จากหนังสยองขวัญ คอเมดี้ ม้ามืดเมื่อปี 2018 ที่สร้างปรากฏการณ์ เป็นอีกหนึ่งหนังไทยที่ทำเงินทะลุร้อยล้านบาทมาได้สำเร็จ แม้กระแสคำวิจารณ์จากนักวิจารณ์และคนดูจะค่อนข้างเสียงแตกก็ตาม แต่ด้วยความที่หนังประสบความสำเร็จนี่เอง ทำให้เรื่องราววุ่น ๆ ของ ตุ๊ด 2 และหนุ่มหล่อ 1 ท่ามกลางอาถรรพ์ของวัดธรรมนาคานิมิตร ยังไม่สิ้นสุดลง จากอาถรรพ์ห้ามบวช มาสู่ อาถรรพ์ห้ามสึก ที่หลอน และเฮี้ยนกว่าเดิมใน "พี่นาค 2"เรื่องราวในภาคนี้จะเล่าต่อจากภาคแรก หลังจากที่ โหน่ง เฟิร์ส และบอลลูน ได้ล้างอาถรรพ์ห้ามบวชของ นาคนนท์ได้สำเร็จ และบวชเป็นเพระตามที่ตั้งใจ แต่ทว่ากิเลสก็ครอบงำ พระเฟิร์ส และพระบอลลูน ให้ทั้งคู่ตัดสินใจแอบสึกกันเอง และหนีออกไปจากวัด แต่ทว่าทั้งคู่ก็ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบ เพราะวิญญาณของนาคตนใหม่ได้ตามหลอกหลอน และจ้องเอาชีวิตทั้งสอง ทำให้ เฟิร์ส และบอลลูน ต้องกลับมาที่วัดเพื่อที่จะบวชแก้คำสาปอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็ได้มี โท มิน จุน ซุปเปอร์สตาร์บอยแบนด์หน้าใหม่มาแรง ได้เข้ามาบวชที่วัดแห่งนี้ตามที่แม่ของเขาบนไว้อีกด้วย เรื่องวุ่น ๆ ครั้งใหม่ในวัดธรรมนาคานิมิตร ก็ได้เริ่มขึ้นเรียกได้ว่าเป็นหนังที่สามารถหาจุดเชื่อม และเล่นกับกิมมิคของเรื่องได้เป็นอย่างดี โดยจากเหตุการณ์ใน พี่นาค 1 มาถึง พี่นาค 2 หนังสามารถดำเนินเรื่องให้คนดูรู้สึกว่ายังเป็นหนังเรื่องเดียวกันได้ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ตัวละครนำชุดเดิม ซึ่งในภาคนี้เราก็ได้เห็นพัฒนาการทั้งการแสดง และบทบาทของพวกเขาที่ชัดเจน รวมถึงการสร้างเล่นกับบรรยากาศของวัดธรรมนาคานิมิตร ที่ส่วนใหญ่เป็นโลเคชั่นเดิม แต่ในภาคนี้กลับให้บรรยากาศที่หลอนยิ่งกว่าภาคแรกพอสมควรหนังมีหลาย ๆ ส่วนที่มีการพัฒนาการที่ขัดเจนหากเทียบกับภาคแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเฮี้ยน ความน่ากลัวของผีอ้ายสน ในเรื่อง ที่นอกจากจะเต็มไปด้วยแรงอาฆาตที่คูณสองจากนาคนนท์แล้ว ความสามารถของตัวละครนี้ก็ยังโหดเหี้ยม และทรงพลังยิ่งกว่า ฉากไฮไลท์ ที่เด็ด และชวนหลอนมาก ๆ คือฉากประชันบทสวดมนต์ระหว่่างเณรน็อต และผีอ้ายสน ที่ทั้งตื่นเต้น ทั้งลุ้น และหลอน ไปในเวลาเดียวกัน อีกด้านที่หนังในภาคนี้ค่อนข้างทำออกมาได้ดีคือพาร์ทดราม่า ที่ในภาคนี้ค่อนข้างหนักแน่นกวาภาคที่แล้วมาก ไม่ว่าจะเป็นดราม่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักจากภาคที่แล้ว ที่ในภาคนี้เราจะได้เห็นตัวละครเหล่านี้มีอารมณ์ มีความรู้สึกยิ่งกว่าเดิม ซึ่งการแสดงที่ขอชื่นชมคือบทของ เอม-วิทวัส ในบท บอลลูน ที่ในภาคนี้นอกจากบทตลก โวยวาย แล้ว