เครดิตภาพ Facebook Officialหนังเล่าเรื่องของนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนที่มีProject ในารไปสำรวจใต้ทะเลลึก และบังเอิญได้พบปลาฉลามดึกดำบรรพ์สายพันธุ์ เมกกาโลดอน เกิดอุบัติเหตุที่ทำให้พวกเข้าถูกปิดตายสู่ทางออก และหน่วยกู้ภัยอย่าง โจนาส เทย์เลอร์() ที่พยายามลงไปช่วยก็ต้องพบอันตรายจากเจ้าฉลามยักษ์ตัวร้ายนี้เช่นกันหนังมีจุดขายคือฉลามล้วน ๆ เป็นฉลามโบราณขนาดยักษ์ที่ใหญ่ขนแทบจะเทียบกับปลาวาฬได้เลย แต่หนังได้ดาราเจ้าบทบาทอย่างเจสัน สแตทแฮมที่ฝากฝีมือในFast and the Furios ภาค 7 ในฐานะตัวร้าย ภาคนี้เจสันรับบทเป็นนักกู้ภัยทางทะเลลึก ในชีวิตจริงผมไม่รู้ว่าอาชีพนี้มีรึเปล่า เพราะในชีวิตจริงตอนนี้ไม่มีใครไปสร้างฐานลับสำรวจสัตว์ทะเลลึกขนาดนั้น แต่หนังก็คือหนังแหละเนอะ ว่ากันถึงเนื้อเรื่องหนังผูกปมให้กับพระเอกเพราะเขาเคยช่วยชีวิตผู้เคราะห์ร้ายในเรือไม่หมดทุกคน และได้วางมือจากอาชีพนี้ไปนานแสนนาน จนกระทั่งเกิดเหตุก็เลยเรียกพระเอกมาช่วย ตามสูตรเป๊ะไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เครดิตภาพ WarnerBrosไอ้ศูนย์สำรวจในเรื่องนี่ถูกสร้างขึ้นเพราะว่าต้องการจะสำรวจเผื่อจะเจออะไรใหม่ ๆ ใต้ทะเล โดยไม่ได้จำกัดกรอบเลยว่าไอ้ที่ว่าอะไรใหม่ ๆ ที่อยากจะเจอนักเนี่ยมันจะควบคุมได้ไหม แต่ถ้ามองถึงโครงสร้างของศูนย์ก็ถือว่าแข็งแรงนะครับ ต่อให้เป็นปลาฉลามที่แข็งแรงมาก ๆ มาชนหรือกระแทกก็คงไม่พังง่าย ๆ เว้นแต่ว่าจะเป้นสัตว์ขนาดใหญ่มหึมาแต่ก็เป็นไปได้ยาก แต่อะไรมันก็กิดขึ้นได้เพราะในโลกนี้มันไม่มีอะไรแน่นอนความซวยระดับสิบมาเยือนเมื่อการค้นหาและสำรวจสิ่งมีชีวิตดันไปพบเจ้าฉลามยักษ์บิ๊กเบิ้มอย่างเมกกาโลดอน ไม่มีใครเชื่อสายตาที่พบมันเพราะจากข้อมูลการสำรวจเชื่อว่ามันสูญพันธุ์ไป 2 ล้านปีแล้ว เหมือนสัตว์ในยุคไดโนเสาร์เลยแหละ แต่ก่อนหน้านี้เจ้าสัตว์ดึกดำบรรพ์มันก็หลับอยู่ปกติ พอมีการไปสำรวจหรือไปรุกล้ำ เจ้าเมกกาโลดอนก็ตื่นจากบรรทม ออกมาโลดแล่นในมหาสมุทรและขึ้นมายังทะเลเปิดอีกครั้งบทหนังเขียนมาเพื่อส่งตัวละครไปตายอย่างแท้จริง เหมือนตามแบบฉบับหนังที่มีเพชรฆาตเป็นสัตว์ที่น่ากลัวทั่วไป ค่อย ๆ ตาย ค่อย ๆ กลายเป็นเหยื่อโดนกินไปทีละคนไปเรื่อย ๆ ตามสเต็ปเป๊ะ เพราะงั้นถ้าต้องการมาชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในแบบฉบับที่มีคนรอดชีวิตเยอะ ๆ และช่วยกันหนีฉลาม คิดใหม่ได้เลยครับ ตายกันเรื่อย ๆ จนเหลือแต่ตัวหลักแหละเครดิตภาพ Facebook Officialที่น่าตื่นใจคือความดุร้ายและการฆ่าของฉลามตัวนี้ สัญชาติญาณความโหดเหี้ยมของเมกกาโลดอนคือหายนะอย่างแท้จริง คือดูไปต้องมีสะดุงไปแหละ ด้วยความที่มีขนาดตัวและปากที่มหึมามาก แถมเวลาล่าเหยื่อก็จะเคลื่อนตัวอย่างว่องไว ขนาดของตัวไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด เพราะมหาสมุทรคือสนามล่าเหยื่อชั้นเลิศของมันนั่นเอง หนังสร้างเซอร์ไพรส์ให้ผมโดยการทำให้โจนาสเคลียร์เจ้าเมกกโลดอนอย่างรวดเร็ว คำถามคือทำไม เหลือเวลาอีกเยอะเลยกว่าภาพยนตร์จะจบ ระหว่างกำลังคิดตามเลยรู้ว่าสัตว์ทุกชนิดมันต้องมีคู่สินะ คิดยังไม่ทันจะจบเลย อีกตัวโผล่มาแถมหนักกว่าเดิมอีกเพราะโหดร้ายกว่าเดิมมาก ถึงม้ว่าโจนาสจะมีแผนในการกำจัดมันไม่ยากนัก แต่กว่าจะจัดการตัวแรกได้ก็เล่นเอาเหงื่อนท่วมหัวใส ๆ ของโจนาสเลยคะแนนเนื้อเรื่อง 7/10 หนังมีพล็อตเรื่องเดิม ๆ ไม่ได้แปลกใหม่เท่าไหร่ ไม่ได้ต่างจากหนังถูกสัตว์ร้ายตามล่าเรื่องอื่นนัก แต่โดยส่วนมากหนังเรื่องอื่น ๆ จะมีการทิ้งท้ายว่ามีเพชรฆาตตัวที่ 2 ในท้ายเรื่องเพื่อเชื่อมโยงไปในภาคถัดไป แต่หนังอัดสองตัวในภาคเดียวเลย คำถามของผมคือไม่คิดจะทิ้งปมไปภาคสองหน่อยหรอ หรือว่าหลอกคนดูโดยการบอกว่า อ๋อ ภาคสองคงเป็นลูกมันแหละ โตพอกับพ่อแม่เลยมั้ยนะคะแนนเอฟเฟคต์ 10/10 ขอว่าด้วยเรื่องศูนย์สำรวจโลกใต้ทะเลก่อน ที่ถ่ายทอดทัศนียภาพของโลกใต้ทะเลที่สวยงามไว้ ทั้งที่ในความเป็นจริงใต้ทะเลยิ่งลึกยิ่งมืดเพราะแสงอาทิตย์ยากที่จะส่องลงไปถึง ส่วนที่สองอย่างปลาฉลามขนาดซูเปอร์ยักษ์ที่ต้องยกความดีความชอบให้ทีมงาน CG จริง ๆ เพราะขณะนั่งดูไปผมก็ผวาไปว่ามันจะโผล่ออกมางาบหัวมั้ยเครดิตภาพ Facebook Officialข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้1. อย่าสำรวจอะไรซี๊ซั๊วโดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา การสร้างศูนย์สำรวจและวิจัยทางทะเลคือการเปิดโลกทักศน์ใหม่ให้โลกใบนี้ก็จริง แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่าใต้พิภพที่เราพยายามจะขุดให้เจอ มันมีอะไรที่ซ่อนอยู่ การไปปลุกพวกมันนั้น อะไรคือความวอดวายที่จะตามมา2. การโทษตัวเองจากเรื่องในอดีตจนไม่กล้าเดินหน้า เช่นโจนาสที่เขาอำลาอาชีพกู้ภัยทางทะเลลึกเพราะความผิดพลาดในอดีต ทำให้เขาไม่กล้าที่จะช่วยชีิวิตใคร แต่ในความเป็นจริงหากเราผิดพลาดเราก็ควรนำสิ่งนั้นมาเป็นบทเรียนและเดินหน้าให้ดีกว่าเก่าหนังฉลามที่เหมือนจะนอกกระแสแต่กลับฮิตมากมายเหลือเกินด้วยหลายปัจจัย หนังกลายเป็นที่นิยมด้วยการสร้างขนาดฉลามที่ใหญ่เท่ากับปลาวาฬแถมดุร้าย นี่อาจจะเป็นข้อแตกต่างที่ทำให้ภาพยนตร์นอกกระแสเรื่องนี้กลายเป็นม้ามืดเครดิตภาพปก Facebook Official