เป็นธรรมดาที่การไปเล่นดนตรี ละก็มีวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกัน เชื่อว่านักดนตรีที่ผ่านการเล่นมาหลายงาน ต้องมีอย่างน้อยสัก1ครั้ง ที่เล่นๆ อยู่ละมีวัยรุ่นตะลุมบอนกัน เราเองก็เช่นกันที่เล่นดนตรีอยู่ ละมีวัยรุ่นเขม่งกันจนนำพามาสู่การทะเลาะวิวาท แต่ก็โชคดีหน่อยเพราะเล่นดนตรีมาหลายงาน เจอวัยรุ่นทะเลาะกันแค่งานเดียว แต่จำอีกนานเลยละ555 เรื่องมีอยู่ว่า.....มีงานจ้างเข้ามาเราเองก็ซ้อมกันปกติ จนถึงเช้าวันเล่น ทางน้าๆในวงดนตรีก็เตรียมของอุปกรณ์ดนตรี ลำโพงเครื่องเสียง จัดเตรียมทีมงานควบคุม ขนของ ส่วนเจ้าภาพที่จ้างเราไปเล่น ก็มีศักดิ์เป็นญาติห่างๆ ที่ห่างกันมากเลยแหละกับมือกีตาร์ในวงเรา555 สถานที่จัดงานอยู่ใกล้ๆ บ้านและห้องซ้อมดนตรีของเรา งานที่บ้านเจ้าภาพก็เป็นงานจัดเลี้ยงธรรมดา เนื่องจากการถูกหวยจำนวนมาก เป็นงานที่ใหญ่มากเลยแหละ ก็เตรียมจัดของเสร็จ เช็คซาวน์เสร็จ ก็กลับบ้านไปพักผ่อนก่อนมากเจอกันอีกที ประมาณ1ทุ่ม จัดทำพิธีไหว้ครูเอาฤกษ์ก่อนขึ้นเล่น พอดีเป็นงานใกล้บ้าน พี่ชายที่เป็นลูกของลูกพี่ลูกน้องของพ่อขอมาด้วยเพราะสนิทกับมือเบสในวงด้วย และก็พาเพื่อนมาด้วย ที่เราเองก็สนิทกันมาก รวมถึงลูกพี่ลูกน้องเรากับน้องชายเราด้วย ขึ้นเล่นเริ่มเล่นแรกๆก็ดี แต่พอเริ่มดึกๆไปมันก็มีคนกินเหล้าเมาได้ที่ละ ก็มาเต้นหน้าเวที ซึ่งตอนนั้นดึกๆ ก็มีวัยรุ่นเต้นกันทั้งนั้น แต่มาสะกิดตรงแก็งค์พี่ชายเรากับหลานเจ้าภาพ ที่เราเล่นดนตรีอยู่ก็สังเกตุไปด้วยว่า ทีมเราทีมเขากำลังเขม่งกันอยู่ มันเริ่มมาจากหลานเจ้าภาพที่พยายามที่จะเต้นเบียดพี่ชายเรา จนนำไปสู่การเต้นยียวนชวนกระแทกไหล่กัน แต่พี่ชายเราพยายามหนีไปเต้นตรงอื่น แต่เขายังตามมาเต้นเบียด และเหยียบเท้าพี่ชายเรา จนสุดท้ายพี่ชายเราเองเลิกเต้น และเดินไปนั่งที่โต๊ะทีมงานเรา พี่ทีมงานเราก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และหลานเจ้าภาพไม่หยุด ไปเต้นกระแทกเพื่อนพี่ชายอีก แต่เพื่อนๆ ในทีมพี่ชายระงับอารมณ์ไว้ได้ จนเราเล่นเสร็จดนตรีเลิก เราก็ลงมาที่โต๊ะทีมงาน เจ้าภาพก็ยกข้าวปลามาให้กิน ยกมาเผื่อพี่ๆ เราด้วย พี่ชายเราน้องชายเราก็นั่งกินข้าวกัน แต่หลานเจ้าภาพก็ยังพูดจายียวนกวนประสาท จนพี่ชายเราทนไม่ไหวลุกขึ้นชี้หน้าด่า แต่น้าๆห้ามไว้ จนกินข้าวเสร็จเราก็บอกน้องชายให้กลับบ้านกันก่อน บอกพี่ชายด้วย พอแก็งค์พี่ชายเดินออกไป หลานเจ้าภาพก็เดินตามไป3คน เราสะกิดบอกน้ามือกีตาร์ให้แอบๆตามไปดู น้าลุกขึ้นดื่มน้ำก่อนตามไปดู ก็ได้ยินเสียงปืนดังมานัดแรก เรากับน้าในวงรีบวิ่งไปดูเลย ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงอีกนัดนึง พอเราวิ่งมาถึงก็เห็นหลานเจ้าภาพยิงอีกนัดนึง น้องชายเรากำลังหลบอยู่คูน้ำข้างทาง เพื่อนน้องชายก็กำลังสตาร์ทรถจะหนี และที่หลานเจ้าภาพยิงไป คือยิงตามหลังมอไซต์คันที่พี่ชายเราซ้อนไป (โชคดีหน่อยที่หลานเจ้าภาพจะเอาเรื่อง แต่พี่ชายเราคนอื่นไม่เกี่ยว) ที่ทำให้น้ามือกีตาร์เราโกรธมาก คือมีมือเบสซ้อนท้ายไปด้วยอีกคน น้ามือกีตาร์เลยด่าไปชุดใหญ่ พร้อมกับเจ้าภาพมาถามว่าเกิดไรขึ้น น้าเราอธิบาย