ดื่มด่ำไปเสียงเพลงและความรักของหนุ่มสาวใน Soundtrack #1 ซีรีส์มิวสิคัลโรแมนติกความยาว 4 ตอนจบ การโคจรมาพบกันของพระนางดาวรุ่ง พัคฮยองชิก และ ฮันโซฮี เรื่องราวความสัมพันธ์ของเพื่อนซี้ที่แน่นแฟ้นยาวนานกว่า 19 ปี แต่วันดีคืนดีความใกล้ชิดกลับทำให้มิตรภาพเริ่มพัฒนาเป็นความรัก เส้นทางครั้งนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปติดตามได้จากรีวิวฉบับนี้Soundtrack #1 คุมบังเหียนการผลิตโดย ผู้กำกับคิมฮีวอน หญิงเก่งที่หลายคนรู้จักกันดีจากซีรีส์ The Crowned Clown (2019) และ Vincenzo (2021) แตกกรอบจากละครเข้มข้นมาทำงานร่วมกับ นักเขียนบทอันแซบม ผนึกกำลังกันถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์ของเพื่อนต่างเพศที่เดินทางมาถึงจุดก้ำกึ่งกำกวมระหว่างมิตรภาพและความรัก บอกเล่าผ่านท่วงทำนองแสนไพเราะของบทเพลงที่ร้อยเรียงคลุกเคล้าสร้างบรรยากาศความโรแมนติกได้อย่างน่าสนใจhttps://www.instagram.com/p/CaoovObJJxG/?utm_medium=copy_linkเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อนักแต่งเพลงสาวสวยอย่าง อีอึนซู (รับบทโดย ฮันโซฮี) ถูกปฏิเสธงานอย่างคาดไม่ถึง เนื่องจากโปรดิวเซอร์ให้เหตุผลว่าเนื้อเพลงแอบรักข้างเดียวที่เธอเขียนขึ้นนั้นดูโลกสวยและขาดความสมจริง นั่นเป็นเพราะอีอึนซูเป็นคนเปิดเผยและคิดอยู่เสมอว่าหากรู้สึกชอบใครจะพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เธอไม่เคยผ่านประสบการณ์รักข้างเดียวมาก่อนในชีวิตเมื่อได้โอกาสสร้างสรรค์งานเพลงเป็นครั้งที่สอง อีอึนซูตัดสินใจขอความช่วยเหลือจาก ฮันซอนอู (รับบทโดย พัคฮยองชิก) ช่างภาพหนุ่มดาวเด่นซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทชิดเชื้อกันมายาวนานกว่า 19 ปี อีอึนซูขอร้องให้ฮันซอนอูย้ายมาอยู่อาศัยใต้ชายคาเดียวกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ตลอดการเขียนเพลง ดูเหมือนว่าความใกล้ชิดในครั้งนี้จะทำให้ความรู้สึกของทั้งคู่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป มิตรภาพครึ่งค่อนชีวิตเริ่มจางลงและมีความรักเข้ามาแทนที่ น่าติดตามว่าพวกเขาจะรับมือกับเหตุการณ์ครั้งนี้ได้อย่างไรhttps://www.instagram.com/p/CarT-oZpxpa/?utm_medium=copy_linkSoundtrack #1 เป็นซีรีส์ที่เป็นกระแสตั้งแต่ประกาศชื่อนักแสดงนำ ฮันโซฮีที่กำลังเปล่งประกายจากผลงานหลากหลายรูปแบบที่ออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงสามปีที่ผ่านมา ในขณะที่พัคฮยองชิกหวนคืนสู่วงการหลังออกจากกรมและได้รับความสนใจทันทีจากซีรีส์ Happiness (2021) ดังนั้นหากจะพูดว่าความน่าสนใจจะเทไปอยู่ที่คู่พระนางก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เมื่อได้ดูตอนแรกที่ออกอากาศผ่านไปกลับทำให้ความคิดที่ว่าเรื่องนี้ขายความดังของนักแสดงเปลี่ยนไปทันที เมื่อพบกับเนื้อเรื่องที่ถึงแม้ไม่โลดโผนยิ่งใหญ่แต่กินใจเข้าไปอย่างเต็มคำhttps://www.instagram.com/p/Cas_OhdBfil/?utm_medium=copy_linkหลายคนมองว่าการแอบชอบเพื่อนสนิทไม่ต่างจากการขับรถด้วยความเร็วสูงบนถนนที่ลื่นและคดเคี้ยวซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้เสมอ เช่นเดียวกับอีอึนซูที่หมายมั่นว่าจะไม่คบหาฮันซอนอูเป็นแฟนโดยเด็ดขาด เพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด จึงไม่อยากเสียเพื่อนไปเฉกเช่นคู่รักที่วันหนึ่งต้องเดินทางไปถึงการเลิกรา ในขณะที่ฮันซอนอูกลับเป็นฝ่ายแอบรักอีอึนซูมาตลอดชีวิตแต่ไม่มีสิทธิ์สารภาพออกไปตามตรง ความสัมพันธ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้จึงเป็นเรื่องยากที่แม้กระทั่งพี่อ้อยพี่ฉอดเองคงไม่สามารถให้คำแนะนำได้https://www.instagram.com/p/CYa3Bj2JsyP/?utm_medium=copy_linkซีรีส์หยิบเอาความกระอักกระอ่วนของเพื่อนต่างเพศมาเล่าได้อย่างไม่น่าอึดอัด ซ้ำยังดึงความสนใจของผู้ชมให้ตรึงอยู่กับความรู้สึกของคู่พระนางผ่านบทเพลงที่เปิดคลอไปตลอดทั้งตอน ส่งเสริมบทสนทนาระหว่างตัวละครให้มีชีวิตชีวามากขึ้นแม้เราจะไม่รู้ความหมายแต่สัมผัสได้ถึงความงดงามของท่วงทำนอง รวมทั้งงานภาพโทนอบอุ่นสบายตายิ่งเพิ่มอรรถรสให้การดำเนินเรื่องมีสีสันมากขึ้น แม้พล็อตตั้งต้นจะไม่ได้แข็งแรงจนเป็นตัวชูโรงความน่าดูมากนัก แต่การเล่าเรื่องเฟรนด์โซนที่เริ่มวูบวาบเพราะความใกล้ชิดกลับท้าทายและกลายเป็นหมัดเด็ดไปโดยปริยายhttps://www.instagram.com/p/CbbMDNcvHId/?utm_medium=copy_linkอีกหนึ่งความดีงามที่ขับพลังงานความรักให้เต็มอิ่มขึ้นไปอีกขั้นคือเคมีของคู่พระนาง ปฏิเสธไม่ได้ว่าบุคลิกของตัวละครออกแบบได้อย่างมีเสน่ห์ พัคฮยองชิกซึ่งโดยปกติมีมาดหนุ่มอบอุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อสวมบทฮันซอนอูที่เป็นคนพูดน้อยแต่แสดงออกผ่านการกระทำและแววตาอย่างชายผู้ห่วงใยจึงสอบผ่านฉลุย ในขณะที่บทบาทอีอึนซูแม้จะดูเป็นทางถนัดของฮันโซฮี แต่ความเข้าขากันดีจึงทำให้เราเชื่ออย่างสนิทใจว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนานจนกระทั่งอดลุ้นตามไม่ได้ว่าท้ายที่สุดแล้วความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะลงเอยกันในทิศทางใด(Youtube: XANADU_ENT_OFFICIAL)Soundtrack #1 ความยาวเพียง 4 ตอน ตอนละประมาณ 40 นาที ด้วยพล็อตเรื่องที่ไม่ได้พิเศษใส่ไข่แต่เชื่อว่าน่าจะดำเนินเรื่องไปอย่างรวดเร็วและให้น้ำหนักไปกับพัฒนาการความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ เติบโต ข้อดีคือผู้ชมเองคงไม่ต้องรำคาญกับความลำไยอืดอาดสไตล์ซีรีส์แนวนี้ แต่ข้อเสียคงเป็นจำนวนตอนที่สั้นเกินไปโดยเฉพาะคอละครโรแมนติกน่าจะมีเสียดายกันอยู่ไม่น้อย ภาพรวมจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรค่าแก่การรับชมและไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงรูปภาพประกอบบทความจาก Official Instagram: @xanadu_ent_official / @phs1116 / @xeesoxeeภาพหน้าปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5บทความแนะนำจากผู้เขียน- รีวิว Crazy Love (2022) ซีรีส์รักฉบับบ้าคลั่ง คริสตัล x คิมแจอุค ตีกันไม่ยั้งตั้งแต่อีพีแรก- รีวิว The King Of Pigs ซีรีส์ทริลเลอร์จาก คิมดงอุค ฆาตกรสุดดาร์กออกล้างแค้นที่เคยถูกบูลลี่- รีวิว Twenty Five Twenty One ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด ซีรีส์วัยรุ่นของ นัมจูฮยอก x คิมแทรี เรื่องรักและความฝันที่ผันแปรตามยุคสมัยอัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ,ฟรี