รีวิวหนัง "RedLife เรดไลฟ์" เรื่องรักจัดหนัก แต่มุมมืดสังคมกลับเจือจาง
พาเข้ามุมมองความรักของโสเภณี และสังคมของกลุ่มคนชายขอบที่มักไม่ได้รับการเหลียวแล ในภาพยนตร์รัก-ดราม่า "RedLife เรดไลฟ์" ตีแผ่เรื่องราวมากมายของการใช้ชีวิตทั้งวัยสาวสะพรั่ง และหลังจากช่วงวัยกลางคน โดยชูมุมมองของอาชีพขายบริการเข้ามาเสริมเนื้อหาให้กราฟมีขึ้นมีลง ผสมไปกับความรักของเหล่าตัวละครที่เต็มไปด้วยความร้าย และมืดหม่น ทำให้ภาพยนตร์ไทยเรื่องนี้ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าจับตามอง
"RedLife เรดไลฟ์" ว่าด้วยเรื่องราวของ ‘เต๋อ’ โจรกระจอกที่หาเงินด้วยการปล้นเพื่อสร้างชีวิตใหม่กับ ‘มายด์’ สาวขายบริการที่เขาทุ่มเทความรักให้ แต่ยิ่งเต๋อพยายามเพื่อความรักมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบว่าตัวเองกำลังพาชีวิตของเขาและมายด์สั่นคลอนมากขึ้นเท่านั้น ในขณะที่ ‘ส้ม’ ลูกสาวคนเดียวของ 'อ้อย' โสเภณีข้างถนนที่ชีวิตต้องเปลี่ยนไปหลังตกหลุมรัก ‘พีช’ รุ่นพี่ไอดอลสาวผู้ทิ้งเรื่องราวปริศนาไว้ และทำให้ส้มได้รู้ว่าการจะได้รักใครสักคนต้องแลกมาด้วยอะไรหลายอย่างที่เธอคาดไม่ถึง
แม้จะพาดหัวเนื้อหามาด้วยอาชีพ Sex Worker แต่กลับไม่ได้ลงรายละเอียดของอาชีพเสียขนาดนั้น ในมุมมองของการทำงาน แง่ชีวิตประจำวันที่พวกเขาต้องเผชิญ ปัญหาหรือการไม่ถูกยอมรับต่าง ๆ จากคนในสังคม ประเด็นในโครงสร้างนี้เรามองว่าเจือจางเกินไปพอสมควร
ส่วนประเด็นหลักในการตีแผ่อาชีพโสเภณี คงจะเห็นในด้านความรักซะมากกว่า กับความรักของคนทั้งสอง เต๋อ และ มายด์ ในแบบฉบับโลกไม่สวย ระหว่างโจรกระจอก และโสเภณีสาว ความรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรคทางสังคม ทำให้พวกเขาทั้งสองคนต่างความคิดในการใช้ชีวิต จึงเป็นปมความสัมพันธ์ที่เล่าออกมาตลอดทั้งเรื่อง
อีกด้านหนึ่งของ ส้ม เด็กสาววัยรุ่นที่มีแม้เป็นโสเภณีด้วยเช่นเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงการดูแลลูกที่จะทำให้เธอนั้นไม่ต้องมาทำอาชีพแบบแม่ แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมของการทำงานขายบริการ ซึ่งแง่มุมในการเลี้ยงลูกของ อ้อย เหมือนจะบรรยายการใช้ชีวิตมาแล้ว แต่มันกลับไม่มีการขยี้ หรือลงรายละเอียดในเชิงลึกมากเท่าไรนัก ว่าการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว และการทำอาชีพโสเภณีของเธอ ส่งผลให้ส้มเป็นอย่างไรในสายต่อของผู้อื่น
โดย ส้ม เอง เด็กสาวผู้มีแม่ทำอาชีพขายบริการ ยังได้พบกับ พีช รุ่นพี่ที่โรงเรียน จุดประกายปมความสัมพันธ์อีกหนึ่งคู่ ที่ดูแล้วมีความซับซ้อนบ้างเหมือนกัน อาจเป็นเพราะบทของ พีช มีความลึกลับบางอย่าง จึงเพิ่มความฉงนสงสัยได้เป็นอย่างดี ถึงแม้บางฉากของส้มและพีชจะทำให้เกิดความตรงข้ามกับความรู้สึกไปบ้างก็ตาม แต่ก็ถือว่าสะท้อนความหลงใหลได้เป็นอย่างดี
แล้วถ้าหากถามว่าหนังเรื่องนี้สะท้อนสังคมชายขอบออกมาขนาดไหน คงตอบออกมาได้แบบไม่เต็มปาก เพราะการเล่าเนื้อหาของอาชีพโสเภณีจืดชืดไปพอสมควร ไม่ได้ทำให้เราสัมผัสถึงการทำอาชีพขายบริการแบบสมจริงเสียเท่าไร ในขณะเดียวกัน บทโจรกระจอกของเต๋อ ก็มีช่องว่างมาคั่นอยู่เหมือนกัน ทั้งการกระทำของเขาที่บางทีก็ไม่สมเหตุสมผลและไม่เชื่อมโยงกับอารมณ์ในฉากนั้น ๆ เพียงแต่ว่าองค์รวมของการเป็นคนสังคมชายขอบ หรือมุมมืดของสังคมก็สั่งสมกราฟให้เห็นถึงทางเลือกและการกระทำของพวกเขาอยู่ได้ดีพอสมควร
แต่หากตัดมาที่การแสดง และคาแรคเตอร์ของตัวละคร มันค่อนข้างกลมกล่อมในบทบาทที่ต้องการสื่อสาร ในตัวละครหลัก เต๋อ รับบทโดย แบงค์ ธิติ เป็นบุคคลหนึ่งที่น่าชื่นชมในการเก็บรักษาอารมณ์ของตัวละครที่มีความต่อเนื่อง และผกผันในความคิดของตนเอง ซึ่งทำให้เราเห็นว่าถ้าเขามีตัวเลือกที่ดีกว่านี้ ผลลัพธ์อาจไม่ออกมาเป็นแบบนี้
กลับกันในการเป็นโสเภณีวัยสาวของ มายด์ รับบทโดย จ๋อมแจ๋ม กานต์พิชชา คาแรคเตอร์อาจยังไม่ส่งมาถึงเราสักเท่าไร อาจเพราะท่าทางก็ดี การตัดต่อฉากขายบริการก็ดี มันไม่ได้ทำให้เราเห็นว่าเธอเป็นอาชีพโสเภณีเพื่อเลี้ยงชีพอย่างแท้จริงเท่าไรนัก
ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่ยังคงต้องปรบมือให้นักแสดงรุ่นใหญ่ ปู กรองทอง ในบทบาท อ้อย แม่ของส้ม เธอทำให้เราเห็นว่าคนเป็นแม่ สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อลูก และไม่อยากให้ลูกเดินตามเส้นทางที่เหมือนกับเธอ เราได้รับความห่วงใย ความเป็นห่วงมาแบบล้นเปี่ยม ซึ่งลูกสาวของเธอ ส้ม รับบทโดย ซิดนีย์ สุพิชชา นักแสดงน้องใหม่ของวงการ ก็ทำออกมาได้ไม่แย่เช่นกัน
สำหรับงานโปรดักชันของภาพยนตร์เรื่องนี้ มีการคุมโทน แสง สี ในเรื่องออกมาให้อยู่ในอารมณ์เดียวกัน มีความดาร์ค หม่น ให้สมการดิ้นรนในความสัมพันธ์แห่งรัก และการเป็นคนชายขอบที่สังคมไม่เหลียวแล การถ่ายทอดการแสดง และมุมภาพของหนังโดยส่วนใหญ่ ใช้มุม Medium และ Close-up สะส่วนใหญ่ จึงเป็นการเผยอารมณ์ของนักแสดงผ่านสีหน้า และแววตามากที่สุด ใช้มุมย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ เพื่อคงอารมณ์นั้น ๆ ของตัวละคร
ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายการแสดงของพวกเขาไม่น้อย เพราะแม้จะเล่นใหญ่ท่าทางเยอะ แต่หากกล้องจับที่ใบหน้าเป็นแกนหลัก มันคงยากไม่น้อยในการทำให้คนดูเชื่อว่าตัวละครนั้นรู้สึกอย่างไร ซึ่งทีมนักแสดงก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ ยังไม่ทำให้เฉดสีของภาพยนตร์ “RedLife เรดไลฟ์” ลดน้อยลงไปแต่อย่างใด เพราะหากเราหันกลับมาดูในมุมมองเนื้อหาของความรักที่ต้องการจะสื่อสารออกมา มันก็ทำให้เราได้เห็นว่าอาชีพขายบริการ หากจะมีความรักเป็นตัวเป็นตนจะต้องเผชิญกับสิ่งไหน และการลุ่มหลงในคนคนหนึ่งจะลึกซึ้งมากน้อยเพียงใด ความรักที่ต้องแลกมาด้วยหลายสิ่งหลายอย่างยังคงน่าติดตามไม่น้อย พร้อมไปด้วยการส่งผ่านอารมณ์ของทีมนักแสดงยังแจ่มแจ้งไปด้วยความสามารถล้นเปี่ยม แม้ว่าระยะเวลาในการดำเนินเนื้อหาจะยืดเยื้อไปบ้างก็ตาม
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: RedLife เรดไลฟ์
- ประเภท: ดราม่า
- ผู้กำกับ: เอกลักญ กรรณศรณ์
- ให้เสียงพากย์ไทยโดย: ธิติ มหาโยธารักษ์, สุพิชชา สังขจินดา, กานต์พิชชา พงษ์พานิช
- ความยาว: 120 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 2 พฤศจิกายน 2023
Movie.TrueID METRIC: RedLife เรดไลฟ์
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa