สวัสดีครับผม "น้องฟักทอง" อีกเช่นเคยวันนี้ผมจะมารีวิวหนังเรื่องใหม่จากค่ายจักรวาลมาร์เวล สตูดิโอส์ ที่คอหนังทั่วโลกรอคอยอย่าง Guardian of the Galaxy Vol.3 นะครับMarvel Studios’ Guardians of the Galaxy Vol.3 เป็นเรื่องราวการเดินทางของเหล่าแก๊งคนเหิ้ยมแห่งกาเล็คชี่เมื่อพวกเขาถูกโจมตีจนร็อคเก็ตได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาที่เหลือต้องออกเดินทางเพื่อหาวิธีรักษาร็อคเก็ตให้ได้ทั้งแผลกายและใจ และภารกิจครั้งนี้จะเป็นการเดินครั้งสุดท้ายของพวกเขาด้วย บทสรุปของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต้องติดตามกันในโรงภาพยนตร์เท่านั้นความรู้สึกหลังจากดูจบ คือว่าดีงามเกินคาดเลยหลังจากผิดหวังกับจักรวาลนี้ติดกันสามเรื่องก่อนหน้ามาแล้ว พอเรื่องนี้ก็ยิ่งพิสูจน์ได้ว่าผู้กำกับ "เจมส์ กันน์" ยังมือถึงกับการกำกับหนังแฟรนไชส์สุดนี้อยู่ไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งตัวหนังยังมีความพยายามสร้างรสชาติแบบใหม่สไตล์เจมส์ กันน์ ไม่ให้สูตรสำเร็จมากลบรสชาติให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าติดตามไม่เอี่อยเฉีอยและยังสอดแทรกประเด็นโหดๆใกล้ตัวเหมือนที่กันน์เคยทำใน "THE SUICIDE SQURD" "ไว้ด้วยเชื่อว่าทุกคนต้องอดใจสลายกับประเด็นนี้ไม่ได้เลย เพราะมันทำงานกับเราได้รุนแรงมากส่วนในเรื่องของตัวละครในเมื่อภาคนี้เป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของเหล่าการ์เดี้ยนนอกจากเราจะเห็นอดีตอันน่าเศร้าของร็อคเก็ตแล้ว ตัวละครที่เหลือก็ต้องเคลียร์ภายในใจตัวเองให้ได้เหมือนกันถึงแม้จะไม่ลงลึกมาก แต่ก็สามารถสรุปออกมาได้ดีงามมากจริงๆ ในทางตัวร้ายของเรื่องจะมีอยู่สองตัวร้ายด้วยกันอาทิเช่น The High Evolutionary แสดงโดย Chukwudi Iwuji กับ Adam Warlock แสดงโดย Will Poulter ทั้งคู่ก็ทำหน้าที่ตัวร้ายได้ดี โดยเฉพาะตัวละครร้ายหลักๆของเรื่อง The High Evolutionary ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวละครที่เน้นสู้เก่งขนาดนั้นเขาจะใช้พลังอำนาจของเขาปลดปล่อยออกมาได้น่าสะพรึงกลัวและสยดสยองที่สุด อ่านไม่ผิดหรอกครับ "สยดสยองที่สุด" Multiverse of Madness ว่าหยองแล้วนะ อันนี้คือยิ่งกว่าอีกเพราะตัวร้ายตนนี้จะมีความสยองสไตล์ Body Horror ที่เรียกว่าแนวสยองขวัญที่เล่นกับทุกส่วนของร่างกาย แถมโทนของยานใหญ่ของตัวร้ายก็จะมีความสีแดงจ๋าๆไปเลยทำให้อดนึกถึงหนังของ "เดวิด โคเนนเบิก" อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนตัวละครร้ายรองลงมาอย่าง Adam Warlock ที่เขาอุตสาห์ปูมาตั้งแต่ภาคที่ 2 แล้ว พอเกิดออกมาเจอคนที่ร้ายกว่าเลยกลายเป็นตัวละครที่พลังโหดแต่ขายขำอย่างเดียวส่วนในเรื่องเพลงประกอบก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ด้วยสองภาคก่อนที่เป็นเพลงในยุคที่เทปคาสเช็ตกำลังบูมพอยุคเทปหมดไปยุคเพลงไฟล์ MP3 ก็ก้าวเข้ามาในยุค 90s ถึง 2000s ต้นๆ จึงเริ่มมีเพลงที่ทุกคนพอเกิดทันบ้างอย่างเพลง Creep เวอร์ชั่นอะคูลสติก โดย Radiohead และ Dog Day Are Over โดย Florence + the Machine ซึ่งเป็นตัวแทนของการพัฒนาของตัวละครตามยุคของเพลงได้ชัดเจนและเขากับตัวหนังมากๆสรุป - Guardians of the Galaxy Vol. 3 เป็นอีกเรื่องราวในจักราวาลที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เรื่อง Multiverse of Madness เพราะนับตั้งแต่สองสามเรื่องต่อจากนั้นคือต่ำกว่ามาตรฐานจนน่าใจหาย พอมาเรื่องนี้ก็พอจะกอบกู้ศักดิ์ศรีมาร์เวลได้ไปหน่อยหนึ่ง ด้วยตัวหนังที่ส่งคนดูได้อย่างครบรสทั้งสนุก สุข เศร้า ลุ้น และสยองขวัญ ตัวหนังมีมาให้หมดแล้ว และเป็นบทสรุปส่งท้ายของแก๊งคนเหิ้ยมแห่งจักรวาลได้อย่างสวยงามอีกด้วย จึงไม่อยากให้แฟนๆมาร์เวลชาวไทยที่กำลังหมดศรัทธากับจักรวาลนี้แล้วได้มาลิ้มลองสักอีกเรื่องเพราะไม่รู้ว่าเรื่องต่อๆไปของจักรวาลนี้จะกลับมาดีขึ้นอีกไหม?? ก็คงเป็นอีกเรื่องที่ต้องรอลุ้นกันต่อไปนะครับ... Guardians of the Galaxy Vol. 3 เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้นทั้งระบบปกติ, ระบบ3D, IMAX3D, 4DX, Dolby Atmos และ Screen X เครดิตภาพ- Marvel Studios Thailand- Fandangoภาพปก, ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6, ภาพที่ 7 คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน