"Peninsula" อาละวาดทุบสถิติโควิด เปิดตัวแรงที่เกาหลี 5 วันแรกคนดูเฉียด 2 ล้าน
ข่าวสารวงการหนัง Peninsula
ถือว่าน่าจะเป็นหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ฟอร์มใหญ่เรื่องแรกในเอเชีย หรืออาจจะเป็นเรื่องแรกของโลกเลยกว่าได้ ที่ได้เปิดตัวฉายอย่างยิ่งใหญ่หลังจากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา สำหรับ "Peninsula" เรื่องราวต่อเนื่องจาก Train to Busan ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ "ยอนซังโฮ" ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ถือว่าสมศักดิ์ศรีหนังที่มากอบกู้สถานการณ์จริงๆ
KOFIC ได้เปิดเผยตัวเลขบ็อกซ์ออฟฟิศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพบว่า Peninsula ครองแชมป์หนังบนตารางในเกาหลีใต้ได้ตามคาด กับรายได้ 5 วันแรกเก็บไปได้กว่า 15,800 ล้านวอน (ประมาณ 416 ล้านบาท) กลายเป็นหนังเรื่องแรกหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ที่สามารถสร้างสถิติใหม่แบบทิ้งห่างจากเจ้าของสถิติเดิมไปอย่างขาดลอย และถือว่าทำให้โรงภาพยนตร์ในเกาหลีกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง
สำหรับในสัปดาห์แรกของ Peninsula ยังพบว่าทำยอดขายตั๋วและมีผู้ชมสูงถึง 1.8 ล้านใบเลยทีเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับเจ้าของสถิติเดิมอย่าง #ALIVE หนังซอมบี้ทุนต่ำที่เคยเปิดตัวเอาไว้เมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้ว เรียกได้ว่า Peninsula ทำเงินเกือบๆ เท่ากับยอดรวมของ #ALIVE ทั้งรายได้และยอดผู้ชม ถือว่าเป็นหนังที่ครองตลาดหนังเกาหลีในสุดสัปดาห์นี้ได้ไปถึง 93% เพราะด้วยการเทรอบและโรงฉายมากกว่า 2,500 จอทั่วประเทศ
Peninsula อาจจะได้รับกระแสคำวิจารณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่ากับเมื่อภาคก่อนอย่าง Train to Busan คะแนนเฉลี่ยบนเว็บไซต์ daum.net อยู่ที่ 5.8% ห่างจาก 7.3% จากภาคที่แล้ว อีกทั้งยังถือว่าสถิติของหนังยังตามห่างอยู่ค่อนข้างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับในสัปดาห์เดียวกันนี้ เมื่อ 4 ปีก่อน Train to Busan เคยทำรายได้เปิดตัว 5 วันแรกไปสูงถึง 43,800 ล้านวอน และยอดคนดูทะลุ 5 ล้านคน แต่ก็ถือว่าผลลัพธ์ของ Peninsula ค่อนข้างน่าพอใจในสถานการณ์โลกยังเป็นเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม Peninsula น่าจะได้โกยเงินยาวๆ ไปอีกสัปดาห์ เพราะยังไม่มีหนังฮอลลิวูดฟอร์มดีเปิดตัวเป็นคู่แข่ง และโปรแกรมหนังเกาหลีที่น่าจะเข้ามาแย่งซีนต่ออย่าง "Steel Rain 2: Summit" หนังแอคชั่นทริลเลอร์ภาคต่อ จะมาในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม คงต้องติดตามดูกันต่อไปว่า Peninsula จะกวาดรายได้ไปในช่วงโควิด-19 ระบาดแบบนี้ไปสักเท่าไหร่ และแน่นอนว่าหนังจะขึ้นเป็นแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศในอีก 5 ประเทศที่เปิดตัวพร้อมๆ กันด้วย สามารถโกยเงินรวมกันได้ราวๆ 5 ล้านเหรียญในสัปดาห์แรก สำหรับที่เมืองไทยจะเข้าฉาย 23 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
----------------------------------------------------