ชวนชมBig Mouth (2022)เดินหน้าเร็ว กระฉับกระเฉง ตื่นเต้นเร้าใจปนสงสัย แต่ไม่ตึงจนเกินไปอย่างที่เคยพาดพิงมาก่อนหน้านี้ว่าเกาหลีขยันสร้างละครที่มีเนื้อหาหนักหัวชวนระทมกบาลคนดูออกมาอย่างต่อเนื่อง เรื่องต่อเรื่องที่จัดมาท้าทายสมองคนดูให้คิดตามและคาดเดาส่วนบทสรุปจะเหนือความคาดหมายหรือไม่ค่อยว่ากัน ซึ่งดูไปบ่นไปเคยเขียนไปแล้วว่าจะพักสมองสักระยะเพราะเพิ่งสมองเบ่งบวมมาจากซีรีส์เรื่องก่อนหน้าคือ Doctor Lawyer ที่อาจไม่ได้แหวกแปลกใหม่แต่รายละเอียดยังจัดการสมองคนดูได้ และพอมาถึงเรื่องนี้ที่ออกอากาศต่อกันแบบไม่ห่วงความดันคนดูจากสตูดิโอเดียวกันความจริงผู้เขียนกะว่าจะยังไม่ดูในเวลาอันใกล้นี้เพราะอยากให้สมองได้พักบ้าง แต่แล้วสิ่งที่หวังก็ไม่เป็นไปตามประสงค์เพราะสมองที่ทนเสียงจากหัวใจว่าเรื่องนี้มีความน่าดู ประกอบกับสมองอีกเช่นกันที่หาความชอบธรรมให้หัวใจว่าต้องดูเพราะกลัวโดนสปอยล์เพราะเนื้อหาน่าจะมีแววเป็นเช่นนั้น สุดท้ายสมองก็แพ้หัวใจจนเปิดดูจนได้และสองตอนก็ผ่านไปอย่างน่าสนใจฺBig Mouse คือชื่อที่เรียกนักต้มตุ๋นที่เป็นตำนานและยังไม่ถูกจับได้ ส่วน Big Mouth คือชื่อที่เรียกคนที่ดีแต่พูดตูดไม่ขยับเอาแต่โม้ไปวันๆอย่างทนายปลายแถวพัคชางโฮ (อีจงซอก) ที่แพ้แม้กระทั่งตอนว่าความให้คดีตนเอง แต่อย่างน้อยพัคชางโฮยังมีภรรยาโกมีโฮ (อิมยุนอา) อยู่เคียงข้างแม้จะอยู่ในสถานะพ่อบ้านใจกล้า จนเมื่อบุญหล่นทับหรือรับเผือกร้อนก็ไม่ทราบพัคชางโฮได้รับการว่าจ้างจากนายกเทศมนตรีชเวโดฮา (คิมจุฮุน) ให้ว่าความคดีฆาตกรรมปริศนาโดยมีเหตุผลบางอย่าง จนเมื่อได้หลักฐานมาแล้วแต่ด้วยความที่สิ้นคิดจึงใช้หลักฐานนั้นไปแบล็คเมล์กงจีฮุน (ยางคยองวอน) ผู้ทรงอิทธิพลเพื่อหวังว่าไม่รวยก็ดังกันล่ะทีนี้ แต่กลายเป็นว่าพัคชางโฮถูกจัดฉากให้ดังได้จริงแต่ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำโดยที่หลักฐานชี้ว่าเขาคือ Big Mouse แต่ใครที่เป็นคนจัดฉากให้ Big Mouth เป็น Big Mouse ตัวพัคชางโฮเองและโกมีโฮต้องค้นหาความจริงเพื่อพิสูจน์มันให้ได้ (อีกแล้ว)อาจเปิดมาด้วยปมก็จริงแต่เดินหน้าไปเหมือนคนบ้าพลัง เพราะเดินเร็วจนเกือบวิ่งจนมองเห็นความคึกคักกระฉับกระเฉงในบทละคร แม้ว่าสองตอนนี้จะมีการปูพื้นฐานตัวละครให้มัดใจคนดูให้เชื่อในสิ่งที่พวกเขาจะทำหรือเป็นอะไรไปในเบื้องหน้าแต่ก็ไม่ทิ้งประเด็นเรื่องที่ได้จุดไฟไว้ นั่นคือเรื่องของ Big Mouse ที่เริ่มต้นด้วยการชี้ทางให้คนดูคิดไปแล้วว่าเป็นใครแต่เมื่อถึงบทสรุปของตอนที่สองที่รวบทุกอย่างเข้าหากันได้แล้วกลับพลิกเล็กๆ และสร้างความสงสัยต่อไปว่าใครกันที่เป็น Big Mouse และแน่นอนถึงจุดนี้บทละครชี้นำให้คนดูคิดไปแล้วว่าเป็นไผ แต่มันคงไม่ง่ายเพราะซีรีส์เกาหลีไม่เคยมีอะไรพื้นๆโดยเฉพาะแนวนี้สองตอนที่ผ่านมาจึงมีความสงสัยเป็นไฟส่องทางให้สมองคนดูคิดอย่างหมดทางเลี่ยง กระนั้นยังมีสองคนที่คนดูเชื่อสนิทใจว่าไม่ใช่และเอาใจช่วยคือสองสามีภรรยาจอมซวยเพราะบทใช้เวลาเท่าที่มีวางมิติเชิงความสัมพันธ์ปักเข้าในใจคนดูแล้วแม้จะเข้มข้นเร้าใจไปเร็วแต่ไม่ตึงจนเกินไป ไม่บ่อยนักที่งานแนวนี้ที่มักมีปมประเด็นและต้อนคนดูเข้ามุมอับไปพร้อมกับตัวละครที่คนดูเอาใจช่วยแบบนี้จะมีอะไรให้แวะข้างทาง ก็ใช่ที่ด้วยเนื้อหาที่ผ่านมาสองตอนดูหนักจริงว่าด้วยเรื่องของคนที่ไม่มีดีอะไรหรืออาจไม่เคยรู้ว่าตัวเองมีดีอะไร เพราะอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยมาตลอดแต่ต้องมาเจอกับเรื่องราวพลิกชีวิตจนแทบไม่อยากมีชีวิตจนเอาชีวิตเข้าแลก ทว่าสิ่งที่บทละครเรื่องนี้ในสองตอนนี้ทำได้ดีมากคืออารมณ์ขันที่ลงตัวและไม่ดูจงใจยัดเยียด ทำให้เรื่องที่ควรจะหนักอึ้งสมองเบ่งบวมหัวจะปวดระทมกบาลความดันขึ้นกลายเป็นดูสบายแม้จะไม่ดูง่ายเพราะมีอะไรมาดึงความตึงให้หย่อนลง นั่นหมายความว่าในความหนักหนาที่คนดูต้องแบกรับพร้อมกับชีวิตของตัวละครและสิ่งที่ตัวละครต้องเจอ ยังมีมุมให้ได้ยิ้มได้หัวเราะแม้จะดูไม่น่าจะเข้ากันแต่กลับเข้ากันได้ดีจนทำให้ในความเข้มข้นมีความเพลิดเพลินอย่างน่าชมกับอีกสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ที่ทำให้ความตื่นเต้นเร้าใจบินสูงคือเสน่ห์และเคมีของนักแสดง เพราะอีจงซอกและอิมยุนอากอบโกยหัวใจคนดูไปเป็นกอบเป็นกำจนคนดูเชื่อใจและเอาใจช่วยสองสามีภรรยาคู่นี้ที่ความซวยมาเยือนเพราะพ่อบ้านใจกล้า (เกินปุยมุ้ย) ซึ่งเริ่มแรกอาจมีบ้างที่คนดูอาจคิดว่าผู้หญิงอย่างโกมีโฮไปรักผู้ชายอย่างพัคชางโฮได้ไง แต่เมื่อเวลาผ่านไปแม้จะมีเวลาเล่าไม่มากบทละครก็ดีพอที่จะเล่าให้คนดูเชื่อได้ทั้งใจว่านี่คือคู่แท้ที่จะมาฝ่าฟันเรื่องหนักหนานี้ด้วยกัน และแน่นอนมันต้องมาจากการแสดงที่ถ่ายทอดได้พร้อมเคมีที่เข้ากันลงตัวของพระนางอีจงซอกและอิมยุนอา เพราะเมื่อคนดูเชื่อได้ทั้งใจหัวใจคนดูจะสั่งสมองให้เอาใจช่วยจนอะไรที่เข้ามาหาทั้งคู่คือความเร้าใจสุดขั้ว ส่วนนักแสดงคนอื่นถึงตอนนี้ยังเป็นตัวละครตามสูตรที่ดูน่าสงสัยและซ่อนอะไรบางอย่างไว้ให้คนดูคาดเดาว่าสุดท้าย Big Mouse จะเป็นใครกัน ทำให้นี่คืองานดีที่ควรต้องดูถ้าวัดจากสองตอนที่จุดเริ่มต้นตรงนี้ เพราะถ้านับว่านี่คือละครแนวบริหารสมองประลองปัญญาท้าทายการคาดเดาเรื่องนี้ไม่หลุดไปจากแนวและจุดประกายด้วยความสงสัยเต็มที่ สองตอนที่ผ่านมาแม้จะเป็นช่วงปูพื้นฐานทางคดีและตัวละครแต่ก็มีวางระเบิดไว้ในความคิดคนดูจนเป็นความเข้มข้นเร้าใจที่ใส่มาแทบทุกห้านาที ทว่าสิ่งที่ใส่มานั้นแม้จะดูเป็นเรื่องหนักเช่นการต้องใช้ชีวิตในเรือนจำของคนขี้แพ้อย่างพัคชางโฮ แต่กลายเป็นว่ามีจังหวะนรกที่พลิกอารมณ์คนดูจากขมึงตึงกับสิ่งที่เห็นกลายมาเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้อย่างเนียนๆส่วนจะเป็นอะไรกรุณาไปดูเอง ทำให้แม้จะหนักหนาและอาจระทมกบาลกับอะไรมากมายที่มาพร้อมความสงสัยที่อาจกลายเป็นแกงหม้อใหญ่ แต่สิ่งที่ดูดีกว่าคือการไม่ตึงจนอันตรายต่อเส้นเลือดในสมองเพราะอารมณ์ขันมาช่วยด้วยทำให้เรื่องนี้มีดีจนต้องติดตามไปแล้วอีกหนึ่งเรื่องดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 จาก Facebook MBC 드라마*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565