Series Full ReviewMillion Yen Women มิลเลี่ยน เยน วีเมน (2017) งานชั้นเยี่ยมที่ลึกลับน่าค้นหา เสน่ห์ดึงดูดสายตา ท้าทายให้คาดเดา กับซีรีส์ญี่ปุ่นอันดับหนึ่งในดวงใจไม่สปอยล์ถ้าเป็นคนรุ่นดูไปบ่นไปจะได้ดูซีรีส์ญี่ปุ่นมาตั้งแต่ขนหน้าแข้งยังไม่ขึ้น ถ้านึกไม่ออกลองนึกถึงซีรีส์ "ยอดหญิงสิงห์วอลเลย์" "ซามูไรพ่อลูกอ่อน" หรือ "โอชิน" (เวอร์ชั่นเก่า) ซึ่งถ้าว่าตามตรงคือ Soff Power ของญี่ปุ่นนั้นอาจไม่ใช่หนังหรือซีรีส์แต่สิ่งที่ทางญี่ปุ่นส่งออกมาสู่โลกภายนอกจนกลายเป็นสิ่งที่มนุษยชาติหากนึกถึงญี่ปุ่น คนมากมายอาจนึกถึงหนัง AV และการ์ตูนที่เรียกกันว่ามังงะก่อนหนังหรือละคร แล้วที่แน่นอนคือมังงะที่แพร่หลายมีความหลากหลายความเพริศพริ้งด้านจินตนาการก็เยอะตามและนั่นก็คือวัตถุดิบชั้นดีให้วงการภาพเคลื่อนไหวบนจอของญี่ปุ่น คนดูจึงได้เห็นงานแฟนตาซีที่ดูเหนือจริงแต่ถูกเล่าได้อย่างสมจริงหรือบางครั้งก็ในอารมณ์ล้ำๆไปจนคนที่ไม่คุ้นชินดูว่าล้นเพราะวัตถุดิบสารตั้งต้นมันเป็นเช่นนั้นส่วนซีรีส์ญี่ปุ่นที่ผู้เขียนประทับใจที่สุดนั้นอาจต้องเท้าความว่าในชีวิตที่ผ่านมาผู้เขียนเองดูหนังดูซีรีส์ (ละคร) มาก็มาก การดูหนังซ้ำนั้นอาจเป็นเรื่องปกติแต่สำหรับซีรีส์อาจไม่ปกติเพราะกินเวลานั่นหมายความว่าเรื่องไหนที่ดูซ้ำก็คือเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา เอาเท่าที่นึกออกเช่น มังกรหยก (1983 หวงเย่อหัว - องเหม่ยหลิง) , กระบี่เย้ยยุทธจักร (1999 เริ่นเสียนฉี - หยวนหยงอี้) , เจาะเวลาหาจิ๋นซี (1999 กู่เทียนเล่อ) ทางฝั่งอเมริกาก็มี Band Of Brothers (2001) เกาหลีก็มี When The Camellia Blooms (2019) แต่ก็เป็นการที่นานๆเอามาดูที แต่มีซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนดูรวดเดียวสิบสองตอนตอนประมาณสี่ชั่วโมงจบตีสองและวันรุ่งขึ้นก็เปิดดูอีกรอบเพราะมีดีที่ต้องดูซ้ำแล้วเมื่อถึงตอนนี้จบเป็นรอบที่สี่แล้ว และบอกเลยตรงนี้ว่าดูมาสี่รอบยังจับพิรุธไม่ได้กับอีกหนึ่งงานที่สร้างจากมังงะที่ใครเดาออกในการดูรอบแรกอาจต้องบอกว่าท่านคืออัจฉริยะ MillionYenWomenเรื่องย่อถ้าท่านคือชายหนุ่มที่อยู่คนเดียวแล้วอยู่ดีๆมีสาวสวยห้าคนเข้ามาอยู่ร่วมชายคาตามคำเชิญของใครบางคนโดยมีกฏสี่ข้อคือ1.ห้ามถามพวกเธอ2.ห้ามเข้าห้องโดยไม่ได้รับอนุญาต3.ทุกวันทุกๆคนต้องมาทานอาหารค่ำด้วยกัน4.ท่านต้องเป็นคนดูแลและบริการพวกเธอทุกอย่างโดยที่พวกเธอต้องจ่ายค่าเช่าให้ท่านเดือนละหนึ่งล้านเยนทุกคนทุกเดือน เป็นท่านท่านจะทำยังไงชายหนุ่มผู้โชคดีนั้นก็คือมิชิมะ ชิน (โยจิโร่ โนดะ นักร้องนำ และมือกีตาร์แห่งวง Radwims) นักเขียนนิยายที่กำลังเผชิญกับวิกฤตในอาชีพ ทุกสิ่งที่ไม่ควรเป็นในฐานะนักเขียนกำลังถาโถมเข้าใส่เขาและในทุกวันจะมีแฟกซ์สาปแช่งเขามาให้เห็น แต่เมื่อมีหญิงสาวสวยห้าคนเข้ามาอยู่ร่วมชายคาด้วยเงื่อนไขสี่ข้อที่ว่าประกอบด้วยหนึ่งมินามิ ชิราคาวะ (ริละ ฟูกุชิมะ) ผู้ที่ไม่ชอบใส่เสื้อผ้าเวลาอยู่บ้าน สองฮิโตมิ สึคาโมโตะ (เรนะ มัตสุอิ) ผู้ที่ชอบอ่านหนังสือและโยคะ สามยูกิ โคบายาชิ (มิวาโกะ วากัตสึมะ) ผู้มีหน้าตาเรียบเฉยไม่รู้ว่ามีความพิเศษอะไร สี่นานากะ เซกิ (ยูโกะ อารากิ) ผู้เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและอารมณ์ดี และห้ามิโดริ ซุสุมูระ (เรนะ ทาเคดะ) นักเรียนมัธยมปลาย โดยมิชิมะ ชินมักถูกเปรียบเทียบกับยูสุ (โทโมยะ นากามูระ) นักเขียนอีกคนที่ประสบความสำเร็จโดยมีนักวิจารณ์วรรณกรรมที่มีอคติกับมิชิมะ ชินคอยเหยียบย่ำ แต่เมื่อเรื่องราวที่เป็นปูมหลังของหญิงสาวบางคนได้เปิดเผยพลังในการเขียนของมิชิมะ ชินก็เกิดขึ้น ทำให้เขาสามารถเขียนนิยายจนจบและนิยายนั้นมีชื่อว่า "อารมณ์ที่ล่องลอย" ที่เป็นงานที่อ่านสนุกแต่ก็ยังขายไม่ออก จนกระทั่งด้วยความช่วยเหลือของใครคนใดคนหนึ่งในห้าสาวหนังสือของเขาก็ได้ถูกค้นพบโดยกรรมการมอบรางวัลทางวรรณกรรม และมิชิมะ ชินก็คว้ารางวัลนั้น ทว่าความจริงที่เขาคือลูกของฆาตกรที่ได้รับโทษประหารก็ปรากฎแต่กลับทำให้หนังสือของเขาขายดีขึ้น แต่นั้นก็นำพาเรื่องราววุ่นวายเข้ามาในชายคาบ้านเมื่อหนึ่งในห้าสาวถูกฆาตกรรมอย่างมีเงื่อนงำและทำให้ยอดขายหนังสือของเขาสูงขึ้นอีก เพราะอะไรแล้วใครคือฆาตกรใครคือคนที่เชิญหญิงสาวทั้งห้ามาที่บ้านเขา...เพื่ออะไร บทพิสูจน์ความเหนือชั้นของชั้นเชิงที่ค่อยๆปล่อยชิ้นส่วนออกมาได้ถูกที่ถูกเวลาเรื่องราวแปลกๆพิลึกๆแบบนี้ถ้าจะมีใครกล้าคิดและกล้าทำก็คงจะเป็นญี่ปุ่นและแน่นอนว่าสร้างมาจากมังงะ ดังนั้นจึงต้องตัดเรื่องราวความสมเหตุผลบางประการแล้วใส่จินตนาการเข้าไปว่าท่านคือมิชิมะ ชินตามที่บทหรือมังงะจงใจเพราะบทจะพาท่านไปมีส่วนร่วมกับทุกอารมณ์และเหตุการณ์ในบ้าน โดยการวางตัวละครมิชิมะ ชินให้เป็นตัวละครที่มีอารมณ์แบบเปิดคือเดาความคิดไม่ออกให้คนดูคิดแทน ซึ่งดูเผินๆนี่คือซีรีส์โรแมนติกดราม่าผสมตลกแต่ความจริงคือซีรีส์ดราม่าปริศนาฆาตกรรมชวนสงสัยเข้มๆลึกลับซ่อนเงื่อนแต่ไม่สยอง พล็อตหลักคือการอยู่ร่วมชายคาของหนึ่งหนุ่มกับห้าสาวต่างวัยที่มีพื้นฐานอุปนิสัยต่างกันไปบางอารมณ์ก็คล้ายเรื่องราวชุลมุนวุ่นรัก เมื่อฝ่ายชายผู้สุภาพและเจียมตัวต้องลำบากใจในการวางตัวและสงวนท่าทีประคองไว้ให้เท่าเทียมกันในขณะที่ฝ่ายหญิงดูเหมือนจะมีใจกับเขาทุกคนแต่สิ่งที่เร้นไว้หลังเรื่องเหล่านั้นให้ต้องสงสัยตั้งแต่แรกคือทำไมสาวๆถึงมาอยู่กับเขาและเพื่ออะไรพวกเธอเป็นใครมาจากไหน ข้อความในจดหมายเชิญเป็นยังไงโดยที่ในทุกๆตอนจะทยอยเผยปมออกมาและทิ้งให้สงสัยในทุกตอนให้ติดตามในอารมณ์แบบ Sherlock หรือยอดนักสืบโคนัน ที่ทุกเรื่องราวเหตุและผลจะไปเฉลยในตอนท้ายและแน่นอนว่าการใส่เหตุการณ์และเรื่องราวชวนสงสัยให้คนดูคาดเดามาเป็นระยะๆจัดว่าได้ผล เพราะคนดูจะคิดและเดาไปในมุมของตัวเองแม้บางทีเดาปมบางอย่างออกแล้วแต่ส่วนลึกในใจจะไม่ยอมเชื่อเพราะถูกชักจูงให้ไม่ยอมรับและไม่อยากคิดว่ามันจะเป็นเช่นนั้น กระทั่งบทสรุปส่งท้ายยังเล่นเอาแบบน่าตกใจเพราะเมื่อมีตัวละครเยอะก็สงสัยเยอะแถมด้วยแต่ละคนก็มีอะไรให้น่าสงสัยด้วยกันทุกคน ทั้งยังมีเรื่องซ้อนเรื่องในแง่มุมที่แหลมคมจิกกัดความเป็นมนุษย์ได้อย่างเจ็บพอตัวทั้งเรื่องของความประสบความสำเร็จที่ต่างมุมมอง ความสุขในชีวิต แง่มุมของการมองความตาย ชีวิตหลังความตายของคนที่อยู่ข้างหลัง การก้าวข้ามให้พ้นบาดแผล แต่บทก็ประคองให้ไม่หลุดโลกเมื่อไม่ได้ปิดทุกอย่างให้ลงเอยแบบงานโลกสวยแต่ว่ากันที่ความจริงที่คนที่สามารถใช้ประโยชน์กับทุกอย่างโดยไร้จิตสำนึกมักจะมีที่ยืนมากกว่า และแน่นอนว่าไม่พยายามเปิดความจริงทุกอย่างเพียงให้มาเป็นพื้นฐานด้วยการที่เรื่องบางเรื่องก็ใช่ว่าจะแก้ไขได้ ทำให้ตัวบทที่ดูเป็นมังงะที่ไอเดียกลายเป็นมีความเป็นมนุษย์มีอะไรแฝงไว้ข้างในที่คมคาย กระนั้นก็เหมือนกับคำอธิบายนิยาย "อารมณ์ที่เลื่อนลอย" ของมิชิมะ ชินที่ว่าเมื่อยากที่จะบรรยายออกมาว่าเป็นอารมณ์แบบไหนหรือจะเรียกว่าอารมณ์แบบใหม่ก็ได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็คงไม่ต่างกันเมื่อบทสรุปมีทั้งปิดและเปิดแต่ก็ไม่ค้างคาเหมือนไม่สาแก่ใจแต่ก็สรุปได้ลงตัวความหมายโดยนัยที่สื่อออกมาคมคายเจ็บลึกตามสไตล์ญี่ปุ่นมิชิมะ ชินคือนักเขียนตกอับหนังสือขายไม่ออกหมดไฟในการสร้างงาน แต่การได้ใช้ชีวิตกับหญิงสาวทั้งห้าก็ทำให้พลังงานนั้นกลับมาเพราะเขาได้ทราบถึงการรอคอยของคนอ่าน ที่อาจมีเพียงน้อยนิดแต่ก็ยังมี ซึ่งมันมาจากจุดร่วมหนึ่งของหญิงสาวทั้งห้าจนเขากลับมาพยายามที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพอีกครั้ง แม้จะได้รับการช่วยเหลือโดยบังเอิญหรือตั้งใจแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือคนที่รักนิยาย เป็นคนที่ทำในสิ่งที่ตนรักเป็นคนที่เชื่อและยังทำมันอยู่แม้จะไม่เห็นทางที่จะดีไปกว่านี้ ในขณะที่มีตัวละครคู่ขนานที่เป็นดังกระจกอีกด้านของเขาที่ต้องต่อสู้ด้านผลงานและอุดมการณ์ผ่านนักเขียนรูปหล่อที่ประสบความสำเร็จที่ดูเหมือนพระเอกจะอิจฉา แต่จริงๆแล้วชีวิตและทัศนคติอันส่งผลต่อการทำงานเรื่องหลักการอาจไม่ใช่ทั้งหมดหากไร้ซึ่งหัวใจรักจนทำให้กลายเป็นใครอิจฉาใครกันแน่เพราะความจริงแล้วการประสบความสำเร็จอาจไม่ใช่แค่ชื่อเสียงและหน้าตาหรือยอดขาย แต่อยู่ที่การเดินไปสู่ความสำเร็จนั้นและการใช้ชีวิตที่สำเร็จโดยไม่ผิดต่อใครหรือไม่ เพราะมิชิมะ ชินคือคนที่รักนิยายชีวิตคิดแต่เรื่องนิยายจึงไม่มีความซับซ้อนในเชิงเอาเปรียบหรือเรียกง่ายๆว่าสันดานไม่ดิบ แม้ว่าจะสามารถหยิบจับอะไรที่เป็นความจริงมาใช้แต่ถ้ามันผิดต่อมโนธรรมในใจมิชิมะ ชินก็ไม่ทำแม้กระทั่งการไม่ตอบโต้เมื่อถูกหยามเหยียด เพราะโดยนัยแล้วการปล่อยวางจากสิ่งเหล่านั้นอาจดีกว่าเพราะเมื่อตอบโต้ไปอาจไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นแต่ปล่อยให้คนที่เกลียดและมีอคติได้จมอยู่กับอคติในใจตน และเมื่ออคติมีมากเข้าก็ไม่สุขในใจไปเองดังที่เห็นว่าสุดท้ายนิยายของมิชิมะ ชินก็กลับมาขายได้ทุกเรื่องยอดขายเอาชนะยูซุได้ แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่เงียบๆคนเดียวปล่อยให้ยูซุหาอะไรอื่นทำที่เหมือนเป็นการปลอบใจตัวเองในเรื่องอื่นที่ไม่ใช่นิยายหรืออาจเรียกง่ายๆว่าอยู่เฉยๆให้คนคลั่งใจเล่นประมาณนั้น ผิดกับยูซุที่สามารถใช้ทุกอย่างที่เป็นประโยชน์แม้กระทั่งโกหกทั้งที่ในใจรู้ดีว่าความจริงเป็นเช่นไร สุดท้ายแม่ว่าจะไม่ได้รับผลของการกระทำแต่เขาก็แพ้มิชิมะ ชินราบคาบและตัวเขาเองเท่านั้นที่รู้จึงหันไปทำอย่างอื่น นี่คือความคมคายที่มอบผ่านทัศนคติของตัวละครที่ลงเอยด้วยการเปิดปลายว่า ถึงที่สุดมิชิมะ ชินก็คือคนที่ประสบความสำเร็จในทางที่เขาเป็นและเขาคงมีความสุขกับงานมากกว่า หรือจะเป็นมุมมองของการใช้ชีวิตที่มีเบื้องหลังจากความสูญเสียที่มองความตายในมุมต่างเมื่อคนที่อยู่ข้างหลังต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้และสามารถปลดปล่อยตัวเองจากรอยแผลนั้น เมื่อบทเลือกที่จะไม่เฉลยหรือขุดค้นความจริงในแง่มุมของการเป็นลูกฆาตกรหรือลูกนักโทษประหาร แต่มองเข้าไปในชีวิตของคนที่อยู่ข้างหลังที่เป็นญาติของเหยื่อหรือตัวมิชิมะ ชินเอง เช่นเดิมที่ยังเปิดปลายให้คิดเองไม่เลือกลงเอยในแบบทั่วไปกระทั่งการสื่อสารวัฒนธรรมการอ่านของคนญี่ปุ่น ที่กลายเป็นเหมือนแรงขับเคลื่อนทางด้านวินัยของชนชาติ หรืออะไรก็ตามที่เห็นอีกมากมายที่ไม่สามารถเขียนออกมาได้เพราะจะเปิดเผยเนื้อหา จึงจัดว่าอาจเป็นเรื่องที่ลึกลับน่าค้นหาแต่ในระหว่างที่ค้นหาก็มีอะไรที่คมคายให้ได้คิดตาม แม้มันจะมาในแบบเรียบๆแต่ก็เจ็บลึกการใช้เสน่ห์ของนักแสดงที่คุ้มค่าทุกหยดการแสดงของนักแสดงญี่ปุ่นอาจมีบ้างที่ถูกมองว่าโอเวอร์แอ็คติ้ง ก็คงต้องย้อนกลับไปมองที่เหตุผลของวัตถุดิบตั้งต้นของงานนั้นๆซึ่งหลายงานที่มีการรังสรรค์มาจากมังงะที่เป็นภาพที่สามารถวาดออกมาได้ตามจินตนาการ แต่เมื่อมาสร้างเป็นงานที่ใช้คนแสดงมันมีข้อจำกัดทั้งนี้ก็ขั้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้สร้างว่าจะคงอารมณ์ของมังงะไว้ขนาดไหน ซึ่ง หลายท่านอาจมองว่าเมื่อสร้างเป็นงาน Live Action แล้วจะให้มันเป็นการ์ตูนไปทำไมก็ต้องวนมาที่เหตุผลเดิมคือเมื่อการสร้างมาจากมังงะเหตุปัจจัยแรกก็คือสร้างมาเพื่อแฟนมังงะ และเรื่องที่สามารถเอามาขึ้นจอได้ก็ต้องมีฐานแฟนๆที่เยอะพอ แล้วเมื่อสร้างมาเพราะเหตุผลนี้ก็ต้องคงจิตวิญญาณของมังงะไว้เพื่อที่จะได้ไม่ถูกแฟนมังงะก่นด่า แต่หากลองได้ดูงานจากญี่ปุ่นมากขึ้นก็จะพอทราบได้ว่าการแสดงของนักแสดงญี่ปุ่นก็มีมาตรฐานสูงแต่หากไม่ค่อยดูงานจากญี่ปุ่นก็จะไม่คุ้นชินกับบุคลิกหรือตัวตนของหนังญี่ปุ่นที่ถูกถ่ายทอดอกมา และหากจะเอาการแสดงชั้นเยี่ยมเรื่องนี้จัดให้ได้อย่างคุ้มค่าเพราะนี่คือการใช้เสน่ห์ของนักแสดงได้ดีที่สุด พลังความน่าติดตามนอกจากความเร้าใจชวนสงสัยให้ติดตามแล้วเสน่ห์ส่วนตัวของเหล่านักแสดงที่ถ่ายทอดออกมาก็แรงไม่แพ้กัน กับการแสดงที่มอบความลึกลับน่าค้นหาและปิดเร้นได้อย่างมิดชิดโดยมีจุดร่วมบางอย่างให้สงสัย ซึ่งหากเล่นไม่ดีพอหรือไม่ไปในระดับยอดเยี่ยมจะมองเห็นในการแสดงแล้วว่าใครเป็นใครแต่เรื่องนี้ผู้เขียนดูมาสี่รอบก็ยังจับพิรุธไม่ได้ นั่นหมายความว่าการที่นักแสดงแสดงดีก็อยู่ที่ตัวตนหรืออัตลักษณ์ของเรื่องที่เล่นด้วย หรือจะรวมถึงอัตลักษณ์ของความเป็นงานจากประเทศนั้นๆที่บางครั้งก็สื่อให้เห็นถึงชีวิตบุคลิกที่พวกเขาเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งในเรื่องของเสน่ห์ต้องยกให้กับทั้งห้าสาวที่ต่างมีเวลาทองของตนเองมีเวลาให้ฉายเสน่ห์สามารถขโมยหัวใจคนดูได้และทำให้ดูได้แบบไม่มีเบื่อ ส่วนที่ต้องยกนิ้วให้เลยคือโนดะ โยจิโร่ที่แสดงจนเห็นความว่างเปล่าในสมอง ไร้ความทะเยอทะยาน เหมือนไร้อารมณ์นั่นเพราะตัวละครตัวนี้ต้องอมทุกข์พยายามก้าวข้ามและไถ่บาป ในความว่างเปล่านั้นทำให้รู้จักเงียบไม่ตอบโต้ปล่อยให้คนอื่นทุกข์ใจเมื่อเห็นหน้าหรือคิดถึงเขาแทน ซึ่งสิ่งที่ต้องชมคือการเล่นในลุคที่มอซอข่มเสน่ห์ส่วนตัวไม่ให้ล้นกว่าบทผมหงอกก็ปล่อยให้หงอกที่แสดงถึงภาวะจิตใจที่ครุ่นคิดแต่ว่างเปล่าไร้ทิศทาง จนกระทั่งการมาของสาวๆชีวิตเลยมีอะไรให้คิดอย่างน้อยก็คิดเรื่องการทำอาหารหรือตั้งชื่อแมว เป็นการแสดงที่ดูสมจริงเหมือนนักแสดงมาเล่นเป็นตัวเอง ประกอบกับงานด้านภาพที่มาโทนหม่นกับเพลงประกอบที่รู้สึกลี้ลับส่งอารมณ์ถูกจังหวะเวลา ทำให้เวลาที่ไม่เยอะในทุกตอนผ่านไปอย่างรวดเร็วเผลอนิดเดียวจบตอนแล้วไม่ว่าเรื่องราวจะคลี่คลายยังไงการดูรอบแรกของผู้เขียนคือการดูด้วยอารมณ์เพราะความสนุกและชวนติดตาม ได้ขมวดคิ้วบ้างบางครั้งยิ้มบ้างบางครารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าจากการเดาไม่ถูกทำให้เพลินจนดูรอบแรกรวดเดียวจบ แต่เมื่อดูด้วยอารมณ์จึงยังคาใจจึงกลับมาดูรอบสองจบกับการดูด้วยเหตุผลหรือพยายามหาเหตุผลที่อ้างอิงการกระทำและการตัดสินใจของตัวละครต่างๆ หาดูรายละเอียดเงื่อนปมที่ถูกปกปิดและเผยออกมาจนพบว่าความเรียบง่ายหรือความทะเยอทะยานกันแน่ที่จะทำให้ชีวิตดำเนินต่อไปในแบบที่ควรเป็น ในเรื่องราวที่คล้ายเงียบเหงาแต่มีพลังตามแนวของญี่ปุ่น ทุกฉากทุกการกระทำที่สื่อออกมาล้วนแฝงความนัยแม้บทสรุปในเรื่องหนึ่งจะสรุปอย่างลงตัวแต่อีกหลายเรื่องหลายทางกลับเปิดไว้ให้คิด และสิ่งที่เห็นคือคนเราจะให้ค่ากับสิ่งต่างๆไม่เท่ากันนั่นเองประกอบกับความมีเสน่ห์ของตัวละครการเก็บซ่อนปมไว้มิดชิดและเฉลยในเวลาที่ถูกต้อง การชี้นำให้คาดเดา และแม้จะคาดเดาก็ยังไม่วายทำร้ายด้วยการจูงใจให้ไม่ยอมเชื่อสมองจนนำไปสู่บทสรุปที่ต้องอึ้งและทึ่งด้วยเรื่องที่เจาะลึกถึงจิตใจคน นั่นก็พอแล้วที่จะทำให้ซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องนี้คืองานชั้นยอดไม่ควรถูกหมางเมินและยังยินดีที่จะดูรอบที่สามจนมาถึงปัจจุบันที่ดูรอบที่สี่ ปมประเด็นบางอย่างอาจรู้หมดเรื่องที่ซ่อนก็รู้ไม่ต้องคิดไม่ต้องเดาแต่ก็ยังคงดูสนุกดูเพลินเพราะเสน่ห์ของนักแสดงยังพาไปได้ และแน่นอนยิ่งดูยิ่งเห็นสัญญะความนัยทีได้ถูกบอกออกมาได้เรื่อยๆ ซึ่งด้วยความที่มันคือเรื่องที่เป็นปริศนาที่ต้องค้นหาแล้วต้องเหวอเจอค้นเจอที่ถ้ารายละเอียดไม่แน่นการดูซ้ำจะไม่บันเทิงแต่กับเรื่องนี้ไม่เป็นเช่นนั้น นอกจากรายละเอียดที่แน่นหนายังมีองค์ประกอบที่ว่ามาให้ดูซ้ำได้ไม่มีเบื่อจึงจัดว่านี่คืองานซีรีส์ญี่ปุ่นที่อยู่อันดับหนึ่งในใจด้วยประการฉะนี้ดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 จาก www.bs-tvtokyo.co.jp ภาพที่ 2 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 / ภาพที่ 10 จาก Twitter 木ドラ25「100万円の女たち」 หมายเหตุ ผู้เขียน "ดูไปบ่นไป" คือบุคคลเดียวกับ Facebook Fanpage ดูไปบ่นไป จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !