เสี่ยงอีกรอบ! "Tenet" และหนังบ็อกซ์บัสเตอร์อีกหลายเรื่อง มีสิทธิ์เลื่อนหนีโควิดซ้ำ
ข่าวสารวงการหนัง
ดูเหมือนว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส-19 ในสหรัฐอเมริกา ที่ส่อแววจะกลับมาวิกฤตซ้ำอีกครั้ง หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รัฐแคลิฟอร์เนียที่เป็นที่ตั้งของแหล่งผลิตภาพยนตร์อย่างฮอลลิวูดเตรียมประกาศล็อกดาวน์พื้นที่อีกครั้ง ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ จะต้องหยุดชะงักลงอีก ย่อมส่งผลกระทบต่อภาพรวมของวงการหนัง และหนังหลายเรื่องอาจจะต้องเลื่อนฉาย
นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมหนังจากฮอลลิวูด มองว่า โปรแกรมฉายหนังในเดือนสิงหาคมและกันยายนที่วางคิวเอาไว้อยู่ อาจจะต้องถูกเลื่อนฉายออกไปอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่บางเรื่องได้เลื่อนมาจากช่วงต้นปีและเดือนกรกฎาคม เนื่องจากโรงหนังยังไม่สามารถกลับมาเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบได้ และอาจจะต้องเลื่อนเปิดโรงหนังไป จากเดิมที่คาดว่าน่าจะเปิดได้ภายในสัปดาห์หน้า
ทำให้ในขณะนี้หนังฟอร์มใหญ่และหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ อย่าง "Tenet" หนังไซไฟเรื่องใหม่ของ คริสโฟเตอร์ โนแลน, "Mulan" หนังไลฟ์แอคชั่นจากแอนิเมชั่นของดิสนีย์, "The Conjuring 3" หรือ "A Quiet Place Part 2" หนังระทึกขวัญไซไฟภาคต่อ อาจจะต้องเลื่อนโปรแกรมฉายออกไปในช่วงปลายปีนี้แทน
Tenet ที่ได้เลื่อนฉายเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เลื่อนออกมาจากในเดือนกรกฎาคม ทางวอร์เนอร์ฯ พร้อมที่จะเลื่อนฉายหนังได้ตลอดเวลา โดยพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันเป็นหลัก และแน่นอนว่าถ้าหาก Tenet ไม่อยู่ เจ้าหญิงดิสนีย์อย่าง Mulan ก็ไม่น่าจะอยู่เช่นกัน มีความเป็นไปได้ว่าหนังใหม่จากดิสนีย์จะต้องเลื่อนฉายตามไปด้วย
ขณะที่ A Quiet Place Part 2 ที่เลื่อนฉายมาจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งที่เกือบจะได้ลงโปรแกรมฉายอยู่แล้ว แต่คราวนี้อาจจะต้องเลื่อนฉายออกไปอีก ทั้งที่มาจองคิวในเดือนกันยายนเอาไว้ได้สักพัก เช่นเดียวกับ The Conjuring 3 ภาคต่อหนังผีสุดสยองที่หลายคนรอคอยในเดือนกันยายนเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้มีกระแสโชยออกมาบ้างแล้วว่า ค่ายหนังอาจจะเลื่อนคิวฉายหนังเรื่องนี้ไปก่อน
นอกจากนี้ยังระบุว่า นักวิเคราะห์ได้ทำการปรับฐานการคาดการณ์สถานการณ์รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศในปี 2020 ลงไปอีก โดยคาดว่าจะทำรายได้ลดต่ำลงไปมากถึง 70% ที่เท่ากับว่าเป็นตัวเลขที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์วงการหนัง หลังจากที่ตัวเลขก่อนหน้านี้ได้วิเคราะห์เอาไว้ว่า บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาน่าจะขาดทุน 55-60% แต่ในเมื่อโรงหนังกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งไม่ได้ สถานการณ์ก็จะยิ่งเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ เพราะหนังไม่สามารถออกฉายทำเงินได้
Source: Variety
----------------------------------------------------