ขอขอบคุณภาพจาก Studio Ghibli อย่างที่ทราบกันดีว่า ค่ายอนิเมะ Studio Ghibli นั้น เป็นค่ายภาพยนต์อนิเมะที่มีชื่อเสียงในด้านอนิเมะที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการ เข้าถึงอารมณ์ พร้อมสอดแทรกข้อคิดลงในอนิเมะทุกเรื่องที่ถูกฉายออกมาให้ทุกคนได้ดู โดยมีทั้งแบบภาพ 2 มิติ และ 3 มิติ แต่ในวันนี้ผู้เขียนอยากมาแนะนำอนิเมะเรื่องหนึ่งของค่ายนี้เลยคือ Ocean Waves หรือ สองหัวใจ หนึ่งรักเดียว บอกเลยว่าผู้ที่ชื่นชอบหนังแนวโรแมนติกสมัยก่อนนั้นไม่ควรพลาดอย่างแรง เพราะเรื่องนี้ไม่มีแค่กล่าวถึงในด้านความรักเพียงอย่างเดียว แต่มีการกล่าวถึงมิตรภาพ การเข้าสังคม เป็นต้น บอกเลยว่าเป็นอนิเมะที่ครบรสเลยจริง ๆ ถ้าดูแล้ว ทุกคนคงต้องคิดถึงเรื่องในวันวานไม่น้อยเลยทีเดียว เอาล่ะ เดี่ยววันนี้ผู้เขียนจะมารีวิวเกี่ยวกับอนิเมะเรื่องนี้กันว่ามีอะไรน่าสนใจ พล็อตเรื่องเป็นยังไง ถ้าพร้อมแล้ว ตามไปดูกันขอขอบคุณภาพจาก Studio Ghibli ขอกล่าวไว้ก่อนว่าเรื่อง Ocean Waves หรือ สองหัวใจ หนึ่งรักเดียว อาจจะเป็นอนิเมะที่ไม่ได้รับความนิยมเท่าอย่างเรื่อง Spirited Away หรือ โทโทโร่ เพื่อนรัก ก็ตาม แต่ผู้เขียนประทับใจเรื่องนี้ไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ เลย โดยเรื่องมีอยู่ว่า ณ สถานีคิชิโจจิ โตเกียว, พระเอกของเรื่อง ทาคุ จะไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ได้พบเพื่อนในสมัยวันวานอย่างริคาโกะ หญิงสาวโตเกียวที่ต้องย้ายโรงเรียนมาเรียนที่จังหวัดโคจิโดยบังเอิญ ทำให้เขานั้นหวนนึกถึงความทรงจำในวันวานขึ้น หญิงสาวที่เค้าเคยรักแล้วไม่มีวันลืมในสมัยมัธยมต้น ซึ่งรู้จักผ่านทาง ยูทากะ เพื่อนสนิทของทาคุที่แอบชอบริคาโกะ จนกลายเป็นรักสามเส้า ที่น่าลำบากใจที่สุดสำหรับทาคุ ไม่ว่าจะไปทางไหนก็จะมีฝ่ายหนึ่งต้องเจ็บเสมอ ถ้าอยากรู้ว่าเค้าจะรับมือกับมันยังไง ต้องลองไปดูกันเลยค่าขอขอบคุณภาพจาก Studio Ghibli สำหรับผู้เขียนให้คะแนนกับเรื่องนี้ไป 8 เต็ม 10 ไปเลยค่า เพราะพล็อตค่อนข้างหน่วงๆ ไปหน่อย อีกทั้งไม่หวือหวามากและอิงกับความเป็นจริง ซึ่งถ้าเด็กเล็กดูก็อาจจะดูน่าเบื่อหน่อย ๆ แต่ถ้าเด็กโตถึงผู้ใหญ่ดู จะบอกได้ว่าเป็นอนิเมะที่ชวนนึกความทรงจำที่ดีได้ไม่น้อยเลยว่า ไม่ว่าเป็น วิถีชีวิตความเป็นอยู่ การแต่งกาย การเข้าสังคม แตกต่างกับปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง แถมมีเรื่องราวที่น่าติดตามให้อยากรู้ต่อว่าสุดท้ายความสัมพันธ์และเรื่องราวจะลงเอยอย่างไรอีกด้วย อันนี้ทุกคนต้องจินตนาการเองเลยจ้า เราอยากจะบอกว่าทุกเรื่องของค่าย Studio Ghibli มักจะชอบจบให้เราไปคิดต่อกันเอง นี่อาจจะเป็นจุดเด่นที่ค่ายอื่นยังสู้ไม่ได้ก็เป็นไปได้ โดยภาพรวมด้วย ภาพ สี เสียง ของเรื่องนี้ ถือว่าจัดอยู่ในเกณฑ์ที่สวยในสมัยเลยก็ว่าได้ รับรองว่าดูแล้ว ทุกคนอาจจะต้องไปติดตามเรื่องอื่น ๆ ของค่ายนี้กันยาว ๆ ไปเลยจ้าขอขอบคุณภาพจาก Studio Ghibli เป็นยังไงบ้างสำหรับเรื่องนี้ บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ผู้เขียนประทับใจและอยากเชิญชวนให้ทุกคนลองไปดูกันนะคะ ถ้าไม่รู้ว่าจะดูเรื่องอะไร อยากให้เก็บเรื่องนี้ไว้พิจารณากันด้วยน้า ซึ่งทุกคนสามารถรับชมผ่าน Netflix ผ่านกล่อง True ID ได้แล้วนะค่า สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน บายค่า