Short CommentThe Eight Hundred : นักรบ 800 (2020)นี่คือหนังทำเงินถล่มทลายในบ้านเกิดจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรถ้าดูจนจบสองชั่วโมงกว่าไปแล้ว เมื่อหนัง เล่าถึงวีรกรรมของทหารจีน ในช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ามารุกรานในปี 1937 ที่ชาวจีนรู้จักกันดีในชื่อ ยุทธการเซี่ยงไฮ้ หนังตีตราว่าสร้างจากเหตุการณ์จริง ที่ทหารจีนจำนวน 400 นาย แต่บอกกับนักข่าวว่ามี 800 นายเพื่อสับขาหลอก พวกเขายึดที่มั่นสุดท้ายที่โกดังสี่ห้าง เพื่อปกป้องนครเซี่ยงไฮ้ที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ และทหารจีนที่มีทั้งทหารอาชีพ และเหล่าชาวนาที่ถูกเกณฑ์มา มีเพียงจำนวนหยิบมือถ้าเทียบกับทหารญี่ปุ่น ทว่า ทหารที่มีเพียงน้อยนิด กลับสามารถต้านทานการบุกกระหน่ำของญี่ปุ่นได้ถึงสี่วัน ผ่านเหตุการณ์วัดใจ และการพลีชีพอย่างกล้าหาญ ที่ปรากฎต่อสายตาประชาชนที่อยู่อีกฝั่งของสะพาน ประหนึ่งเป็นคนละโลก แม้สุดท้ายน้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟ แต่วีรกรรมของเหล่าทหารผู้กล้า ก็ได้จารึกเป็นประวัติศาสตร์ให้อนุชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงซึ่ง ถ้าว่ากันที่ความเป็นหนังที่สร้างมาจากเรื่องจริง ที่มันต้องมีการเขียนอะไรใส่ไข่ลงไปบ้าง เพื่อให้ดูเป็นความบันเทิง แต่ เมื่อนี่คือหนังที่สร้างมา เพื่อกะจะเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงไม่ต้องแปลกใจมากมาย ที่ตลอดระยะเวลาสองชั่วโมงกว่า จะเต็มไปด้วยบทสนทนาปลุกเร้าความรักชาติ รักศักดิ์ศรีความเป็นคนจีน ความเสียสละ การพลีชีพเพื่อชาติ กับฉากและเหตุการณ์มากมาย ที่จัดมาเพื่อที่จะให้เร้าอารมณ์ ทำให้เลือดลมพุ่งพล่านมาได้ ตามแบบหนังขายความเป็นชาตินิยม หรือเรียกอีกอย่างว่าโปรจีนเต็มที่ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร เพราะหนังจากทุกชาติทุกภาษา ก็มีแบบนี้ ซึ่ง อาจมีบ้างที่ดูเกินเลย จนเห็นว่าดูจงใจ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดจนต้องเบือนหน้าหนี แล้วก็ได้ผลดี เพราะมีบ้างที่รู้สึกไปกับตัวละครทหารเหล่านั้น ที่ต้องสู้แบบหมาจนตรอก แต่ชาติ ศักดิ์ศรี หน้าที่ และสหายร่วมรบ ทำให้ถอยไม่ได้ อันนำมาซึ่งอารมณ์ที่จับต้องได้ ในระดับที่น่าพอใจแต่ ด้วยเวลาฉายที่มี กับการที่หนังเลือกเล่าสองมิติ แต่กลับพยายามลึกไปด้านเดียว ทำให้สามารถลงมิติได้ดีเพียงด้านเดียว คือฝั่งของทหาร แต่กับฝั่งประชาชนที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ กลับสัมผัสไม่ได้ ทำให้น่าเสียดาย เพราะมีช่องให้เล่นมากมาย แต่เลือกจะไม่เล่าให้ลึก แล้วไปเล่าในมุมทหารบางคนจนดูเยอะไป ทำให้บางช่วงดูอืด และนั่นก็คือการพยายามใส่หัวใจ ให้กับหนังสงครามตามหน้าประวัติศาสตร์ ที่ไม่ค่อยมีภาพที่รื่นรมย์นัก ซึ่งก็ถือว่าได้ผลดี เพียงแต่ข้อแม้ทีมีคือ ผู้ชมที่ไม่อินไปกับประวัติศาสตร์ตรงนี้ จะต้องมองข้ามโฆษณาชวนเชื่อที่จัดมาอย่างหนักตลอดทาง ไปให้ได้ แต่โดยรวมแล้วตัวบทก็ยังทำหน้าทีได้ดี เพราะเรื่องแบบนี้ เรื่องของพวก Underdog ที่ปกติมักจะได้ใจผู้ชมอยู่แล้ว และเหมือน กวนหู ผู้กำกับจะเข้าใจจุดนี้ดี จึงมีเหตุการณ์มากมายที่ให้เห็นว่าทหารจีนต้องสู้ด้วยข้อจำกัด แล้วก็ทำให้อารมณ์ผู้ชมมาเต็มที่ อันนำมาซึ่งความสนุก ลุ้นระทึก เอาใจช่วยอีกส่วนที่ทำได้ดี คืองานด้านบทที่ดูเบาลงมาก ถ้าว่ากันที่เรื่องของสงครามและการรุกรานของญี่ปุ่น เมื่อไม่ได้ตราหน้าทหารญี่ปุ่นผู้รุกราน ให้เป็นปีศาจร้ายน่ารังเกียจ ดังเช่นที่เคยเห็นมาในงานก่อนๆ เดากว่าหนังคงมีเจตนาไปยังตลาดนอกประเทศ เลยเบามือลง กับอีกส่วนคือ การกล้าๆใส่ความน่ารังเกียจทางนโยบาย ที่มาจากเบื้องบน จากคนที่ไม่ได้อยู่ในสนามรบ และให้การรบเป็นแค่การประชาสัมพันธ์ ให้ผู้อยู่ในสถานการณ์จริง ที่ต้องแลกด้วยชีวิต เลือดเนื้อของสหายร่วมรบ ต้องลำบากใจ เพราะหน้าที่และคำสั่ง มันอาจขัดขืนกับหัวใจ และส่วนนี้ก็ดูลงตัวดีแต่ส่วนที่เลิศหรูที่สุด คงจะเป็นฉากรบ ที่ใช้ทุนสร้างจากเรื่องนี้ระดับ 80 ล้านเหรียญ ได้คุ้มค่าทุกสตางค์ เมื่อหนังเสนอฉากรบที่สมจริง มุมกล้องที่เหมือนตามติดชะตากรรมของเหล่าทหาร ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้น ตระหนก หวาดหวั่น อึดอัด หรือฮึกเหิมไปพร้อมกับตัวละคร พร้อมทั้งการใส่ภาพความรุนแรงที่จัดมาเต็มที่ กับการรบที่แต่ละช่วงกินเวลานาน จนทำให้ผู้ชมรู้สึกกว่า เมื่อไหร่มันจะสิ้นสุด ไม่ต่างจากทหารที่หวดกลัวสนามรบ รวมทั้งงานด้านซาวด์ ที่เมื่อเจอเครื่องเสียงดีๆ อาจมีโยกหัวหลบกระสุนกันบ้าง พร้อมกับงานเพลงประกอบ ที่ทำหน้าที่ส่งได้ทุกอารมณ์ตามจังหวะอันควรสรุปคือ นี่คืองานที่ดูดี เป็นงานที่ถึงฟอร์มการสร้าง ถึงอารมณ์ในการนำเสนอ เพียงแต่ยังไม่ถึงขั้นประทับใจ ให้เขียนบทความขนาดยาวจัดเต็มได้ เนื่องเพราะ หนังยังมีริ้วรอยทั่วไป ที่ใหญ่ๆเลยคือเมื่อเลือกเสนอสองฝั่งแม่น้ำ ให้เหมือนนรกกับสวรรค์แล้ว น่าจะขยี้ให้มากกว่านี้ได้ แต่ กลับเลือกเล่าในส่วนที่ไม่จำเป็น แต่ปล่อยปละละเลยมิติที่จำเป็น จนทำให้วีรกรรมของประชาชนที่พยายามมอบมาให้ ไม่ได้ใจ จนทำให้ไม่รู้สึกว่าพวกเขาทำด้วยใจจริงๆ แต่ ไม่ว่ายังไง นี่ก็คืองานที่ดี ที่มีความบันเทิงมาคู่กับคุณภาพ และถ้าเอามาตรฐานหนังจีนมาวัด เรื่องนี้จัดว่าเป็นความเยี่ยมได้ ในบางมุม เพียงแต่ มันยังดูจงใจไปในบางลีลา การเสนอเรื่องราวสองด้านดูไม่สมดุล จนทำให้กลายเป็นหนังชั้นดี ที่ดูสนุก มีความบันเทิง มีคุณภาพที่น่าพอใจ แต่ก็ยังไม่ถึงระดับเข้าไปนั่งในใจได้แต่ถ้าถามว่าควรดูหรือไม่ ต้องบอกว่า ควรดูด้วยประการทั้งปวงNETFLIX ดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 จาก Facebook The Eight Hundredจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !