รีวิว The Noel Diary (บันทึกของโนเอล) หนังรักดราม่าในวันคริสต์มาส เปิดเรื่องมาดีแต่จบแบบพิลึก บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ The Noel Diary (บันทึกของโนเอล)ภาพยนตร์รักสุดหม่นหมองที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศของวันคริสต์มาส โดยจะว่าด้วยเรื่องราวของ เจคอบ (รับบทโดย Justin Hartley) นักเขียนนวนิยายชื่อดังที่มีปมในใจ เขาออกจากบ้านมาใช้ชีวิตคนเดียวตั้งแต่อายุ 17 ปี ทำให้เขาไม่ได้ติดต่อกับแม่และพ่อมาหลายสิบปี จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้รับข่าวว่าแม่ของเขาได้เสียชีวิตไปและเธอได้มอบมรดกทั้งหมดให้แก่เขาซึ่งรวมถึงบ้านที่เขาเคยอาศัยในตอนเป็นเด็ก ด้วยเหตุนี้ เจคอบจึงเดินทางกลับไปที่บ้านเพื่อเคลียร์ของต่างๆ ที่แม่ทิ้งไว้ เมื่อไปถึงเขาก็ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่มายืนด้อมๆ มองๆ อยู่หน้าบ้านของเขา ทั้งคู่ได้คุยกันและได้รู้ว่าเธอมีชื่อว่า เรเชล (รับบทโดย Barrett Doss) เธอมาที่บ้านนี้เพื่อถามหาผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยเป็นพี่เลี้ยงของเจคอบตอนเขายังเป็นเด็ก เนื่องจากผู้หญิงคนนั้นคือแม่แท้ๆ ของเธอ เจคอบที่จำไม่ได้แล้วว่าพี่เลี้ยงคนนั้นคือใคร ด้วยเหตุนี้เจคอบและเรเชลจึงต้องเดินทางร่วมกันเพื่อตามหาแม่ของเรเชลและก็เป็นโอกาสอันดีที่เจคอบจะได้พูดคุยกับพ่อของเขาอีกครั้งหลังจากไม่ได้ติดต่อกันนาน 35 ปี ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง The Noel Diary (บันทึกของโนเอล) รับชมได้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflixตัวอย่าง The Noel Diary (บันทึกของโนเอล)รีวิว The Noel Diary (บันทึกของโนเอล)สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ตอนแรกผมก็คิดว่าจะเป็นแนว โรแมนติก-คอมเมดี้ เพราะด้วยโปสเตอร์รวมถึงชื่อหนัง แถมยังมาในบรรยากาศวันคริสต์มาสอีก แต่ปรากฎว่าหนังดันมาในโทนดราม่าหม่นหมองแบบเข้มๆ เลย ซึ่งหากใครที่ชอบดูหนังดราม่าก็น่าจะเพลิดเพลินกับหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก แต่หากว่าไม่ใช่แนวนี้ผมคิดว่าหลายคนอาจจะเบื่อจนทนดูให้จบไม่ได้ เพราะตัวหนังจะเล่าเรื่องไปแบบช้าๆ ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นหรือน่าติดตามเป็นพิเศษ ในส่วนของตัวบทสำหรับผมถือว่าทำมาได้ดีในระดับหนึ่ง มีการวางปมปัญหาตัวละครมาอย่างชัดเจน เก็บรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ ได้ดี และด้วยความที่บทมันทำมาได้ดีระดับนึง เลยทำให้ตัวหนังมีประเด็นที่น่าสนใจและทำให้เราอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป มีพัฒนาการของตัวละครให้เห็นแบบชัดเจน โดยเฉพาะตัวละครพระเอกที่วางปมมาได้ดีมากปมของพระเอกคือ เขาเป็นชายที่ประสบความสำเร็จมีชื่อเสียง หน้าตาดี แต่ยังโสด แถมยังมีปมเรื่องครอบครัวคือทะเลาะกับแม่ซึ่งหนังไม่ได้บอกนะว่าเพราะอะไร รู้แค่ว่าที่ไม่คุยกับพ่อเพราะคิดว่าพ่อไม่รัก ด้วยเหตุนี้มันเลยทำให้ตอนต้นเรื่องพระเอกจะยังเป็นคนที่ดูหม่นหมองและเหมือนยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว และสิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือพระเอกเป็นคนที่อารมณ์ค่อนข้างอ่อนไหว แถมพอมาเจอกับเรเชลที่มีปมเรื่องครอบครัวเหมือนกันคือเธอไม่เคยเจอหน้าแม่และคิดว่าแม่ไม่เคยรักเธอเลย ทีนี้พอคนที่มีปัญหาคล้ายๆ กันมาเจอกันมันเลยทำให้เกิดความสัมพันธ์บางอย่างขึ้น ส่วนนี้แหละที่ผมบอกว่าทำมาดี นอกจากนี้หนังยังใส่เรื่องไดอารี่เข้ามาอีก มันให้อารมณ์แบบหนังสืบสวนหน่อยๆ ผสมเข้ากับการเดินทางไปหาพ่อพระเอกที่ให้อารมณ์แบบหนัง Road Trip สิ่งเหล่านี้นี่แหละที่ผมมองว่าเป็นตัวชูโรงให้หนังมีความน่าสนใจและทำให้เราไม่รู้สึกเบื่อไปเสียก่อน เพราะประเด็นในเรื่องมันดราม่าหนักๆ ทั้งนั้นเลย อีกอย่างที่ชอบคือไดอาล็อกการพูดของตัวละคร ที่จะไม่พูดอธิบายยืดยาวเน้นสื่อสารแบบง่ายๆ ให้เข้าใจ อย่างฉากที่พระเอกเอาไดอารี่ไปให้แม่นางเอก คือพระเอกพูดไม่กี่คำ แต่มันก็สามารถเข้าใจได้ สิ่งนี้มันช่วยส่งให้ซีนนั้นดูทรงพลังและน่าจดจำขึ้นกว่าเดิมอย่างไรก็ตาม แม้ว่าผมจะชมว่าบทเขียนมาดีและน่าสนใจ แต่สุดท้ายตัวหนังก็มาตกม้าตายในตอนท้ายของเรื่อง ฉากหนึ่งที่ผมมองว่ามันทำให้อารมณ์ที่ผมมีกับหนังเรื่องนี้เปลี่ยนไปเลยคือฉากที่พระเอกกับนางเอกมีอะไรกัน คือนางเอกมีคู่หมั้นอยู่แล้วแถมพระเอกก็รู้แต่ก็ยังทำ มันเลยทำให้ผมมองพระเอกเปลี่ยนไปเลย เข้าใจได้ว่าเรื่องแบบนี้มันอาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงได้ แต่พอเป็นหนังและพระเอกทำแบบนี้ มันกลายเป็นว่าผมไม่อินกับความรักของทั้งคู่ไปเลย คือเราเห็นนะว่าพระเอกก็เป็นคนดีแหละ แต่พอทำแบบนี้คือไม่เห็นใจเลย ส่วนตัวผมมองว่าหากทำฉากนั้นให้จบลงที่แค่เผลอจูบกันและนางเอกคิดได้ก็คงจะดีกว่านี้ แต่หนังดันจบท้ายได้แย่กว่าเดิมด้วยการให้พระเอกไปตะโกนบอกรักนางเอกที่รอคู่หมั้นอยู่ พร้อมกับบอกว่า "บอกซิว่าคุณไม่รักผม ผมถึงจะยอมไป" คือฉากนี้สำหรับผมไม่ได้มีความโรแมนติกอะไรเลย โคตรดูเสร่อเลยจริงๆ และจบด้วยการที่นางเอกหนีคู่หมั้นมาหาพระเอก ทั้งที่คู่หมั้นไม่ได้ผิดอะไรเลย ผมอินไม่ลงจริงๆ มันควรจบด้วยการให้ทั้งคู่แยกย้ายกันไป ถือว่าได้แก้ปมเรื่องครอบครัวก็ยังดีและให้เรื่องความรักไม่สมหวัง เพราะมันถูกที่แต่ผิดเวลา ถ้าหากจบแบบนั้นหนังจะน่าจดจำมาก แต่อันนี้คือกลายเป็นทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบหนังไปเลย สุดท้ายนี้อย่าเชื่อทั้งหมดที่ผมรีวิว รีวิวนี้เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวของผมเท่านั้น ทางที่ดีคือทุกคนต้องไปดูด้วยตาตัวเอง สุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับชื่อเรื่อง: The Noel Diary (บันทึกของโนเอล)ประเภท: โรแมนติก, ดราม่า, ชีวิตความยาว: 99 นาทีระบบเสียง: เสียงไทยและบรรยายไทยช่องทางการรับชม: Netflix ผ่านกล่องทรูไอดีช่องทางอื่นๆ ในการติดตาม ละเลงหนังFacebook Fanpage : ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก By ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง :รีวิว Slumberland (สลัมเบอร์แลนด์) ภาพยนตร์ผจญภัยที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี สนุกเกินคาดพร้อมพากย์ไทยทาง Netflixรีวิว Revenge of Others (2022) ซีรีส์เกาหลีแนวระทึกขวัญเรื่องใหม่ที่ทุกคนไม่ควรพลาด!รีวิว Wednesday (เวนส์เดย์) ซีรีส์ของดีที่ทุดคนต้องดู! ผลงานจากผู้กำกับ Tim Burton ดูได้ทาง Netflix [มีพากย์ไทย]รีวิว Somebody (แอปรักแอบฆ่า) ซีรีส์แนวสืบสวนจากเกาหลีที่ใส่หลายอย่างเข้ามาจนล้นและไปไม่สุดซักทางรีวิว Christmas with You (คริสต์มาสนี้... ขอมีเธอ) หนังรอมคอมฟีลกู๊ดที่แสนเรียบง่าย แต่อัดแน่นไปด้วยความอบอุ่นและบรรยากาศในวันคริสต์มาสแหล่งที่มาภาพปก : ภาพที่ 1 จาก Twitter: Courtney Howardภาพประกอบ : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 จาก Instagram: justinhartley / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 จาก Twitter: Courtney Howardวิดีโอ : The Noel Diary | Official Trailer จาก Youtube : Netflix จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !