วิล สมิธ ยืนยัน กลับมารับบทนำร่วมกับ ไมเคิล บี.จอร์แดน ใน "I Am Legend 2"
‘I Am Legend’ ออกฉายเมื่อปี 2007 หนังประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ทำเงินทั่วโลกไป 585 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่ 150 ล้าน แม้ว่าหนังจะทำกำไรไปอย่างน่าพอใจ แต่ก็ยังใช้เวลากว่า 15 ปี ถึงจะได้เริ่มเดินหน้าพัฒนาภาคต่อ หนังยังคงได้ วิล สมิธ (Will Smith) กลับมารับบทนำ รวมไปถึง ฟรานซิส ลอว์เรนซ์ (Francis Lawrence) ผู้กำกับจากภาคแรกก็กลับมารับหน้าที่เดิม และได้ ไมเคิล บี.จอร์แดน (Michael B.Jordan) มาเป็นสมาชิกใหม่ในภาคต่อนี้
ล่าสุด วิล สมิธ ไปปรากฎตัวในเทศกาลภาพยนตร์ ‘Red Sea’ ในงานนี้เขาได้พูดถึงโปรเจกต์ ‘I Am Legend 2’ ว่าเขามีกำหนดนัดเจอกับ ไมเคิล บี.จอร์แดน เพื่อพูดคุยกันเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้ในเร็ว ๆ นี้ และบทภาพยนตร์ฝีมือ อะกิวา โกลด์สแมน (Akiva Goldsman) ก็เพิ่งส่งมาถึงมือเขา
“พรุ่งนี้ผมจะโทรหา ไมเคิล บี.จอร์แดน เราสนิทกันอยู่แล้วครับ ผมว่าบางทีผมให้ข้อมูลมากเกินไปแล้วนะเนี่ย………บทภาพยนตร์ก็เพิ่งส่งมาถึงผมด้วย”
สำหรับแฟน ๆ ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ ‘I Am Legend’ อาจจะเกิดข้อสงสัยว่า ในเมื่อตัวละคร โรเบิร์ต เนวิลล์ ของ วิล สมิธ เสียชีวิตไปแล้วในตอนจบของหนัง แล้วสมิธจะกลับมารับบทเป็นใครในภาค 2 นี้ล่ะ ซึ่งสมิธก็ตอบคำถามข้อนี้ด้วยว่า
“เราจะดำเนินเรื่องต่อจากตอนจบของหนังในเวอร์ชันดีวีดี ซึ่งตัวละครของผมไม่ตายในตอนจบ และผมไม่สามารถบอกอะไรคุณได้มากไปกว่านี้แล้ว”
เนื้อหาของ ‘I Am Legend 2’ นั้น จะอ้างอิงจากตอนจบของหนังเวอร์ชัน ‘special edition DVD’ ที่ออกจำหน่ายเมื่อปี 2008 ซึ่งผู้ชมจะได้เห็นว่า เนวิลล์รอดชีวิตในฉากจบอันน่าสะพรึงกลัว
อะกิวา โกลด์สแมน ผู้เขียนบท ‘I Am Legend 2’ เคยให้สัมภาษณ์กับ Deadline ว่า ในการเขียนบทภาคต่อนี้ เขาได้รับแรงบันดาลใจบางส่วนมาจาก ‘The Last of Us’ ทีวีซีรีส์เรื่องฮิตของ HBO
“เหตุการณ์ในภาคนี้จะเกิดขึ้นห่างจากเหตุการณ์ในภาคแรกไปถึง 2 – 3 ทศวรรษเลย ผมน่ะหมกมุ่นพอควรกับ ‘The Last of Us’ ซึ่งเราได้เห็นสภาพโลกมนุษย์ในยุคหลังโลกาวินาศ แต่ใน ‘I Am Legend 2’ จะเป็นเหตุการณ์หลังจากนั้นอีก 20 – 30 ปี เราจะได้เห็นว่าธรรมชาติเอาคืนกับโลกเราอย่างไร แต่ก็ยังแฝงคำถามที่น่าคิดไว้ด้วยว่าะ เมื่อมนุษย์พ้นสถานะในการเป็นผู้ครอบครองหลักไปแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น ? เราจะเน้นหนักไปที่เหตุการณ์ในนิวยอร์ก ผมไม่รู้นะว่าพวกเขาจะขึ้นตึกเอ็มไพรสเตทกันอีกไหม แต่ความเป็นไปได้ก็ไม่มีที่สิ้นสุดอยู่แล้ว”
‘I Am Legend’ ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกันของ ริชาร์ด แมทเธอสัน (Richard Matheson) ตีพิมพ์เมื่อปี 1954 นิยายได้รับความนิยมอย่างมาก และถูกดัดแปลงเป็นภายนตร์มาแล้วหลายครั้ง ครั้งแรกในปี 1964 ในชื่อเรื่องว่า ‘The Last Man on Earth’ ได้ วินเซนต์ ไพรซ์ มารับบทำ และเป็นเวอร์ชันที่ผู้ชมรู้จักกันดีที่สุด ครั้งที่ 2 ในชื่อเรื่องว่า ‘The Omega Man’ ออกฉายเมื่อปี 1971 มี ชาร์ลตัน เฮสตัน มารับบทำ และในปี 2007 ก็ยังมีหนังทุนต่ำออกมาอีกเรื่องในชื่อว่า ‘The Omega Man’ เพื่อหวังผลประโยชน์พ่วงจากการที่ ‘I Am Legend’ออกฉายในปีเดียวกันนั้น นิยายถูกไม่เพียงแค่ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ แต่ในปี 1991 ยังถูกดัดแปลงเป็นหนังสือการ์ตูนซีรีส์อีกด้วย
ที่มา : Movieweb