Dream Works คืออีกหนึ่งสตูดิโอที่ผลิตแอนิเมชั่นที่มีผลงานดีไม่แพ้ค่ายอื่น ๆ และมักจะมากับประเด็นเรื่องราวที่ดูจะเป็นคู่แข่งขั้วตรงข้ามกับ Disney อย่างชัดเจนมาโดยเสมอ แต่กลับกันประเด็นเรื่องราวของพวกเขาที่สร้างมามีความทันสมัยร่วมสมัยและหลากหลายก่อนกาลเวลามาหลายเรื่องเสียด้วยซ้ำ อย่างเรื่องราวของ The Bad Guys ก็เหมือนเป็นการพลิกอีกด้านของตัวละครสัตว์ที่มักมีภาพจำในโลกแอนิเมชั่นคือฝ่ายคุณภาพตัวเอกน่ารักสไตล์ฮีโร่ในฝั่งของตัวเอกของเรื่องราวแต่กลับกันของเรื่องนี้ที่ตัวเอกจะเป็นตัวร้ายที่ต้องกลับใจมาเป็นคนดี ซึ่งแค่คอนเซ็ปต์ก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างจะฉีกภาพจำเดิม ๆ อยู่ไม่น้อย แม้หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องราวและเซ็ตติ้งโลกของ The Bad Guys จะคล้าย Zootopia แบบอดคิดไม่ได้จากฟาก Disney แต่จากภาคแรกที่การันตีทั้งเงินและรายได้ก็ค่อนข้างจะได้คำตอบชัดเจนว่าเรื่องราวของ The Bad Guys ก็มีสตอรี่ของตัวเองที่โดดเด่นมากพอให้แตกต่างอีกฝั่งจนกระทั่งการอนุมัติให้มีต่อภาคที่สอง ก็การันตีถึงคุณภาพที่คนดูส่วนใหญ่ชอบใจหนังเรื่องนี้กัน รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! The Bad Guys 2 ภาคต่อที่ติ๊กถูกทุกอย่างสำหรับการเป็นภาคต่อที่มันต้องต่อยอดให้ดีขึ้น ภาพรวมเลย The Bad Guys 2 คือผลงานที่ทำดีขึ้นมาก ๆ ในทุกแง่ระดับที่สานต่อจากภาคแรกมาทั้งหมด และอาจจะเป็นคอนเทนต์แอนมิเชั่นออริจินอลในช่วงยุคโควิดที่มีภาคต่อแล้วสร้างสรรค์ออกมาดีที่สุดเลยก็ว่าได้ หนังมีความเป็นหนังบล็อคบลัสเตอร์ชนิดหนังป็อปคอร์นแบบที่ ๆ แฟนหนังหลายคนชอบใช้แซวสมัยมีหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์หลากเรื่องฉายต่อ ๆ กันและรายได้ดีไปยังสม่ำเสมอ เฉกเช่นกับเรื่องนี้ที่ใช้นิยามคำนั้นได้ไม่มีผิด หนังปิดจุดบอดของภาคแรกได้ดีหมด และเสริมด้วยเสน่ห์ที่ขยี้มากกว่าในแง่ความบันเทิง ทั้งงานภาพที่สวยมากขึ้น ใช้กลิ่นอายงานเส้นแบบเดียวกับ Puss in Booth ภาค 2 ที่มีงานภาพที่สวยเป็นเอกลักษณ์แบบการผสมผสานหลาย ๆ แขนงศิลปะแอนิเมชั่น ซึ่งพอขมวดรวมกับตัวละครสัตว์ที่ออกมาน่ารักและดูดีมันเลยยิ่งส่งเสริมให้หนังดีขึ้นมาก ๆ ในแง่การออกแบบตัวละครดึงดูดคนดู เช่นเดียวกับความสนุกที่หนังมีความเป็นทีมมากขึ้น หนังสไตล์ฮีโร่จ๋า ๆ มากขึ้น ซึ่งก็สามารถแมสมากพอจะขายได้ทั้งครอบครัวและคนดูหน้าใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสภาคเก่ามาก็ดูได้จอยสบายใจ ฉากไคลแม็กซ์ยกระดับแอนิเมชั่นเรื่องนี้ให้มันคือที่สุดของแอนิเมชั่นหลังยุคโควิดเป็นต้นมา แม้จะเป็นสเต็ปภาพรวมแบบหนังแอนิเมชั่นที่เราล้วนรู้จักผ่านตามาแล้วมากมาย แต่ฉากท้ายเรื่องอย่างองก์สามไคลแมกซ์เป็นอะไรที่สุดยอด ยกระดับเรื่องราวตัวเองขึ้นมามาก ๆ กับฉากแอ็คชั่นนอกโลกที่ครีเอทีฟสถานการณ์ในหนังให้ออกมาเว่อร์ได้ดูสนุก แทบจะไม่ต่างกับการได้ดูการ์ตูนญี่ปุ่นโซเน็น ที่ลุ้นระทึกตามตัวละคร ชอบในความเท่ของตัวละครที่เขาเขียนมาทั้งหมดและคิดว่าภาพรวมตอนท้ายของหนังมันเยี่ยมมากพอที่คนดูหนังจบจะมีสิ่งที่จำและชอบหนังเรื่องนี้ได้แน่ ๆ ไม่เสียเปล่าที่มาดูเรื่องนี้ สนุกแค่ไหนก็ไม่ลืมประเด็น 'อดีต ตัวตน อนาคตที่เราอยากเป็น' อีกจุดแข็งจากภาคแรกที่ทำให้ The Bad Guys เป็นการ์ตูนที่มีมากกว่าแค่ความสนุก งานภาพสวยจึ้ง ตัวละครออกแบบเพอร์เฟ็ค คือเรื่องราวของประเด็นหนังของการกลับใจ การเลือกชีวิตใหม่ การให้โอกาส ที่แม้จะดูการ์ตูนมาก ๆ แต่ก็ยังสะท้อนปมในใจความเป็นคนดูในโลกแห่งความเป็นจริงได้ดี เมื่อนำมาใช้กับตัวละครสัตว์ที่ถูกมองเป็ฯตัวร้ายทั้งในสายตาคนในหนังและสายตาคนดูในชีวิตจริงมันก็ยิ่งทัชใจอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งภาคนี้ก็เหมือนเป็นอีกจุดที่หนังยังใช้ย้ำเพื่อขยี้แต่ทว่าน่าเสียดายที่ขยี้ไม่คมเท่าภาคแรก แต่ก็ใช่ว่าที่ขยี้มาในจังหวะภาคนี้จะเสียเปล่าเพราะมันยังคมยังดีเช่นเดิมแค่อาจจะไม่เท่าจนขนลุกแบบภาคแรก ควรแมสและดังกว่านี้มาก ๆ อีกแอนิเมชั่นม้ามืดที่ดีมันทั้งสองภาค สิ่งเดียวที่น่าเสียดายในแอนิเมชั่นเรื่องนี้คือความแมสความดังที่ไม่ค่อยจะพลุแตกเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับตัวคุณภาพในเนื้องาน ที่บทดี ภาพสวย อะไรต่าง ๆ เข้าขั้นดีมาก ๆ อาจจะยังไม่ใช่แอนิเมชั่นที่ดีไร้ที่ติแต่สำหรับยุคหลังโควิดที่มากไปด้วยแอนิเมชั่นภาคต่อ ความออริจินอลน้อยลงเรื่อย ๆ สำหรับเรื่องนี้มันคือออริจินอลที่สามารถบาลานซ์สนุกได้ แก่นดีด้วย ได้ดีอย่างมากจนน่าเสียดายที่แสงส่องไม่ถึงพวกเขาเหล่านี้ ขอบคุณแหล่งที่มาของภาพ ภาพหน้าปก 1 จาก Facebook : United International Pictures Thailand ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 จาก Facebook : United International Pictures Thailand จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !