“ฟิล์ม รัฐภูมิ” แจ้งความ “หนุ่ม กรรชัย”

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” แจ้งความ “หนุ่ม กรรชัย”
“ทนายตุ๋ย พรศักดิ์” ทนายความของ หนุ่ม กรรชัย เผยแก่ดาราเดลี่ว่า ทาง “ฟิล์ม รัฐภูมิ”ได้เดินทางไปที่ สน.ห้วยขวางเพื่อกล่าวโทษเอาผิด
“หนุ่ม กรรชัย” กรณีแอบอ้างชื่อของตนจนทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย โดยเป็นการร้องทุกข์กล่าวโทษ พิธีกรดังกรณีที่นำคลิปมาเปิดเผยในรายการโหนกระแส
สำหรับกรณีดังกล่าว สืบเนื่องมาจากทาง “หนุ่ม กรรชัย” ได้แจ้งความกล่าวโทษ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ก่อนหน้านี้ ที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง กล่าวหาว่าหมิ่นประมาท ทั้งนี้เชื่อว่าคดีนี้กำลังเริ่มต้นร้อนแรงขึ้นอีกครั้งเพราะทางตำรวจกำลังสืบพยาน เหล่าบอสดิไอคอนในเร็วๆนี้
ด้าน “ทนายประมาณ” เปิดเผยว่า วันนี้พา “ฟิล์ม รัฐภูมิ” มาใช้สิทธิ์ตามกฏหมาย โดยมาแจ้งความเอาผิด 2 บุคคล ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีที่มีการนำเรื่องที่ไม่เป็นความจริงมาสร้างกระแสนำไปออกรายการข่าวช่องดัง หรือนำไปแถลงต่อสื่อให้คนเกลียดชังฟิล์มรัฐภูมิ โดยบุคคลที่ 1 คือ “นายแทนคุณ จิตต์อิสระ” หรือ อี้ แทนคุณ จะแจ้งดำเนินคดี 8 กรรม ที่มีการกล่าวอ้างว่ามีหลักฐานซึ่งไม่เป็นความจริง ในหลายกรณีอาทิ กรณีคดีที่จ.ตรัง ที่เป็นคดีเกี่ยวกับการลงทุนเทรดหุ้นดูไบ 60 ล้านบาท ที่มีการตัดสินคดีจบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาฟิล์มรัฐภูมิแต่อย่างใด แต่คู่กรณีกลับมากล่าวอ้างว่ามีหลักฐานต่างๆ ออกมาแถลงต่อสื่อมวลชนไม่รู้กี่ครั้งกี่หน เพื่อหากระแสให้แก่ตัวเอง
บุคคลคนที่สอง ที่จะดำเนินการเอาผิด คือนายภูดิท กำเนิดพลอย หรือ “หนุ่ม กรรชัย” ประมาณ 3-4 กรรม จาก 6 กรรม ที่มีการนำคลิปเสียงระหว่างน.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ บอสปัน กับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ และมีการเชื่อมโยงมาถึงฟิล์มรัฐภูมิ โดยอ้างว่าฟิล์มรัฐภูมิ มีการตบทรัพย์เหล่าบอสดิไอคอน กรุ๊ป จำนวน 20 ล้านบาท เรื่องนี้ทำให้ฟิล์มรัฐภูมิเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ตนถือว่า ”พวกคุณนั้นจัญไร ในการกล่าวหาอย่างรุนแรง“ ส่วนคนอื่นที่มีการกระทำในลักษณะเดียวกันก็เตรียมตัวโดนเป็นรายต่อไป แต่ในวันนี้จะมาแจ้งความเอาผิดเพียง 2 คนก่อน
ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นคดีอะไรก็แล้วแต่ ขอยืนยันในความบริสุทธิ์ว่าฟิล์มรัฐภูมิ ไม่มีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และมั่นใจในพยานหลักฐานที่ฝั่งตนเองมี
ขณะที่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” กล่าวว่า ตนไม่ได้อยากมาทำอะไรแบบนี้ เพราะตนชอบความสงบ แต่มองว่าขณะนี้มันเกินควรไปแล้ว เนื่องจากมีบางคนมาโจมตีด่าถึงบุพการี ว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน รวมถึงบอกว่าไม่มีครูบาอาจารย์ เป็นคนไม่ดีของสังคม อีกทั้งยังมีการกล่าวหาว่าตนไปพรากผู้เยาว์ ทำให้แฟนคลับของตนเกลียดชังตนกว่าเดิม ตั้งตัวเป็นศาลเตี้ยเป็นผู้มีอำนาจตัดสินความผิดตน ทำให้สังคมคล้อยตาม