เรายังจะได้เห็นบทร้องไห้ ที่บทอารมณ์ที่หนักกว่าภาคแรก ใครที่เคยประทับใจในตัวละครบอลลูนในภาคก่อน จะประทับใจในตัวละครนี้ยิ่งขึ้นไม่มากก็น้อย นอกจากนี้บทผีอ้ายสน ที่แสดงโดย ธามไท แพลงศิลป์ ก็สามารถถ่ายทอดบทผีให้เรารู้สึกกลัว และบทดราม่าที่ทำเอาคนดูสะเทือนใจได้เช่นกันงาน CGI ในเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ดียิ่งขึ้นกว่าภาคแรกไม่น้อย หนังยังสามารถสร้างสรรค์ฉากพญานาค ออกมาได้อลังการ ตระการตา ในขณะที่ฉากโชว์พลังความเฮี้ยนของอ้ายสน ก็ทำออกมาได้น่ากลัว และสมจริง เรียกได้ว่าในฐานะหนังไทย พี่นาค 2 ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่มี CGI ชั้นดีที่สุดเรื่องหนึ่งก็ว่าได้แต่ถึงกระนั้น พี่นาค 2 ก็ยังมีจุดด้อยที่เป็นปัญหาของหนังคอเมดี้ ที่ว่าด้วยเพศที่ 3 ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นมุกตลกที่พยายามเล่นกับเรือนร่างของผู้ชาย และฉากมุกตลกโวยวายในช่วงต้นเรื่อง ที่ทำให้หนังดูชุลมุน วุ่นวาย จนออกจะน่ารำคาณในหลาย ๆ ช่วง นอกจากนี้ยังมีฉากที่เล่นกับพฤติกรรมชวนล่อแหลมของ พระ และเณร ที่ต้องวิ่งหนีผี บางฉากหนังก็สามารถทำให้เราขำได้ แต่หลาย ๆ ฉากก็ออกมาคริเช่ ขาดความแปลกใหม่ และไม่สามารถทำให้เราเอนจอยไปกับมุกนั้น ๆ ได้แม้แต่น้อยนอกจากมุกตลกที่ไม่ตลกแล้ว อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ ๆ ของหนังเรื่องนี้ คือการใส่ตัวละครที่เยอะ จนเกินจำเป็น โดยจากเดิมที่สมาชิกในวัดมีเพียงประมาณ 5-6 คน (รวม 3 ตัวเอกของเรื่อง) แต่ภาคนี้หนังได้เพิ่มตัวละครใหม่ ทั้งเณร ทั้งเด็กวัด ทำให้ในภาคนี้มีตัวละครที่้เป็นสมาชิกในวัดร่วมเกือบ ๆ 10 คน แต่กระนั้น หนังกลับใช้งานตัวละคชุดใหม่ออกมาได้ไม่คุ้มค่า ด้วยมิติตัวที่ขาดที่มาที่ไป และไร้ซึ่งมิติ นอกจากหน้าที่ในการร่วมเผชิญชะตากรรมความสยองแล้ว ตัวละครหน้าใหม่เหล่านี้ก็ไม่มีสิ่งใดให้น่าจดจำแม้แต่น้อย โดยรวม พี่นาค 2 ถือว่าเป็นหนังภาคต่อของไทย ที่ถือว่าทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งเลย หนังสามารถเชื่อมเรื่องราวจากภาคแรก และภาคสองออกมาได้ลงตัว หนังมีพัฒนาการที่เห็นได้ชัดในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านความบันเทิงที่ทำออกมาได้คูณสอง ใครที่เคนชื่นชอบภาคแรก อาจประทับใจในภาคนี้มากกว่า แต่สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูภาคแรก แต่อยากข้ามมาดูภาคนี้ก่อน ก็สามารถดูได้รู้เรื่อง แต่อาจมีเนื้อหาบางส่วน หรือบางมุกที่ดูแล้วไม่เก็ตไปกับหนัง ขอขอบคุณรูปภาพจาก : ตัวอย่าง พี่นาค2 https://www.youtube.com/watch?v=aQ0yCPKK7kU&t=7sจัดจำหน่ายโดย : Five Star Production