แต่เจ้าภาพก็เงียบแบบอึ้งๆ เราเองก็ต้องขับรถตามท้ายรถน้องชายเพราะทุกคนกลัวมาก ยังไม่ทันจะถึงบ้าน ก็เจอแก็งค์พี่ชายรวมพลกันอยู่ ตรงทางสามแยกที่หลานเจ้าภาพต้องผ่านแน่ๆ พี่มือเบสถามเราว่า"เมื่อกี้มันยิงปืนตามหลังมาใช่ไหม" เราก็ถามว่า"โดนใครไหม" พี่มือเบสบอกไม่โดนใคร ก็โชคดีหน่อย แต่ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหรคือทุกคนในแก็งค์พี่ชายไม่ยอม ทุกคนเตรียมมีด ไม้ ปืนมาครบ จนเราต้องโทรไปตามน้ามือกีตาร์มา ระหว่างนั้นเรากับเพื่อนต้องกลับไปเก็บของในงาน แต่ก็ไปไม่ถึงเมื่อน้ามือกีตาร์โทรบอกไม่ต้องมา พวกหลานเจ้าภาพมันบ้ากำลังจะไปตามเอาเรื่องพี่ชายเราอีก ใครห้ามไว้ก็ไม่ฟัง เราบอกว่าออกมาครึ่งทางแล้ว ระหว่างนั้นมีมอไซต์ผ่านมาคันนึง เรารีบหลบข้างทาง เพื่อนเราก็เข็นมอไซต์หลบทัน สรุปก็เป็นมอเตอร์หลานเจ้าภาพกำลังขับหาพี่ชายเพราะคิดว่าต้องโดนยิงแน่ๆ และมันคงคิดว่าคงล้มอยู่แถวๆนี้ หลานเจ้าภาพขับมอไซต์เวียนอยู่ 3-4 รอบ ระหว่างนั้นเรากับเพื่อนรีบเข็นมอไซต์ออกมาจากป่าข้างทางละรีบบิดกลับจุดรวมพล เราเองยอมรับว่าแค้นมาก พี่ชายไม่ได้หาเรื่องอะไร แทนที่จะจบยังขับรถมาหาจะซ้ำอีก เราก็รีบโทรหาน้ามือกีตาร์ให้มาที่จุดรวมพล พอมือกีตาร์มาถึงก็คุยกับทุกคนว่า "พี่ขอ แยกย้ายกันกลับบ้านเถอะ" แต่ทุกคนก็ไม่ฟัง สรุปเหตุการณ์คืนนั้น...เกือบเช้ากว่าจะเคลียร์ให้แก็งค์พี่ชายแยกย้ายสะลายตัวได้ ส่วนไอ้หลานเจ้าภาพ เด็กเก็บลำโพงในทีมเราบอกว่า มีคนพาขึ้นรถยนต์หลบออกไปทางอื่น แต่เหตุการณ์ไม่จบแค่นั้น เราก็นอนอยู่ห้องซ้อม 9โมงเช้า น้ามือกีตาร์มาปลุก บอกมีเรื่องแล้ว เราก็ยังนอนไม่ได้ 4ชม.เลย มีไรเกิดขึ้นอีก น้ามือกีตาร์บอก เจ้าภาพแจ้งความจับเราทั้งวง ละตำรวจให้น้ามาตามถ้าไม่มาตำรวจก็จะมาจับถึงบ้าน (ที่เขามาตามเราเพราะอยู่ในเหตุการณ์ทุกอย่าง) และจะจับแก็งค์พี่ชายเราด้วย งงเป็นไก่ตาแตกสิครับ 555 "เราไม่ได้มีเรื่องกับเขานะ ที่สำคัญหลานเจ้าภาพอะสร้างเรื่อง แถมมีปืนอีก ยิงไปแล้วด้วย ต้องเป็นฝ่ายเราสิที่ต้องแจ้งความ" น้ารีบพาเราไปเคลียร์กับเจ้าภาพก็มีตำรวจอยู่ด้วย ส่วนนักดนตรีคนอื่นๆ รอฟังข่าวที่ห้องซ้อมตำรวจก็บอกให้ตกลงกันเอง ก็เคลียร์ไม่ลงตัว พูดไรมากก็ไม่ได้ ต้องให้น้ากีตาร์พูดอธิบายไปทุกอย่าง ตำรวจก็บอกให้ตกลงกันก่อน สรุป....สุดท้ายคุณแม่น้ามือกีตาร์ต้องมาเคลียร์กับเจ้าภาพ อย่างที่บอกมือกีตาร์เป็นญาติห่างๆ กันมาก โชคดีที่เขาเห็นแกคุณแม่ของน้ามือกีตาร์ เลยตกลงไม่เอาเรื่อง และเคลียร์กันต่อหน้าตำรวจได้ ถึงความจริงเราจะไม่ได้เป็นคนหาเรื่อง หรือผิดเต็มประตู แต่ก็เป็นประสบการณ์การเล่นดนตรีครั้งหนึ่ง ที่จะจำอีกนาน555...... บทเรียนที่ได้จากเรื่องนี้...คือสิ่งหนึ่งที่เราเห็น 1. การระงับอารมณ์ เป็นสิ่งสำคัญมากนะ ถึงฝ่ายตรงข้ามจะเป็นยังไง แต่เราเลือกที่จะระงับอารมณ์ หรือไม่เงียบไว้ หรือไม่ก็เลือกที่จะไม่ยุ่งหนีกลับบ้านจะดีกว่า2. การดื่มเหล้าเป็นต้นเหตุ ก่อให้เกิดเรื่องเสี่ยงอันตรายมากมาย ขาดสถิติอีกด้วย ทางที่ดี ถ้าอยากให้งานสนุก เลือกดื่มแต่พอดี หรือเลือกไม่ดื่มไปเลยจะดีมากกว่า...