In My MemoriesThe Producers : โปรดิวเซอร์หน้าใส หัวใจกุ๊กกิ๊ก (2015)เก่าแต่ดีของ "กงฮโยจิน" กับการค้นพบหัวใจที่มาพร้อมเสียดสีวงการบันเทิงถ้าเอ่ยชื่อของนักแสดงที่คุ้นหูคุ้นตามาตั้งแต่ยุคบุกเบิกหนังเกาหลีในบ้านเราเมื่อต้นยุค 2000 ชื่อของ "นายเจี๋ยมเจี้ยม" ชาแทฮยอนคือหนึ่งในชื่อที่ไม่มีทางที่คนที่เคยรู้จักเขาจะลืมลง แล้วถ้าเอ่ยถึงชื่อของนักแสดงตัวแม่ของวงการที่แสดงกับใครก็เข้ากันได้เจ้าของฉายา "เคมีสาธารณะ" กงฮโยจินก็คือชื่อที่การันตีงานดีที่รับงานน้อยแต้เน้นบทดีๆที่มีคนติดตามดูอยู่เสมอและหนึ่งในนั้นคือดูไปบ่นไปอันเป็นที่มาของการดูเรื่องนี้ อีกหนึ่งชื่อที่ถ้าคนดูหนังและละครเกาหลีจะรู้ว่านี่คือนักแสดงค่าตัวแพงในการรับแสดงละครแต่ก็รับประกันความนิยมและความสามารถทางการแสดงก็คุ้มค่าตัวคือคิมซูฮยอน และถ้าเอ่ยถึงนักร้องหรือไอดอลเบอร์ต้นๆของเกาหลีที่มีเสน่ห์และความน่ารักที่มาพร้อมการแสดงที่มาตรฐานสูงและพิสูจน์ตัวเองมามากมายคงต้องนึกถึงอีจีอึนหรือที่ทุกคนเรียกว่าไอยู แล้วถ้ามีละครเรื่องไหนที่สามารถเอาทั้งสี่คนมารวมกันได้ก็นับเป็นความน่าสนใจเพราะตั้งแต่ที่เห็นจากเรื่องนี้ก็ไม่มีเรื่องไหนอีกที่พระเอกนางเอกมีถึงสองคู่และเป็นระดับเบอร์ใหญ่ที่กินกันไม่ลงแบบเรื่องที่จะว่ากันต่อไปนี้แบคซึงชาน (คิมซูฮยอน) ได้เข้าทำงานในสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่เพราะมาตามหาหัวใจด้วยหญิงคนรักทำงานที่นี่ แต่เมื่อเข้ามาแล้วจริงๆกลายเป็นว่าเธอคนนั้นกำลังคบหาอยู่กับราจุนโม (ชาแทฮยอน) โปรดิวเซอร์รายการวาไรตี้ที่เรตติ้งกำลังต่ำเตี้ย แล้ววันแรกของแบคซึงชานคือการไปช่วยรายการถ่ายทอดสดที่มีทัคเยจิน (กงฮโยจิน) เจ้าของฉายา "มนุษย์ป้ารุ่นเก๋า" เป็นโปรดิวเซอร์และทัคเยจินก็ได้โชว์พาวด้วยการจัดการกับความเรื่องมากของนักร้องชื่อดังซินดี้ (ไอยู) แต่วันแรกของแบคซึงชานก็คือชีวิตเหมือนโดนทำร้ายทั้งทำงานพลาดแถมยังอกหักทั้งยังมาเจอศัตรูหัวใจอย่างราจุนโม แล้วดูเหมือนฟ้าดินกลั่นแกล้งให้แบคซึงชานได้ร่วมทีมกับราจุนโมในรายการที่มีซินดี้เป็นตัวชูโรงและแบคซึงชานกับซินดี้ก็เหมือนมีอะไรให้สานสัมพันธ์ ด้านทัคเยจินนั้นก็อาศัยในบ้านเดียวกับราจุนโมเพราะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กและชัดเจนว่ามีเฟรนด์โซน แต่เรื่องกลับบานปลายเมื่อแบคซึงชานดันเผลอมีใจให้มนุษย์ป้ารุ่นเก๋าทัคเยจิน ส่วนซินดี้ก็พยายามยึดหัวใจแบคซึงชานและราจุนโมจะข้ามเฟรนด์โซนได้หรือไม่เมื่อละครถูกเล่าในแบบรายการเรียลลิตี้ทำให้มีอะไรแปลกไปจนเหมือนไม่คุ้นเคย แต่ถ้ามองข้ามความไม่คุ้นออกไปเช่นมีการสัมภาษณ์นักแสดงหรือหันมาคุยกับกล้องและดูมีสคริปต์ซ้อนสคริปต์จะเห็นว่าบทละครของพัคจีอึน (My Love From the Star) ออกมาแน่นมาก นั่นคือไม่มีหลุดโทนจากเรื่องรักสามสี่เส้าที่พัวพันกันจนชวนหัวจะปวดทั้งเรื่องเฟรนด์โซนของราจุนโมกับทัคเยจินที่ต่างไม่กล้าเอ่ยและช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย อีกด้านคือความรักที่เริ่มก่อเกิดจากการใกล้ชิดและสนิทกับรุ่นพี่ที่มีเสน่ห์เร้นลับจับหัวใจของแบคซึงชานที่มีต่อทัคเยจินแต่ก็มีกำแพงราจุนโมกั้นไว้เพราะเสียงของหัวใจของแต่ละคน แล้วเสียงหัวใจนั้นก็ทำให้ซินดี้รู้สึกดีกับความซื่อจริงใจของแบคซึงชานทำให้หัวใจที่เย็นชาเพราะการไม่เคยใช้ชีวิตอย่างปกติชนของเธออบอุ่นขึ้นมา ซึ่งแกนหลักของเรื่องก็คือเรื่องของหัวใจที่แท้จริงแล้วมีอะไรอยู่ข้างในแต่ยังไม่เจอยังไม่ถูกขุดค้นเพราะต่างคนต่างมีกำแพงใสกั้นไว้จนมองไม่เห็นข้างในแต่พรึงเพริดไปกับความงามภายนอก จนเมื่อเสียงของหัวใจบอกมันว่าใช่ทุกอย่างก็เป็นไปตามทำนองที่แม้จะดูเยอะแต่ไม่มีหลุดคล้ายตีแผ่และเสียดสีวงการบันเทิงเกาหลีอยู่ในทีทำให้เกิดความเห็นใจจนหัวใจคนดูเปลี่ยนไป ทั้งเรื่องของการสู้กันระหว่างโปรดิวเซอร์รายการที่เหมือนมีอิทธิพลเหนือนักแสดงหรือนักร้องไอดอลซุปเปอร์สตาร์ที่เหมือนอุดมไปด้วยอีโก้ ที่เฉือนกันเพื่อเรตติ้งและชื่อเสียงแต่แท้จริงแล้วมีมิติมากกว่านั้นเพราะความจริงเหล่าคนมีชื่อเสียงก็น่าเห็นใจเมื่อหลายอย่างก็ถูกกดดันจากประธานต้นสังกัด และการที่จะมายืนบนจุดสูงสุดของวงการบันเทิงล้วนมีอะไรต้องแลกเมื่อชีวิตจะไม่ใช่ชีวิตของตัวเองอีกต่อไปเพราะการคงอยู่ค้างฟ้าหรือล่มสลายก็ล้วนอยู่กับน้ำมือของต้นสังกัดที่สร้างได้ก็ทำลายได้ โดยใช้เครื่องมือที่มีเล่นงานด้วยวิธีการที่แย่สุดบรรยายทำให้คนมีชื่อเสียงเหล่านั้นไม่ต่างจากสุนัขล่าเนื้อ ซึ่งในส่วนนี้ถือว่าทั้งตีแผ่ทั้งเสียดสีจนได้ใจเพราะคนดูมีมีความรู้สึกร่วมไปกับตัวแทนของคนเหล่านั้นคือซินดี้ที่แม้จะกินอิ่มนอนหลับเต็มที่ยังลำบากที่จะได้รับ ทำให้คนดูที่เริ่มจากหมั่นไส้คนมีชื่อเสียงอีโก้จัดแล้วเปลี่ยนมาสงสารเห็นใจเคียดแค้นชิงชังรังเกียจไปจนขยะแขยงหลายการกระทำและที่น่าตกใจคือคนดูคิดว่ามันคือเรื่องจริง เมื่อความเป็นรายการเรียลลิตี้ทำให้มองเห็นเป็นความจริงที่สามารถเกิดขึ้นได้แต่ก็มีสิ่งที่ต้องแลก อาจเพราะเรื่องวงการบันเทิงคือเรื่องที่เป็นจุดสนใจของคนดูเพราะเมื่อคนดูหนังดูละครย่อมต้องติดตามข่าวบันเทิงเป็นของคู่กัน และบ่อยครั้งที่เรื่องที่เกิดขึ้นในโลกจริงกับเรื่องที่เห็นในละครโดยเฉพาะเรื่องนี้ที่เห็นเป็นภาพทับซ้อนแต่สิ่งที่ต้องแลกคือเมื่อคล้ายภาวะเป็นจริงความโรแมนติกต้องลดบทบาทลง ทำให้กลายเป็นเรื่องความรักในชีวิตจริงที่ไม่มีสิ่งปั้นแต่งเพราะไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ไม่มีความเป็นนิยายแม้กระทั่งเรื่องของซุปเปอร์สตาร์กับโปรดิวเซอร์หน้าใหม่ที่มีอะไรต้องมาสัมผัสกันแล้วสิ่งนั้นก็คือส่วนที่เติมเต็มคือชีวิตในมุมที่ต่างไปและอุณหภูมิหัวใจที่มอบให้ซึ่งมันเป็นกันได้ และสิ่งนี้ก็คือพัฒนาการการเปลี่ยนผ่านของตัวละครที่บทเขียนออกมาได้เนียนๆจนกระทั่งเมื่อดูไปก็คล้ายกับดูรายการเรียลลิตี้กึ่งสารคดีมากกว่าดูละคร ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนมองว่าเข้าท่าดีเพราะเหมือนได้เห็นความจริงของเหล่านักแสดงคนมีชื่อเสียงเพราะขนาดนักแสดงรับเชิญอย่างอีซึงกิหรือโกอารายังมาแสดงเป็นตัวเองที่ล้อเลียนตัวเองได้สนุกจริงแม้จะได้นักแสดงที่บารมีพอๆกันมารวมกันแต่สุดท้ายมิติของตัวละครก็เป็นตัวกำหนด ความจริงบทละครวางตัวละครแบคซึงชานของคิมซูฮยอนไว้เป็นตัวเดินเรื่องแล้วให้มีปัจจัยเรื่องหัวใจมาตกกระทบซึ่งก็คืออีกสามคนรอบกายและเห็นชัดว่าชูไอยูมาคู่กับคิมซูฮยอน แต่ด้วยมิติตัวละครที่เป็นคนซื่อๆใสๆเลยคล้ายเป็นความทื่อจนกลายเป็นว่าเคมีที่ลงตัวกันของรุ่นใหญ่คือกงฮโยจินกับชาแทฮยอนเด่นล้ำขึ้นมา ส่วนหนึ่งคือคู่รุ่นใหญ่มีอะไรให้เล่นมากกว่าเพราะมีเรื่องของเฟรนด์โซนที่ให้ได้ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะข้ามกันได้เสียทีและความที่สองคนคู่รองเล่นกันได้อย่างเข้าขาและเป็นธรรมชาติทำให้กลายเป็นการเข้าคู่กันในความทรงจำได้ แต่ใช่ว่าคู่รุ่นเล็กจะแสดงไม่ได้เพราะยังเล่นกันอย่างได้ใจเพียงแต่มิติมันไม่ได้ลุ้นเพราะคนดูไปมีความรู้สึกกับความสงสารเห็นใจตัวละครของไอยูที่ไม่ต่างจากการมาแสดงเป็นตัวเอง ซึ่งถ้ามองภาพรวมการแสดงของเรื่องนี้คือการแสดงที่ถูกใจเพราะบทละครเล่าเป็นเรียลลิตี้ด้วยจึงทำให้เหมือนดูชีวิตจริงมากกว่าละครที่แม้จะอ่อนความหวานละมุนแต่ก็ดีไปอีกแบบด้วยจำนวนตอนที่ไม่มากแค่สิบสองตอนทำให้ไม่ยาวเกินไป กระนั้นด้วยเวลาฉายถึงตอนละประมาณชั่วโมงครึ่งก็ทำให้ภายในตอนบางครั้งเหมือนไม่รู้จะเล่นอะไรทำให้มีบ้างที่ดูอืดอาด