ปัญหาทั้งในฐานะฮีโร่และครอบครัวออกมาได้ดี การนำเสนอ Silver Surfer ในมุมมองใหม่: การเลือก Julia Garner มารับบท Shalla-Bal ในฐานะ Silver Surfer ที่เป็นหญิงสาวและมีภูมิหลังที่ซับซ้อน อาจทำให้ตัวละครนี้มีมิติและน่าสนใจกว่าที่เคย จากเมื่อก่อนที่เน้นตัวละครเป็นผู้ชาย ข้อเสีย (ความเห็นส่วนตัว) การขาดตัวร้ายที่แข็งแกร่งและน่าจดจำ: ในยุคที่ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ต้องมีตัวร้ายที่โดดเด่นเพื่อขับเคลื่อนเรื่องราว การเลือก Galactus ซึ่งเป็นตัวร้ายระดับจักรวาลและ Silver Surfer มาเป็นตัวละครหลัก อาจจะทำให้ตัวร้ายที่แท้จริงไม่ถูกนำเสนออย่างเต็มที่ในภาคแรกนี้ ทำให้ผู้ชมอาจไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามที่ชัดเจน หรืออาจรู้สึกว่าตัวร้ายไม่ได้มีบทบาทมากพอที่จะสร้างความประทับใจ (ลึกๆก็แอบขัดใจ Galactus ภาคนี้พอสมควร แม้จะออกแบบมาใกล้เคียงกับคอมมิค แต่ก็ดูไม่ได้น่าจดจำเท่าไหร่ เหมือนแค่หิวแล้วลงมาหาอะไรกินมากกว่า) ความเสี่ยงในการสร้างโลกใหม่: อย่างที่รู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในโลกคู่ขนาน แทนที่จะอยู่ในจักรวาลหลักของ MCU นั้น แม้จะเป็นข้อดีในเรื่องการเล่าเรื่องที่อิสระ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ผู้ชมจะรู้สึกว่าเรื่องราวของพวกเขาไม่สำคัญเท่ากับฮีโร่คนอื่นๆ ที่อยู่ในจักรวาลหลัก ซึ่งอาจทำให้รู้สึกว่าพวกเขาเป็นเพียง ส่วนเสริม ของ Multiverse Saga แทนที่จะเป็นส่วนสำคัญของเรื่องราวทั้งหมด สรุป Fantastic Four: First Steps ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเล่าเรื่องราวของทีมซูเปอร์ฮีโร่อีกทีมหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่ที่พูดได้เลยว่า มีลุ้น มันคือการถอดรื้อแนวคิดเดิมๆของ MCU และนำเสนอในรูปแบบที่ทั้งคลาสสิกและทันสมัยในเวลาเดียวกัน ทุกอย่างล้วนชี้ให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะสร้างภาพยนตร์ที่แตกต่างและมีแก่นสารอย่างแท้จริง แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายในการนำเสนอตัวร้ายระดับจักรวาลอย่าง Galactus และการอยู่ในโลกคู่ขนาน แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่ยิ่งใหญ่กว่าในการปูทางเข้าสู่ Multiverse Saga ที่กำลังจะมาถึง การที่ Fantastic Four ถูกแนะนำเข้ามาผ่านโลกคู่ขนานทำให้พวกเขามีเรื่องราวที่เป็นของตัวเองโดยไม่ต้องยึดติดกับเหตุการณ์ใน MCU ที่ผ่านมา Fantastic Four: First Steps ภาคนี้เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากคุณเป็นแฟนของ MCU อยู่ด้วยแล้ว บอกได้คำเดียวเลยว่า "ต้องดู" คะแนน 8.5 / 10 ขอขอบคุณรูปประกอบบทความจาก Facebook.com/MAJORIMAXThailand ภาพปก / 1 / 2 / 3 / 4 / จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !