วันนี้เราอยากจะมาแนะนำหนังหนังที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านค่ะ เพราะเนื่องด้วยจากปัจจัยตอนนี้อะไรหลาย ๆ อย่างในตอนนี้บางคนหรือหลาย ๆ คนอาจจะอยู่ห้วงอารมณ์หรือภาวะเครียด ท้อแท้ จากพิษเศรษฐกิจ และ ผลกระทบจากโควิด19 ก็ได้นะคะ ซึ่งการที่เราจะหาแรงบันดาลใจจากอะไรสักอย่างนึง เราควรจะออกไปเปิดตา ไปหาสิ่งที่มันจะสร้างแรงบันดาลใจให้เราได้ แต่ในเมื่อเราต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้านทั้งวัน งั้นก็มาหาไอเดียสร้างแรงบันดาลใจที่ ตัวหนังนั้นสร้างมาจากเรื่องจริงด้วยค่ะ หวังว่าหนังทั้ง 5 เรื่องที่เราจะหยิบยกมาเขียนให้คุณผู้อ่านเพื่อเป็นไอเดีย หรือเป็นแรงบันดาลในการใช้ชีวิตให้กับทุก ๆ คนได้นะคะ 1. The Blind Side ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ทางการเรื่องย่อ The Blind Side เป็นเรื่องราวของวัยรุ่นเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันผู้ยากจน การศึกษาไม่สูงที่มีน้ำหนักตัวถึง 334 ปอนด์ในเมมฟิส ซึ่งพ่อถูกฆาตกรรมและแม่ติดยา ย่างก้าวผ่านโรงเรียนรัฐบาล ถึงแม้จะเกรดเฉลี่ยต่ำและขาดเรียนเป็นประจำก็ตาม แต่ด้วยความที่ร่างกายที่ใหญ่โตและความเร็วของเขา สามารถดึงดูดความสนใจของเศรษฐีคู่สามีภรรยาผิวขาวที่เอาเขาไปชุบเลี้ยงทั้งด้านกีฬา และ วิชาการเพื่อทำให้เขาเป็นที่ 1 ในนักกีฬาฟุตบอลตัวความหวังแถวหน้าระดับไฮสคูลของประเทศ จากชีวิตจริง Michael Oher ผู้ซึ่งกลายมาเป็นนักฟุตบอลที่โด่งดังในอเมริกา เรื่องราวแรงบันดาลใจของครอบครัว Touhy ที่รับบุตรบุญธรรมที่ไม่มีใครคิดจะรับมาเลี้ยงดู เด็กที่ดูน่ากลัว แต่กลับได้รับความอบอุ่นจาก พ่อและแม่ซึ่งเป็นสาวใจถึง ซึ่งถ้าเป็นใครก็คงคิดว่าเอาโจรเข้าบ้านแท้ ๆ แต่กลับกล้าที่จะส่งเสริมและเป็นกำลังใจให้ใครซักคนหนึ่งได้มีแรงในการใช้ชีวิต [ข้อมูลอ้างอิง : เว็บไซต์จากทางการ] ขอบคุณภาพจาก เว็บไซต์ทางการของภาพยนต์หลังจากรับชม เป็นหนังที่ทำให้เราเสียน้ำตาและต้องหยิบกลับขึ้นมาดูซ้ำหลายรอบ ๆ เราประทับใจทั้งความรักที่ผู้หญิงและครอบครัวหนึ่งที่ได้ให้ความรัก ความเมตตา ความอบอุ่น กับคน ๆ หนึ่ง ได้อย่างสุดเหลือเชื่อ เป็นเรื่องราวที่ทำให้เราอบอุ่นหัวใจมาก ๆ และเป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงที่ถ่ายทอดผ่านตัวละครได้ดีงามมาก ๆ ค่ะ หนังเรื่องนี้หากใครที่มีความท้อแท้ สิ้นหวังกับชีวิต เราอยากให้คุณได้ดูชีวิตของไมเคิลเอาไว้ค่ะ พ่อถูกฆาตกรรมและแม่ของเขาก็ติดยา เขาถูกปล่อยให้อยู่และใช้ชีวิตคนเดียว และเขานั้นก็มีพัฒนาการที่ช้าในเรื่องของการเรียน อยู่ในชุมชนแออัดที่มีแต่พวกนักเลง และ พวกคนติดยา ในเมื่อสิ่งแวดล้อมของเขานั้นไม่ดีเอามาก ๆ แต่เขากลับไม่เคยคิดที่จะทำตัวแบบนั้นหรือใช้ชีวิตในทางลบเลย เขาถึงได้ของขวัญจากพระเจ้า นั่นก็คือ ครอบครัวเศรษฐีที่เห็นอะไรบางอย่างในตัวไมเคิลและได้ตัดสินใจรับอุปการะเขา และในที่สุดเขาก็ได้รับความรัก ความอบอุ่น และครอบครัวที่ดี หนังเรื่องนี้เราอยากให้คุณผู้อ่านจับมือครอบครัวแล้วเปิดนั่งดูพร้อมกัน เราว่าคุณจะได้อะไรเยอะแยะในหนังเรื่องนี้เลยล่ะค่ะ และเมื่อเราได้ดูอะไรที่มันเป็นพลังบวกกับชีวิตแล้ว มันจะทำให้เราอบอุ่นหัวใจและเก็บแรงบันดาลใจเหล่านี้มาเป็นกำลังใจที่ดีในการใช้ชีวิตได้ค่ะ 2. Hidden Figures ขอบคุณภาพจาก เว็บไซต์ทางการของภาพยนต์เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวของผู้หญิงผิวสีที่ทำงานอยู่ที่ NASA เผยเรื่องจริงที่น่าเหลือเชื่อที่ไม่เคยผ่านการบอกเล่ามาก่อนเกี่ยวกับหญิงที่ฉลาดปราดเปรื่องกลุ่มหนึ่งซึ่งได้เปลี่ยนแปลงรากฐานของประเทศเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ด้วยการมุ่งหน้าสู่ดวงดาว หนังเรื่องนี้เล่าเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เมื่อกลุ่มนักศึกษาหญิงผิวดำชั้นนำของ NASA ช่วยให้อเมริกาเอาชนะคู่แข่งอย่างสหภาพโซเวียดในการขับเคี่ยวกันเพื่อเป็นเจ้าแห่งการสำรวจอวกาศ พร้อมกันนั้นก็ได้ขับเคลื่อนการต่อสู่เพื่อสิทธิและโอกาสที่เท่าเทียมกันให้พุ่งทะยานไปข้างหน้า ขอบคุณภาพจาก เว็บไซต์เป็นทางการของภาพยนต์หลังจากที่รับชม เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องผิวสีที่เราประทับใจที่สุดและกลับมาดูซ้ำบ่อยมาก ๆ เพราะความเป็นผัวสี ที่คนอเมริกันไม่ค่อยยอมรับ ทำให้กลุ่มคนผิวสีที่มีความสามารถ มีความฉลาดทางด้านคณิตศาสตร์ได้หมดโอกาสหนทาง แต่ด้วยความฉลาดของพวกเขาทั้ง 3 คน ที่เป็นนำหญิงของเรื่อง ทำให้กลุ่มคนในNASAยอมรับพวกเธอ ไม่ใช่แค่เพราะเธอเก่ง และฉลาด แต่เพราะตัวของเธอเอง หนังเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่แสดงถึงความแบ่งแยกทางเเพศ เชื้อชาติ ได้เป็นอย่างดีค่ะ เรารู้สึกประทับใจทุกคนที่ได้ดู การที่คุณเก่งและฉลาดนั้นมันต้องไม่อยู่บนความที่มีทิฐิและอีโก้ พวกเขาต่อสู้กับสิ่งที่ไม่เป็นที่ยอมรับจากผู้คนไม่ว่าจะเก่ง และฉลาดแค่ไหน พวกเธอก็ได้แต่นั่งทำงานในห้อง ถ้าจะใช้ห้องน้ำก็ต้องเดินไปอีกฝั่ง จะกิน จะใช้ก็ห้ามรวมกับคนผิวขาว แต่สิ่งที่พวกเธอมีคือความฉลาดทางด้านคณิตศาสตร์ จนทำให้เธอได้กลายเป็นที่ยอมรับเมื่อเธอคำนวนการเดินทางในอวกาศได้อย่างแม่นยำ จนตอกหน้าผู้ชายและคนผิวขาวได้อย่างจังเลย เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ให้แรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดีกับคนที่ไม่ถูกการยอมรับ หรือ ไม่เป็นที่สนใจของใครหลาย ๆ คน และเรื่องของการแบ่งแยกทางเพศ เชื้อชาติ และอาชีพการงานได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ดูจบแล้วเราประทับใจมาก ๆ และเป็นเรื่องที่สร้างมาจากเรื่องจริงด้วยค่ะ 3. 127 hour ขอบคุณภาพจาก เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของภาพยนต์เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักปีนเขา แอรอน ราลสตัน ต้องดิ้นรนสุดชีวิตที่จะเอาตัวรอดหลังจากถูกหินจากบนภูเขาตกใส่แขน ทำให้เขาติดอยู่ในหุบเขาที่ห่างไกลในยูทาห์ของสหรัฐอเมริกา 5 วัน หลังจากเหตุการณ์นั้น แอรอน สำรวจตัวเองจนต้นพบว่าเขามรทั้งความกล้าและเครื่องมือที่จะพาตัวเองให้หลุดพ้นไปจากภูเขาสูง 65 ฟุตเบื้องหน้า แอรอน พยายามปีนเขาต่อไปอย่างทรหดอดทนเป็นระยะถึง 8 ไมล์ ระหว่างการเดินทางที่มีความหมายอย่างยิ่งของ แอรอน ทำให้เขานึกถึงเพื่อน ๆ คนรัก ครอบครัว และนักปีนเขา 2 คนที่เขาได้พบก่อนเกิดอุบัติเหตุไม่นาน เขาอดคิดไม่ได้ว่านักปีนเขา 2 คนนั้นจะเป็น 2 คนสุดท้ายที่เขาได้พบในชีวิตของเขาหรือไม่ ขอบคุณภาพจาก เว็บไซต์อย่างเป็นทางการจากทางค่ายหนังหลังจากที่รับชม หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่บอกเล่าถึงชายผู้ชอบปีนเขาเป็นชีวิตใจใจ ตัวหนังดำเนินมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งเขาตกลงไปในร่องหินที่มีความสูง 65 ฟุตและแขนของเขานั้นติดอยู่ระหว่างซอกหิน ซึ่งแน่นอนว่ามันสูงมาก ๆ และเจ็บปวดทรมานอย่างที่สุด และเมื่อเขาตกลงไปในนั้นเราได้เห็นถึงการเอาชีวิตรอดจากคน ๆ หนึ่งที่ต้องทำทุกอย่างเขาติดอยู่ในนั้นเป็นเวลา 127 ชั่วโมง ในร่องหินที่ไม่มีผู้คนผ่านมา ถึงแม้จะมีผ่านมาแต่ก็คงไม่มีใครรู้แน่ ๆ ว่ามีคนติดอยู่ข้างล่างนี้ ในระหว่างที่เขาติดอยู่ข้างล่างนี้เขาได้คิดถึงครอบครัว ภาพสวยงาม และความหวัง อดีตต่าง ๆ นา ที่มันวนเข้ามาในหัวเขา ให้เขาได้คิดทบทวนเรื่องราวในชีวิตว่ามันช่างสวยงามแค่ไหน เราจะไม่สปอยนะคะ แต่เราอยากให้คุณได้ไปดูเพราะเรื่องนี้มันทำให้เราได้เห็นถึงความอดทน ความคิดบวก และการที่อยากจะมีชีวิตรอด เราได้เห็นถึงพลังใจของคน ๆ หนึ่งที่ต่อสู้อย่างไม่มีความหวัง ถ้าลองคิดถึงว่าเป็นตัวเราถ้าตกลงไปในร่องหินที่มีความสูงขนาดนั้น น้ำไม่มี อาหารไม่มี ไฟไม่มี ไม่มีอะไรเลย คุณจะอยู่ยังไง เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครได้อีกหลายคนอย่างแน่นอนค่ะ และที่สำคัญสร้างมาจากเรื่องจริงอีกด้วยค่ะ 4. The Help ขอบคุณภาพจาก เพจอย่างเป็นทางการของค่ายหนังเรื่องย่อ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแจ็คสัน รัฐมิซซิบปี้ ในปี 1963 ยุคที่การเรียกร้องสิทธิพลเมืองของคนผิวสียังเป็นกระแสสำคัญของสังคมในสหรัฐอเมริกา โดยถ่ายทอดผ่านสายตาของสาวใช้ผิวสีซึ่งในที่นี้ก็คือ เอบีลีน คลาร์ก (วิโอลา เดวิส) ผู้เป็นสาวใช้ในบ้านของคุณนายคนผิวขายมาตลอด 17 ปี ผ่านการสัมภาษณ์ของยูจีเนีย ฟีแลน (เอ็มมา สโตน) โดยเรื่องราวสะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างพี่เลี้ยงหรือสาวใช้ผิวสีเหล่านี้กับคุณหนูและคุณนายสอดแทรกไปด้วยการวิพากษ์วิจารณ์การกดขี่และอคติต่อคนผิวสีในยุคนั้น ขอบคุณภาพจาก เพจอย่างเป็นทางการของค่ายหนังหลังจากรับชม เรื่องนี้เป็นเรื่องผิวสีที่สอดแทรกและสะท้อนสังคมอเมริกันได้เป็นอย่างดีค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่อเมริกาแต่เรื่องนี้ก็ทำให้เราได้เห็นมุมมองของคนที่มีอคติกับคนที่รูปลักษณ์ภายนอก ผิวสี หน้าตา สังคม หรืออะไรก็ตามแต่ เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวการบอกเล่าผ่านนักแสดงนำผิวสี เอบีลิน คลาร์ก และเมื่อเธอต้องลุกขึ้นมาสู้เพื่ออิสรภาพและความเท่าเทียมกันของกลุ่มคนผิวสีนั้นได้อย่างยอดเยี่ยม หนังเรื่องนี้ทำให้เราได้เห็นมุมมองของคนที่มอคติแบบรุนแรงต่อคนผิวสี และ กลุ่มคนที่เข้าใจ และยอมรับในตัวตน มันทำให้เราได้เห็นอะไรหลาย ๆ ทั้งการแบ่งแยกทางสังคม การโดนรังเกียจ ดูถูก เหยียดหยาม มันหล่อหลอมกลายมาการเรียกร้องสิทธิของกลุ่มคนผิวดำที่อยากจะมีสิทธิเสรีภาพที่เท่าเทียมกับคนผิวขาว หนังเรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริง และให้แรงบันดาลใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความอบอุ่น ความห่วงใย ที่มองข้ามเรื่องผิวสี อคติ และแง่ลบออกไปได้เป็นอย่างดีค่ะ และนี่ก็เป็นทั้งหมดของหนังที่เราหยิบยกมาเขียนในเรื่องของการสร้างแรงบันดาลใจที่ดี ให้กับคอหนัง หรือ บรรดาคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ และยิ่งถ้าเราได้ดูกับครอบครัวมันจะเป็นอะไรที่ยิ่งดีและอบอุ่นหัวใจมาก ๆ เลยนะคะ ขอบคุณภาพปกจาก เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของค่ายหนัง , 127 hour , hidden figures