แต่เมื่อมีเวลาเล่าและประเด็นหลักประเด็นรองไม่แตกหน่อออกไปมากทำให้บทเก็บทุกรายละเอียดได้ไม่ละเลยหลงลืมซึ่งความอืดอาดนั้นมาจากชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่พยายามแหวกแนวที่เล่าแบบนี้แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้เรื่องออกมาน่าเบื่อ นั่นเพราะเสน่ห์ของนักแสดงทั้งสี่คนออกมาเต็มที่ทั้งคิมซูฮยอน,ไอยูหรือชาแทฮยอนที่พลังดาราทำให้เรื่องดูเพลิดเพลินขึ้นมาอีกโข แต่เมื่อการที่ผู้เขียนดูเรื่องนี้เพราะกงฮโยจินสายตาจึงจับจ้องไปที่เธอที่ในเรื่องนี้ไม่ต้อยต่ำถ่อมตัวแล้วแต่ดูเป็นมนุษย์ป้าอารมณ์ร้ายสร้างกำแพงหัวใจตนเองอย่างไร้ที่ติซึ่งก็คือความต่างไป ทั้งเมาแล้วเรื้อนบางทีก็ดูน่าหมั่นไส้แต่พอดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เพราะโลกใช่ว่าจะมีแค่นางเอกที่เป็นเจ้าหญิงผู้อ่อนหวาน นั่นหมายความว่าด้วยชั้นเชิงเทคนิคการเล่าเรืองที่ไม่คุ้นเคยอาจทำให้ดูแปลกไปแต่แค่ดูสุดยอดนักแสดงสี่คนมาแสดงให้ดูก็ควรค่าให้อยู่ในความทรงจำแล้วดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก Facebook KBS 한국방송 หมายเหตุ ผู้เขียน "ดูไปบ่นไป" คือบุคคลเดียวกับ Facebook Fanpage ดูไปบ่นไป รวมบทความผลงานของ กงฮโยจิน โดยดูไปบ่นไปรีวิวจัดเต็ม When The Camellia Blooms : วันที่ดอกไม้เบ่งบาน (2019) คำพิพากษากับฟ้าหลังฝน มรสุมชีวิตกับความเรียบง่าย งดงามและจริงใจในความทรงจำ It's Okay , That's Love : ถ้ารักกัน...มันก็โอเค (2014) "ความงดงามของความรักที่ชนะได้แม้อาการป่วย"ในความทรงจำ Jealousy Incarnate (Don't Dare to Dream): รักเลยไม่ต้องฝัน (2016) เก่าแต่ดีของ "กงฮโยจิน" รอมคอมสดใสในมุมคมๆ ความรักและครอบครัวในความทรงจำ Pasta (2010) เก่าแต่ดีของ "กงฮโยจิน" ที่ตัวละครและพัฒนาการลงตัวดีมากในความทรงจำ The Master's Sun (2013) เก่าแต่ดีของ "กงฮโยจิน" ที่ดูสนุกน่ารัก โก๊ะๆ รั่วๆ หลอนๆในความทรงจำ The Greatest Love รักสุดใจกับนายซุปตาร์ (2011) เก่าแต่ดีของ "กงฮโยจิน" ที่เสียดสีสื่อและวงการบันเทิงได้บันเทิงสุดๆ ชวนแต่งแฟนซี หลอน สวย เซ็กซี่หรือสร้างสรรค์ ถ่ายภาพหรือวิดีโอ แล้วโพสต์ที่ TrueID Community ห้อง "13 สยองขวัญ"สำหรับผู้ที่ยอดกดไลค์สูงสุด 5 อันดับแรกอันดับที่1 : (ต้องมียอดไลค์เกิน 150 ไลค์) เงินรางวัล 3,000 บาทอันดับที่ 2-5: (ต้องมียอดไลค์เกิน 50 ไลค์) เงินรางวัล รางวัลละ 1,000 บาท (รวม 4 ท่าน 4,000 บาท)STAR COVER ส่งภาพเข้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 65 ถึง 3 พฤศจิกายน 65***