ภาพ: ผู้เขียนวิจารณ์ส่งเดช!แน่นอนว่า ‘วิจารณ์ส่งเดช’ ไม่ได้หมายถึง การเขียนบทวิจารณ์ส่งให้บรรณาธิการหรือนักอ่านคนใดที่ชื่อเดช แต่คำว่า ‘ส่งเดช’ ในที่นี้เป็นภาษาปาก หมายถึงการกระทำลวกๆ (ที่ไม่ใช่กรรมวิธีหนึ่งที่ทำให้อาหารสุก) แสดงถึงความมักง่าย แต่เมื่อถูกนำมาตั้งเป็นชื่อหนังสือด้วยการต่อท้ายคำว่า ‘วิจารณ์’ จึงเป็นการรวมข้อเขียนเชิงวิพากษ์แบบขวานผ่าซาก คือนักเขียนนำเสนอเนื้อหาอย่างไม่เกรงใจใคร ไร้ความเมตตาเป็นที่สุด!ภาพ: ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมข้อเขียนเกี่ยวกับหนังจากคอลัมน์ Bite! ของนิตยสาร HAMBURGER ซึ่งหนังทุกเรื่องที่ถูกพูดถึง ล้วนเป็นหนังไทยทั้งสิ้น จำนวน 25 เรื่อง ผู้เขียนไม่ได้คัดสรรมาเฉพาะหนังที่ดูสนุก ให้ความบันเทิง หรือมีคุณภาพจนอยากแนะนำ แต่เป็นหนังที่ถูกกรองมาแบบ ‘ตามใจฉัน’ คืออยากเขียนถึงหนังเรื่องไหนก็เขียนภาพ: ผู้เขียนเนื่องจากเป็นหนังสือเก่าแล้ว ‘เก่า’ ทั้งในความหมายของสภาพหนังสือที่ก่อนจะมาถึงมือผมก็ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 4 มือแล้ว และ ‘เก่า’ ในความที่นับจนถึงวันนี้ ถูกตีพิมพ์ผ่านมาราว 15 ปีแล้ว ทำให้เด็กรุ่นใหม่น่าจะไม่รู้จักหนังที่ถูกเอ่ยถึงภายในเล่มสักเท่าไหร่ ซึ่งผมขอถือวิสาสะ แบ่งหนังที่ปรากฏในเล่มเป็น 3 ประเภทภาพ: ผู้เขียนประเภทแรก เป็นหนังตลาดและหนังรางวัลที่ผมเคยดูอย่าง แฟนฉัน, องค์บาก, Beautiful Boxer, โอเคเบตง และบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยมส่วนประเภทต่อมา พวกหนังที่ผมเพิ่งเคยได้ยินชื่อเป็นครั้งแรก (อารมณ์แบบว่ามีหนังเรื่องนี้อยู่บนโลกด้วยหรือ) ได้แก่ ขัง 8, สาบเสือที่ลำน้ำกษัตริย์, หลอน, สนิมสร้อย, 2508 ปิดกรมจับตาย, คนสั่งผี, ตะลุมพุก, ดงพญาไฟ, เฮี้ยน และมหัศจรรย์ พันธุ์รักตามด้วยประเภทสุดท้าย หนังที่ผมคุ้นหูมานาน ตอนเข้าโรงใหม่ๆ ไม่มีโอกาสได้ดู มาถึงตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปหาดูได้จากที่ไหน (นอกจากตามเว็บเถื่อน) คือ สยิว, ทวิภพ, ไอ้ฟัก, องคุลิมาล, ผีหัวขาด, คนเห็นผี 2, คืนบาป พรหมพิราม, พันธุ์ร็อกหน้าย่น, 999-9999 ต่อ ติด ตาย และ Sex Phone คลื่นเหงา สาวข้างบ้าน (โดยเฉพาะ 2 เรื่องหลังนี่ผมว่าน่าดูมาก เพราะมีนักแสดงระดับ ศรีริต้า เจนเซ่น กับ พอลล่า เทเลอร์)ภาพ: ผู้เขียนต่างจากการรีวิวหรือวิจารณ์หนังที่เราเห็นกันทั่วไป นี่ไม่ใช่การมาพูดถึงความดีงามหรือความชั่วร้ายขององค์ประกอบต่างๆ ในหนัง ‘อย่างลึกซึ้ง’ และห่างไกลจากการทำตัวเป็นบทวิเคราะห์หรือตีความสัญญะที่ซ่อนอยู่ในหนังเช่นกัน แต่ วิจารณ์ส่งเดช! เป็นผลงานที่มีสไตล์การเขียนแบบจิกกัดหยอกล้ออย่างแสบสันต์ ไม่มีความประนีประนอมใดๆ จนผมคิดว่า หากคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนั้นๆ ได้มาอ่านก็น่าจะช็อกไม่น้อย สาระไม่มี เน้นความบันเทิงเป็นหลัก เหมือนคนที่อยากพูดอะไรก็พูด (หรือเรียกว่า พูดไม่คิด)ภาพ: ผู้เขียนโดดเด่นในด้านของรูปแบบอันฉีกแปลกแหวกแนว กล้าหาญจนน่ายกย่อง คือมีการกำหนดให้เป็นคนสองคน (ที่ชื่อ วิจารณ์ กับ ส่งเดช) มาสนทนากัน (ไม่ใช่คนนึงเป็นคนถาม อีกคนนึงเป็นคนตอบ) ถึงหนังที่พวกเขาดูกันมา สำหรับผู้อ่านที่ไม่เคยดูหนังเหล่านั้นมาก่อน ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะอ่านข้อเขียนในเล่มนี้ไม่รู้เรื่องหรือไม่เอ็นจอย แต่ความสงสัยบางอย่างที่เกิดจากการอ่าน อาจทำให้คุณอยากหาหนังเรื่องนั้นๆ มาดูก็เป็นได้ภาพ: ผู้เขียนด้วยความเคารพ, มีสิ่งหนึ่งที่ยังติดค้างในใจผม กล่าวคือจนแล้วจนรอด อ่านมาตั้งแต่หน้าแรกไล่มาจนจบเล่มแล้ว ผมถึงกับต้องเกาหัวจนเกิดเสียงดังแกรกๆ ด้วยความไม่แน่ใจว่า ตกลงหนังสือถูกเขียนขึ้นโดยนักเขียนเพียงคนเดียวชื่อ ‘วิจารณ์ ส่งเดช’ หรือนักเขียนสองคนคือ ‘คุณวิจารณ์’ กับ ‘คุณส่งเดช’ !!!ภาพ: ผู้เขียน