Ne Zha (2019) นาจาDirector: Yu Yang (as Jiaozi) ตั้งแต่ เฟซบุ๊ก (Facebook) เข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตของคนเรา ตั้งแต่เริ่มมี เฟซบุ๊กแฟนเพจ (Facebook Fan Page) ขึ้นมา หลายคนที่มีความชื่นชอบ มีไอเดีย ก็มักนำเสนอสิ่งที่ชื่นชอบลงไปในช่องทางที่สร้างขึ้นมา ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ชอบดูหนัง แล้วอยากนำเสนอตัวตน ความคิดเห็นที่มีต่อหนังเรื่องนั้นๆที่ได้ดู จึงได้สร้างเพจ ปีนรั้วดูหนัง ขึ้นมา ซึ่งตัวผมเองไม่ได้มองว่าถึงจุดไหนจึงจะเรียกว่าความสำเร็จ เพราะคิดว่า "แค่ได้ทำมันก็สำเร็จแล้ว" แต่แล้ววันหนึ่งเพจเล็กๆเพจหนึ่งที่มีคนติดตามสี่พันกว่าคน ก็ได้รับการติดต่อให้ไปร่วมชมรอบสื่อของหนังแอนนิเมชั่นเรื่อง "นาจา" จาก T&B Media Global Thailand มันก็เหมือนผมได้ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง ที่นอกจากจะเอาชนะตัวเองและได้ทำสิ่งที่ชื่นชอบแล้ว ก็ยังทำให้เห็นว่าสิ่งที่เราทำไม่ได้มีแค่เราที่เห็นคุณค่า แต่ยังมีคนอื่นที่มองเห็นคุณค่าของสิ่งที่เราทำเช่นกัน เมื่อพลังแห่งสวรรค์และโลกได้ให้กำเนิดไข่มุกพลังวัตร ที่หลอมรวมพลังมหาศาลไว้ด้วยกัน หยวนสือเทียนจุน เทพเจ้าสูงสุดในสวรรค์ จึงสกัดไข่มุกนั้นออกเป็นสองลูก ลูกหนึ่งกลายเป็นไข่มุกสวรรค์ ส่วนอีกลูกเป็นโอสถปีศาจ ก่อนจะนำพวกมันไปเก็บไว้ในบัววิเศษเจ็ดสี ไข่มุกสวรรค์ถูกกำหนดให้จุติเป็นมนุษย์ ที่จะมีส่วนในการก่อตั้งราชวงศ์โจว ในขณะที่โอสถปีศาจถูกลิขิตให้จุติเป็นปีศาจร้ายที่จะมาทำลายล้างโลก เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น หยวนสือเทียนจุน จึงได้ร่ายคาถาฟ้าพิโรธใส่โอสถปีศาจ เพื่อให้มันถูกทำลายภายในเวลาสามปี เทพไท่อี่ ได้รับบัญชาให้นำไข่มุกสวรรค์ ไปจุติในครอบครัวของแม่ทัพหลี่จิ้ง เพื่อให้กำเนิดบุตรขึ้นมาและตั้งชื่อว่า "นาจา" แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อ เซินกงเป้า ศิษย์น้องจอมอิจฉาของ เทพไท่อี่ ได้สลับไข่มุกสวรรค์กับโอสถปีศาจ นาจา จึงถือกำเนิดขึ้นมาด้วยพลังโอสถปีศาจ จากลิขิตสวรรค์ที่จะต้องเกิดมาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ กลับกลายเป็นพญามารผู้ที่จะมาก่อภัยพิบัติขึ้นซะเอง ส่วนไข่มุกสวรรค์ถูกน้ำไปใส่ไว้ในไข่มังกร กำเนิดมาเป็น เอ๋าปิ่ง บุตรชายของราชามังกร นาจา จึงต้องฝ่าฟันต่อชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้ ส่วน เอ๋าปิ่ง ก็ต้องหาคำตอบให้กับตัวเองว่า จะเลือกเส้นทางที่ถูกบิดเบือนหรือกลับสู่หนทางที่ถูกต้องของตนเอง ก่อนจะเขียนรีวิวแอดขอออกตัวก่อนว่าไม่ใช่คอแอนนิเมชั่น เลยคงไม่สามารถลงรายละเอียดในแง่ของงานภาพ การเคลื่อนไหว หรือเทคนิคพิเศษได้ คงเขียนได้เฉพาะผลลัพธ์ที่ได้หลังจากดูจบแล้วเท่านั้น นาจา เรื่องนี้เป็นแอนนิเมชั่นรายได้สูงสุดของประเทศจีน แถมในช่วงปิดโปรแกรมฉายยังทำเงินติด TOP 10 รายได้รวมทั่วโลกอีกด้วย (แต่ก่อนสิ้นปีไม่รู้จะมีเรื่องไหนทำรายได้แซงอีกไหม) ด้วยความที่ไม่ใช่คอแอนนิเมชั่น แถมไม่ได้ดูหนังเอเชียพากย์เสียงไทยมาพักใหญ่ ความคิดแรกของแอดก่อนมีโอกาสไปดูก็คือ งานพากย์เสียงจะไหวไหม เพราะความเป็นแอนนิเมชั่น การให้เสียงพากย์จึงสำคัญเป็นลำดับต้นๆ แถมพอเป็นแอนนิเมชั่นเอเชีย ซึ่งอย่างที่รู้กันว่างานพากย์หนังเอเชียที่มีความตลกเจือปน บางเรื่องก็ตลกเกินพอดีด้นมุกสด จนอารมณ์ในบางฉากของหนังเสียไป แต่หลังจากดู นาจา เรื่องนี้จบแล้ว ถือว่าเป็นแอนนิเมชั่นอีกเรื่องหนึ่ง ที่พากย์เสียงไทยได้ดีมาก ไม่ขาดไม่ล้นจนเกินไป เข้ากับคาแรคเตอร์ของแต่ละตัวละคร ช่วงตลกโปกฮาก็ไปสุดทาง ปล่อยมุกขำกระจาย แต่เมื่อดึงอารมณ์เข้าโหมดดราม่า จังหวะน้ำเสียง อารมณ์ของตัวละคร ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดี ฉะนั้นใครที่กลัวว่าเสียงพากย์จะไม่เข้ากับหนัง ตรงนี้แอดคอมเมนต์ได้ว่า ไม่ต้องกลัวเลยสำหรับจุดนี้ทำได้ดีจริงๆ การเล่าเรื่องของหนังทำออกมาสมกับเป็นแอนนิเมชั่นนั่นแหละ เน้นเข้าถึงได้ง่ายทุกช่วงวัย ย่อยง่ายไม่ซับซ้อน ส่วนหนึ่งคงเพื่อโฟกัสกับสิ่งที่หนังพยายามสื่อสารได้เต็มที่ ในประเด็นการต่อสู้กับโชคชะตาที่ไม่เป็นธรรม คำดูถูกของคนอื่น ในแง่มุมนี้หนังสื่อสารออกมาได้ชัดเจนมาก เมื่อชีวิตของ นาจา เรียกว่าตั้งแต่เกิดมาวันแรกเลย เขาก็แทบจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ต่อ ถึงกระนั้นแม้เขาจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป ก็ต้องเจอกับคำคนมากมาย ที่ดูถูกชาติกำเนิดของเขาว่าเป็นปีศาจ ส่วน เอ๋าปิ่ง เองเอาจริงก็มีดราม่าไม่น้อยไปกว่า นาจา เท่าไหร่ เมื่อเขาเองก็ดันถูกสลับไปอยู่กับเผ่ามังกร แต่เนื้อหาส่วนของ เอ๋าปิ่ง แอดขอไม่เอ่ยถึงก็แล้วกัน ในตัวอย่างหรือเรื่องย่อไม่ได้กล่าวถึง เดี๋ยวจะกลายเป็นสปอยเนื้อหาไปซะ หนังแอบมีการพูดถึงทัศนคติการมองคน ว่าบางครั้งคนเราก็ตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก ว่าใครดีใครไม่ดี ทั้งที่ความจริงบางครั้งภายนอกที่เราเห็น มันก็ไม่ได้สะท้อนสิ่งที่อยู่ภายในใจเสมอไป ความสัมพันธ์ของสองตัวละครเอก นาจากับเอ๋าปิ่ง ก็น่าจะเป็นอะไรที่คอหนังจีนกำลังภายในคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ในเรื่องของมิตรภาพลูกผู้ชาย ส่วนสาววายหนุ่มวายก็อาจจะแอบจิ้น มโน Bromance ไปได้ด้วยเช่นกัน แต่เดี๋ยวจะว่าผมอวยซะทุกอย่าง เพราะเขาให้ไปดูรอบสื่อ ไหนๆพูดถึงว่าหนังย่อยง่ายเข้าถึงได้ทุกวัยแล้ว เอาจริงสำหรับแอดที่อายุไม่น้อยแล้ว ถึงจะยังบันเทิงไปกับหนังได้มากอยู่ก็จริง แต่ก็แอบเสียดายที่เนื้อหาของหนังน้อยไปหน่อย หากใส่เนื้อเรื่อง ปมความซับซ้อนเพิ่มเข้ามาอีก ตัวละครจะมีมิติ หนังก็น่าจะออกรสชาติได้มากขึ้นกว่านี้ ซึ่งตรงนี้จะบอกว่าเป็นข้อเสียไหมก็พูดยาก มันคงเป็นเรื่องของช่วงวัย กับรสนิยมของคนดูเสียมากกว่า ซึ่งหากเป็นคนที่เลือกดูหนังเพื่อนันทนาการ เป็นความบันเทิงอย่างหนึ่งเพื่อการพักผ่อน ความย่อยง่ายของหนังน่าจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์นั้นได้ตรงใจอยู่แล้ว ส่วนที่ดีงามที่สุดสำหรับผมในแอนนิเมชั่นเรื่องนี้ เห็นจะเป็นมุกตลก ความฮาแตก ที่ก่อนดูไม่คิดว่าจะมาเต็มเบอร์นี้ บางฉากนี่ทำให้แอบนึกถึงหนังเรื่องบ้านผีปอบ ของไทยเราเหมือนกัน เรียกว่าสารพัดที่จะครีเอทมุกกันขึ้นมาได้ ฉากแอคชั่นก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ภาพรวมทำได้ดี จะมีแค่บางฉากที่ภาพไวจนมองแทบไม่ทัน ส่วนใหญ่ยังเป็นฉากแอคชั่นแบบยาวจัดเต็ม สลับกับการแทรกความตลกเข้ามา แต่ลงตัวไม่รู้สึกว่ามันไม่เข้ากันหรือทำให้ขาดช่วงเสียด้วย สรุปแล้ว Ne Zha (2019) นาจา เป็นแอนนิเมชั่นจากจีนที่ทำออกมาได้ดีเลยนะ หนังถูกเล่าผ่านการตีความจาก “เจี่ยวจือ” ผู้กำกับหนุ่มที่อยากส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับผู้คนรุ่นใหม่ ไม่อยากให้ผู้คนยอมแพ้กับชาติกำเนิด โชคชะตาที่ไม่เป็นใจ คำบูลลี่ (Bully) ดูถูกของคนอื่น ถึงมันจะต้องใช้แรงใจและไม่ได้เอาชนะได้ง่ายๆ แต่สุดท้ายมันก็มีแค่ตัวเรานี้แหละ ที่กำหนดทางเดินชีวิตของเราเอง ว่าจะเป็นอย่างชะตาที่กำหนดหรือจะสู้ให้ถึงที่สุดเครดิตภาพถ่ายของผมเองจากของที่ระลึกในงาน เขียนโดยแอดมิน เพจ ปีนรั้วดูหนัง ขอขอบคุณ T&B Media Global Thailand ที่ให้โอกาสมา ณ ที่นี้ด้วยครับ