Series ReviewDestiny ชะตาลิขิต (2024)ชวนติดตามความเข้มข้นบนปริศนาแห่งความสงสัยในระหว่างที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ได้แนบแน่นเพราะนี่คือโชคชะตาฟ้าลิขิตสารภาพตรงนี้ว่าปัจจุบันผู้เขียนดูซีรีส์ญี่ปุ่นมากขึ้นพอๆกับซีรีส์เกาหลีที่เมื่อก่อนดูเป็นหลักเพราะซีรีส์ญี่ปุ่นค่อนข้างหาดูยากกว่า แต่ในระยะหลังกลายเป็นว่าซีรีส์ญี่ปุ่นมีมาให้ดูมากขึ้นผ่านทางระบบสตรีมมิ่งค่ายต่างๆซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่มีทางเลือกมากขึ้น โดยส่วนตัวแล้วสำหรับซีรีส์เกาหลีที่อาจเรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ในตำนานที่ต้องดูผู้เขียนก็ดูหมดแล้วกระมังหลังๆจึงดูเป็นซีรีส์ที่ออกอากาศสด ในขณะที่ซีรีส์ญี่ปุ่นที่มีมากขึ้นก็เป็นซีรีส์ที่ออกอากาศจบแล้วในบ้านเกิดและด้วยจำนวนตอนที่น้อยกว่าซีรีส์เกาหลีก็ทำให้สามารถดูยาวๆไม่ต้องรอเป็นรายสัปดาห์เหมือนซีรีส์เกาหลี ทำให้ถ้าท่านผู้อ่านลองสังเกตดีๆคืองานเขียนของผู้เขียนเริ่มจะมีซีรีส์ญี่ปุ่นถี่ขึ้นเพราะดูจบก่อนแต่ล่าสุดก็มีซีรีส์ญี่ปุ่นที่ออกอากาศสดมาบ้างแล้ว แต่ด้วยความที่ผู้เขียนชินกับการดูซีรีส์ญี่ปุ่นแบบยาวๆมากกว่าบางครั้งก็รอให้ใกล้จบก่อนแล้วค่อยดูทว่าสุดท้ายก็มีลืมไปบ้าง เช่นเดียวกับซีรีส์เรื่องนี้ที่ลงสตรีมเป็นรายสัปดาห์มาครั้งละตอนแต่ผู้เขียนตั้งใจว่าจะดูอยู่แล้วแต่แล้วก็ลืมไปอีกจนได้ จนเมื่อมาเจอว่าจบแล้วเมื่อไหร่ไม่ทราบก็เลยหาเวลาเปิดดูก็ยาวไปจนจบในเวลาไม่นานอีกแล้วคานาเดะ นิชิมูระ (ซาโตมิ อิชิฮาระ) หญิงสาวผู้มีแผลใจจากอดีตที่พ่อของเธอที่เป็นอัยการที่ทำคดีคอรัปชั่นระดับชาติแล้วถูกสถานการณ์บีบให้ฆ่าตัวตายอย่างมีมลทินทำให้เธอฝันว่าจะเป็นอัยการ เธอจึงเข้าเรียนภาควิชากฎหมายในมหาวิทยาลัยแล้วได้เจอกับกลุ่มเพื่อนคือมาซากิ โนกิ (คาสึยะ คาเมนาชิ),โทโมมิ โมริหรือโทโมะ (เอมมา มิยาซาวะ),คาโอริ อาอิคาวะ (มินามิ ทานากะ) และยูกิ อุเมดะ (ยูมะ ยาโมโตะ) ที่กลายเมาเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่กับมาซาชิและคานาเดะมีอะไรมากกว่านั้นเพราะกลายมาเป็นคนรักกันโดยที่มีคาโอริเป็นผู้ผิดหวัง จนกระทั่งโทโมะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับคดีเก่าของพ่อของคานาเดะที่เกี่ยวพันกับพ่อของมาซาชิและบอกให้คาโอริรู้แล้วคาโอริก็คาดคั้นให้มาซาชิเลิกกับคานาเดะจนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต แน่นอนทุกคนหัวใจสลายแล้วมาซาชิก็ยังมาหนีไปอย่างเป็นปริศนาจนสิบสองปีล่วงผ่านคานาเดะได้เป็นอัยการสมใจและมีชีวิตที่ดีมีคนรักที่ดีคือทาดาชิ โอคุดะ (มาซาโนบุ อันโดะ) แต่แล้วมาซาชิก็กลับมาพร้อมเงื่อนงำของคดีเก่าในอดีตแล้วเรื่องจะเกี่ยวข้องกันอย่างไรในกลุ่มเพื่อนซี้ห้าคนนี้เก่งที่สามารถผูกเรื่องพัวพันเชิงโชคชะตาให้เกี่ยวข้องกับเรื่องเชิงกฎหมายได้อย่างลงตัว เพราะชื่อเรื่องว่าโชคชะตาหรือ Destiny จึงเป็นเรื่องของคนกลุ่มหนึ่งที่มีเรื่องพัวพันลุกลามไปจนผูกพันกันแบบแยกไม่ออกโดยแต่ละคนต่างก็กุมชะตาบางอย่างไว้เพื่อไปสะสางกันทีหลัง แต่หน้าหนังกลับเป็นงานแนวกฎหมายที่ว่ากันด้วยเรื่องของการพิสูจน์ความจริงและลบล้างมลทินเพื่อคืนความยุติธรรมให้กฎหมายที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือ ซึ่งก็คืองานแนวกฎหมายที่เบื้องหน้าโดยมีเรื่องของโชคชะตาฟ้าลิขิตให้หนุ่มสาวห้าคนมาพบกันและผูกพันเป็นเพื่อนด้วยมิตรภาพและความรักสนับสนุน แล้วมีมิติของคดีความที่เป็นตัวแปรทางหัวใจให้ต้องพบกับความสูญเสียที่กลายเป็นปมซ้อนปมที่ต้องชื่นชมว่าผสานสองเรื่องนี้ได้ลงตัวดีไม่มีอะไรเด่นหรือด้อยไปกว่ากันทั้งที่มันควรเป็นงานแนวกฎหมาย หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นงานแนวกฎหมายที่สามารถผูกเรื่องด้วยการวางรากฐานที่แน่นหนาจนกลายเป็นส่วนเสริมซึ่งกันและกัน ส่งผลให้เรื่องที่เล่ามีมิติเชิงลึกที่มีเหตุมีผลไม่ได้เหนือกว่ามโนสำสึกให้เอะใจหรือตั้งคำถามจึงนับว่าเป็นการเขียนบทที่เก่งอย่างร้ายกาจเดินเรื่องฉลาดไปข้างหน้าโดยทิ้งปริศนาไว้เพื่อเฉลยในเวลาที่ถูกต้องทำให้ดูมีชั้นมีเชิง ความจริงการเล่าเรื่องแบบนี้ก็ไม่ได้เหนือชั้นมากมายแถมยังเป็นสิ่งที่เห็นได้เสมอในซีรีส์ญี่ปุ่นแนวๆนี้ นั่นคือการเดินเรื่องไปข้างหน้าโดยทิ้งปริศนาเล็กบ้างใหญ่บ้างตามรายทางไปทั่วแล้วความสงสัยของคนดูจะตามมาแต่ความต่างของแต่ละเรื่องว่าจะได้ผลดีขนาดไหนคือจังหวะเวลา ซึ่งเรื่องนี้ยอมรับว่าด้วยความซับซ้อนเชิงความสัมพันธ์ที่พัวพันทั้งปัจจุบันพาดทับไปยังอดีตที่มีเรื่องของมิตรภาพและความรักที่เป็นมิติเชิงหัวใจทำให้ถ้าจังหวะไม่ดีมีดูยากแน่นอน กระนั้นเรื่องกลับไม่ได้ดูยากแม้จะซ่อนแล้วซ่อนอีกแต่ความฉลาดคือการเปิดในเวลาที่ถูกที่ควรทำให้จากการเล่าเรื่องที่เหมือนจะซับซ้อนให้ดูง่ายที่เป็นความดีประการหนึ่งแล้ว ดีที่สองคือการเปิดหน้าเฉลยปมในแต่ละจังหวะก็ทำให้เรื่องที่เหมือนจะดูง่ายทั้งที่ซับซ้อนกลายเป็นมีชั้นมีเชิงมีลูกล่อลูกชนที่เริ่มตั้งแต่เปิดหน้ามาที่ปัจจุบันที่เป็นผลแล้วย้อนกลับไปหาเหตุ สิ่งที่ตามมาคือเหมือนจะเดาง่ายแต่เดาไม่ได้หรือบางครั้งก็ง่ายจนไม่ต้องเดาแต่กลับพลิกผันเหมือนชั้นเชิงเหนือๆทั้งที่เป็นเรื่องง่ายๆเมื่อเรื่องราวที่พัวพันกันอย่างแนบแน่นเล่าได้อย่างเข้มข้นสิ่งที่ได้คือความน่าติดตามอย่างสุดกำลังที่เพิ่มพลังขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่เป็นเสมอในซีรีส์ญี่ปุ่นคือจะค่อยๆเล่าเก็บรายละเอียดที่เป็นอีกแนวหนึ่งส่วนอีกแนวหนึ่งจะเล่าจบในตอนซึ่งความเร้าใจจะต่างกัน และเรื่องนี้คือการเล่าเรื่องระยะทางยาวเล่นเรื่องเล็กที่พัฒนาไปหาเรื่องใหญ่โดยค่อยๆปล่อยความสงสัยไว้เพื่อเฉลยในเวลาที่คนดูอยากรู้เต็มประดาแล้ว ด้วยเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนเชิงความสัมพันธ์และมีมิติเชิงลึกอยู่เบื้องหลังโดยมีความเร้าใจที่เบื้องหน้าในการค้นหาความจริง แต่ความซับซ้อนที่ดูเหมือนมีมากและยากกลับเล่าง่ายคนดูจึงไม่รู้สึกเหนื่อยล้าในการขบคิดปริศนามากไปแถมยังเก็บรายละเอียดในการเฉลยปมประเด็นต่างๆอย่างแยบยล สิ่งที่ได้คือความเข้มข้นตั้งแต่จุดเริ่มแต่ความเร้าใจจะเพิ่มทวีขึ้นหลังจากที่อะไรที่ควรเปิดได้ถูกเปิดเพื่อทิ้งปริศนาให้ไว้เพื่อโปรดติดตามตอนต่อไป นั่นหมายความว่าอัตราความน่าติดตามจะมีให้อย่างสุดกำลังและเพิ่มพลังขึ้นเรื่อยๆจนไปสู่จุดสูงสุดในตอนท้ายที่ทุกอย่างกระจ่าง แม้ว่าบางเวลาอาจเสียเวลาไปกับบางอย่างก็ทำอะไรไม่ได้แต่น่าเสียดายที่การแสดงยังไม่เข้าขั้นพอซึ่งก็เข้าใจได้ว่านี่คืองานละครซีรีส์ที่ได้เท่านี้ก็ดีถมเถ เพราะแรงดึงดูดหลักอยู่ที่ความสงสัยและมิติเชิงความสัมพันธ์ผ่านการเล่าเรื่องมากกว่าทำให้การแสดงของนักแสดงที่มารับบทในเรื่องอาจไปไม่ถึงที่ควรเป็น คือการเล่าไปข้างหน้าแล้วย้อนกลับมาเฉลยในช่วงเวลาที่ห่างหันแต่ไม่เห็นความต่างของวัยที่ห่างกันทำให้เหมือนไม่สมบทบาทเมื่อนักแสดงที่มีอายุมากกว่าไปแสดงเป็นวัยนักศึกษามหาวิทยาลัย แน่นอนมีการใช้แสงและโทนสีมาช่วยแต่ก็ไม่ได้ผลมากนักยังมองเห็นริ้วรอยที่ลดทอนความน่าเชื่อถือ ต่อมาคือเสน่ห์ยังไม่จัดจ้านพลังดาราที่จะมาดึงดูดใจยังไม่แรงพออาจเพราะอย่างที่บอกคือโฟกัสของคนดูไปอยู่ที่การเล่าเรื่องที่ชวนสงสัยมากกว่าการดูนักแสดง นั่นหมายความว่าเรื่องนี้เอาใครมาเล่นก็อาจไม่ต่างกันหรือบางทีเผลอคิดไปว่าพระเอกหรือนางเอกเอานักแสดงที่มีพลังดารากว่านี้มาแทนอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยก็พอเข้าใจว่านี่คืองานระดับละครโทรทัศน์ที่มักเป็นแบบนี้แต่เท่าที่มีคืออะไรที่ควรซ่อนก็ซ่อนได้ไม่ได้เผลอปล่อยออกมาผ่านการแสดงเท่านี้ก็ดีแล้วอาจเหมือนที่วัยรุ่นข้างบ้านเรียกว่าสโลว์เบิร์นแต่ก็เป็นความสนุกเพลิดเพลินจนดูได้ยาวๆ เพราะผู้เขียนดูงานจากญี่ปุ่นบ่อยและยอมรับว่าชอบงานจากญี่ปุ่นไม่น้อยทำให้คุ้นชินกับสไตล์ทำให้ดูสนุก แน่นอนงานญี่ปุ่นมักจะเล่าเรื่องค่อนข้างเรียบเรื่อยที่วัยรุ่นข้างบ้านเรียกแบบเก๋ๆว่าสโลว์เบิร์นโดยมีความโดดเด่นที่เพลงประกอบภาพที่ส่งอารมณ์และเรื่องนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น ยิ่งได้การเล่าเรื่องที่ชวนสงสัยท้าทายความอยากรู้กับเรื่องที่พัวพันกันแน่นหนาที่อาจเรียกได้ว่าแพรวพราวหลอกให้คิดไปทางหนึ่งแต่สุดท้ายก็ไม่เป็นอย่างที่คิดถ้าจะคิด ทำให้เป็นงานที่ดูสนุกดูเพลินเลยเก้าตอนผ่านไปอย่างรวดเร็วอาจไม่ใช่รวดเดียวเพราเวลาไม่ค่อยมากแต่เมื่อมีเวลาก็ไม่อยากดูเรื่องอื่นก่อน น่าเสียดายที่เรื่องนี้มีความรักเป็นตัวแปรสำคัญแต่นักแสดงนำสองคนพลังและเสน่ห์ยังไม่จัดจ้านพอจนทำให้เคมีดูไม่เข้ากันเท่าที่ควร จนกระทั่งเมื่อเล่าเรื่องของความรักมันยังไม่ลงลึกได้ส่งผลให้เรื่องของหัวใจไม่แนบสนิทกับตัวเรื่องที่เล่าเพราะเชื่อยากหรือเชื่อไม่เต็มร้อยกระทั่งอาจเสียดายที่จบแบบที่เห็นเป็นความขัดใจเล็กน้อยแต่จะเป็นแบบไหนไปพิสูจน์กันเองดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก จาก X 「Destiny」火曜よる9時【テレビ朝日公式】ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4,5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก Instagram destiny_tvasahi ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้ https://entertainment.trueid.net/detail/kwY0O8VjzXGl https://entertainment.trueid.net/detail/oPVG6V4lbKdL https://entertainment.trueid.net/detail/grW2lRvGMmgJเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !