Short CommentThe Equalizer 3 มัจจุราชไร้เงา 3 ปิดตำนานนักฆ่าจับเวลาตาย (2023)คงอารมณ์ไว้ได้อย่างครบถ้วน อาจไม่ระห่ำแต่ระอุเดือดกับการปิดตำนานโดยสมบูรณ์ของนักฆ่าโฮมโปรเปิดหัวบทความนี้มาขออนุญาตเล่าเรื่องตัวเองสักนิดว่าผู้เขียนมีนักแสดงอันดับหนึ่งในดวงใจคือเป็นที่หนึ่งจริงๆคือ Denzel Washington ที่ดูงานของเขาเยอะมากเรียกได้ว่าแทบทุกเรื่อง และผู้เขียนจะมีนิสัยอยู่อย่างคือชอบดูหนังก่อนนอนที่อาจจะดูไม่จบพอง่วงก็ปิดแล้วนอนพักผ่อนแต่จะมีหนังบางเรื่องที่จะไม่ดูก่อนนอน นั่นเพราะเป็นหนังประเภทที่นิยามส่วนตัวเรียกว่าเมื่อไหร่เมื่อนั้นนั่นคือเปิดดูเหมือนไหร่ก็ลากยาวเมื่อนั้นต่อให้ดูซ้ำแล้วซ้ำอีกอันกระทบต่อเวลาพักผ่อน และเชื่อหรือไม่ว่าหนังที่ว่านั้นส่วนใหญ่จะเป็นหนังของ Denzel Washington แล้วหนึ่งในนั้นคือ The Equalizer (2014) ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่ามัจจุราชไร้เงาแต่คนดูบ้านเราขนานนามเขาว่านักฆ่าโฮมโปร ซึ่งเป็นหนังที่ผู้เขียนดูบ่อยมากไม่รู้กี่รอบที่แม้จะมีภาคสองมาก็ยังดูไม่บ่อยเท่าภาคแรกเพราะบางอย่างดูลดระดับลง แต่เมื่อมีภาคสามมาในปีนี้ที่ไม่มีโอกาสดูในโรงแล้วพอเห็นมีมาให้เช่าดูทาง TrueID เลยเช่าดูตั้งแต่วันแรก แต่ที่เพิ่งมาเขียนถึงวันนี้เพราะต้องย้อนกลับไปดูสองภาคก่อนหน้าเพื่อเชื่อมต่ออารมณ์กันจนมาเป็นบทความปิดตำนานหนังชุดนี้จนได้เปิดหัวมาที่ซิซิลีประเทศอิตาลีเมื่อพ่อค้ายากลับมาถึงรังแล้วพบว่าลูกสมุนของตัวเองตายเกลื่อนและมีหนึ่งคนรออยู่โดยมีสมุนของเขาควบคุมอยู่ ซึ่งพ่อค้ายาน่าจะจัดการผู้บุกรุกคนนั้นได้ถ้าไม่ใช่ว่าคนคนนั้นคือ Robert McCall (Denzel Washington) อดีตซีไอเอเจ้าของฉายานักฆ่าโฮมโปรที่หันมาขับอูเบอร์ แน่นอนลุงเก่าเหลาเหย่ Robert McCall จัดการพวกค้ายาจนเรียบและทำภารกิจเสร็จแต่ด้วยความประมาทชั่ววูบลุงถูกยิง จนเมื่อหมดสติกลางถนนตำรวจมาพบเข้าจึงพาเขาไปยังเมืองเล็กๆชื่ออัลตามอนเตที่เงียบสงบ ที่นี่ลุงได้รับไมตรีจากชาวเมืองที่ไม่สนว่าเขาจะเป็นใครมาจากไหนจนกระทั่งความงดงามของทิวทัศน์และน้ำใจทำให้ลุงหลงรักเมืองนี้ที่อัลตามอนเต แต่เมืองนี้กลับมีอะไรแอบอยู่เมื่อมีแก๊งมาเฟียมาคอยรังควานประชาชนผู้ประกอบสัมมาอาชีพสุจริตแล้วเมื่อมันเกินเลยไปลุงจึงอดไม่ได้จัดการพวกมันให้สาสมกับที่พวกมันทำกับคนดีๆ ร้อนถึงนายใหญ่ของมาเฟียแก๊งนี้ที่ต้องมาประกาศสงครามกับชาวเมืองอัลตามอนเตทำให้ลุงเก่าเหลาเหย่ต้องไปพิฆาตพวกมันก่อนที่ภัยจะมาถึงเมืองที่แสนสงบนี้ครบถ้วนในการเป็น The Equalizer ที่มาในอารมณ์ลุ่มลึกอยู่เสมอแล้วเมื่อถึงเวลาก็สาแก่ใจ ความเป็น The Equalizer คือความสาสมใจเมื่อลุงเก่าเหลาเหย่จัดการพวกชั่วอย่างสาสมนั่นคือการประเทืองจินตนาการประมาณปลอบประโลม ซึ่งมันมาจากความธรรมดาของลุงเก่าเหลาเหย่ที่ซ่อนงำประกายและรังสีอำมหิตไว้ภายไต้พนักงานห้างขายวัสดุก่อสร้างหรือคนขับอูเบอร์ ความธรรมดาที่สามารถกลืนไปกับสังคมในบอสตันโดยที่ไม่มีใครรู้ว่านี่คืออดีตมือสังหารชั้นแนวหน้าของซีไอเอที่เอาความธรรมดานั้นมาจับใจคนดูได้อย่างอยู่หมัดแล้วเดินเรื่องที่อาจเรียบเรื่อยแต่ลุ่มลึกเพราะคนดูไม่รู้สึกเบื่อ ทั้งยังต้องมีบทสนทนาการเผชิญหน้าเข้มๆให้ได้ระทึกกันเพราะลุงไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้นทำให้อยากตามติดชีวิตลุงไปเรื่อยๆ และสิ่งที่หายไปในภาคสองแต่กลับมาในภาคนี้คือการที่ลุงใช้อะไรที่หยิบจับได้มาเป็นอาวุธสังหารที่เน้นความโหดจัดสะใจสาแก่ใจยิ่งนักที่พวกชั่วจะโดนอะไรแบบนี้ และสิ่งเหล่านี้ต้องเล่าบนพื้นฐานเบื้องหลังความรู้สึกของลุงเก่าเหลาเหย่ที่ภาคนี้คือความต้องการชีวิตที่สงบแล้วแต่เมื่อพวกแมลงหวี่แมลงวันชั่วๆมาพันพันก็จัดการซะ ทุกอย่างเชื่อมโยงกันอย่างเรียบเนียนด้วยอารมณ์เดิมๆที่ต้องบอกว่า Antoine Fuqua คืนฟอร์มหลังจากดร็อปลงนิดหน่อยในภาคสองสรุปได้สมบูรณ์กับการปิดตำนานเพื่อการจากลาเมื่อมองหาแรงจูงใจก็เห็นได้ว่าคู่ควร จากภาคแรกจัดการกับพวกมาเฟียรัสเซียชั่วๆที่ทำร้ายโสเภณีอย่างทารุณลุงก็เลยจัดการพวกมันด้วยความทารุณตอบแล้วเด็ดหัวอสรพิษแต่ก็มาพร้อมความขัดแย้งในใจตัวเองจนต้องหาที่พึ่งทางใจ ส่วนภาคสองที่พึ่งทางใจเพียวงหนึ่งเดียวถูกสังหารโดยพวกเดียวกันลุงจึงเปิดเผยตัวเพื่อเด็ดหัวพวกชั่วเพื่อล้างแค้นที่ธีมของเรื่องบิดไปเล็กน้อย แต่เมื่อผ่านอะไรมามากชีวิตก็เหนื่อยล้าและคราวนี้มีเหตุการณ์เฉียดตายการได้อยู่ในเมืองเล็กๆที่สุขสงบอาจเป็นที่มั่นสุดท้ายที่ชีวิตที่เดินผ่านห่ากระสุนและเลือดเนื้อมานานอย่างลุงได้หยุดพัก ซึ่งมันคือแรงจูงใจมหาศาลที่การเล่ามาตั้งแต่ภาคแรกที่ให้คนดูซึมซับความรู้สึกข้างในของลุงที่ถูกวางไว้เป็นรากฐานอย่างดีของเรื่องตลอดมาได้รู้สึกตามจนกระทั่งอยากให้ลุงได้หยุดพักกับเรื่องโหดๆแบบนี้บ้าง แต่ก่อนหน้านั้นต้องปัดกวาดให้หมดความสงบที่แท้จึงจะมาจนสุดท้ายภาพที่เห็นคือลุงเก่าหลาเหย่ของเราสามารถกลืนเข้ากับอัลตามอนเตไปเรียบร้อย มันจึงเป็นการปิดตำนานลงอย่าสมบูรณ์แบบเมื่อแรงจูงใจที่จะหยุดพักจากเรื่องร้ายๆคือการค้นพบความหมายของชีวิตและคนดูก็พร้อมและยินดีไปด้วยที่จะไม่ได้เห็นนักฆ่าโฮมโปรมาจัดการพวกชั่วอีกแล้วคงไม่มีใครสามารถเป็น Robert McCall หรือลุงเก่าเหลาเหย่ได้อีกแล้วในโลกนี้ ผู้เขียนไปเห็นบทความหนึ่งจากต่างประเทศที่ยกย่อง Denzel Washington ว่าคือ GOAT หรือ Greatest Of All Time ซึ่งผู้เขียนเห็นด้วยเต็มประตู เพราะนี่คือนักแสดงที่ต่อให้บทหนังออกมาธรรมดาที่สุดเขาจะพาหนังไปสู่ความเป็นหนังดีได้ยกตัวอย่าง The Book of Eli (2010) หรือถ้าได้บทหนังระดับดีเขาจะพาให้หนังเรื่องนั้นเป็นงานชั้นเยี่ยมได้ยกตัวอย่างภาคแรกของหนังเรื่องนี้แหละ เพราะพลังดาราและการแสดงที่ยอดเยี่ยมเสมอมารวมถึงการวางตัวที่ไม่เคยมีข่าวฉาวหรือแค่เป็นข่าวยังน้อยมาก ซึ่งสำหรับบทลุงเก่าเหลาเหย่ Robert McCall ก็เช่นกันที่ Denzel Washington สามารถพาตัวละครเข้าไปนั่งในใจคนดูได้เช่นเคยจนกระทั่งคิดว่าไม่ควรหรือคงไม่มีใครหาญกล้ารีเมคหนังเรื่องนี้ออกมาและจะมีนักแสดงชายหน้าในมารับบทลุงเก่าเหลาเหย่ได้อีก ส่วนภาคนี้ที่ต้องชื่นชมคือน้อง Dakota Fanning ที่กลายมาเป็นจุดขายเพราะนี่คือการโคจรมาพบกันอีกครั้งของน้องกับลุง ซึ่งคุณค่านั้นก็คู่ควรเพราะฉากสนทนากันที่ร้านกาแฟคือฉากที่น่าจดจำและน้องสามารถเข้าฉากกับระดับ GOAT ได้อย่างยอดเยี่ยมไม่มีโดนข่ม ทำให้การมาพบกันครั้งนี้ที่ผ่านมาถึงสิบเก้าปีหลัง Man on Fire (2004) กลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ในภาคนี้แม้จะเหมือนการดูหนังภาคแรกที่อารมณ์จะชัดกว่าภาคสองในความเกี่ยวพันและความผูกพันก็ทำให้หนังสนุกเหมือนเดิม เอาจริงภาคนี้ไม่ต่างจากการย้อยรอยหนังภาคแรกอาจเพราะภาคสองถูกบิดไปในทางล้างแค้นเลยรู้สึกต่างไปทำให้เมื่อดูภาคสามเหมือนกลับมาเข้าทางอีกครั้งจึงหวนคำนึงถึงภาคแรก แน่นอนตัวละครของ Dakota Fanning ก็การเติมที่พึ่งทางใจกลับมาหลังจากสูญเสียเพื่อนไป แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นก็ไม่เสียหายอะไรเพราะนี่คือหนังภาคต่อที่อาจจะไม่มีพัฒนาการที่ไปไกลแต่บางครั้งการคงไว้ซึ่งตัวตนของหนังก็เป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะกับหนังชุดนี้ที่ความผูกพันกับลุงเก่าเหลาเหย่ของเราๆได้ลงลึกสู่หัวใจแล้วตัวละครนี้จึงไม่ต่างจากเป็นเพื่อนเป็นพี่หรือเป็นลุงที่สนิทและเป็นที่รักไปแล้วจริงๆ ดังนั้นต่อให้เรื่องจะไม่ได้ไปไกลจนเป็นพัฒนาการแต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราและถึงวันนี้คนดูก็พร้อมจะพักเรื่องแบบนี้ไปกับลุงแล้วเพราะเหมือนผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะทั้งที่มีแค่เพียงสามภาค นั่นเพราะเรื่องพื้นหลังเล่าได้ดีแล้วภาคนี้ยังใส่ความโหดความรุนแรงมาเต็มที่ทำให้ดูสนุกสมใจและยินดีไปกับการเกษียณจริงๆแล้วของลุงเก่าเหลาเหย่หรือนักฆ่าโฮมโปรของพวกเราดูไปบ่นไปhttps://www.youtube.com/watch?v=hDFvYY_zaU0&ab_channel=SonyPicturesThailandดู The Equalizer 3 มัจจุราชไร้เงา 3 ปิดตำนานนักฆ่าจับเวลาตาย (2023) ทาง TrueID ได้ที่นี่ เช่าชม 99 บาท หรือ 329 True Point ขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 จาก Instagram theequalizermovieVDO ตัวอย่าง จาก YouTube Sony Pictures Thailand ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/LPRZl0y50RxPhttps://entertainment.trueid.net/detail/2gKa2pkZr4Oqhttps://entertainment.trueid.net/detail/Yb7d7AjL0O2R จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !