รีเซต

"Parasite" สู่ออสการ์ ผลแห่งความสำเร็จจากยุทธศาสตร์ "ผลักดัน" ของเกาหลีใต้

"Parasite" สู่ออสการ์ ผลแห่งความสำเร็จจากยุทธศาสตร์ "ผลักดัน" ของเกาหลีใต้
Jeaneration
10 กุมภาพันธ์ 2563 ( 19:00 )
1.5K
2

ข่าวสารวงการหนัง Parasite ออสการ์ 2020

วินาทีที่ "Parasite" ถูกประกาศชื่อบนเวทีรางวัลออสการ์ 2020 ว่าเป็น ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม หรือ Best Picture ยอมรับว่ารู้สึกตื้นตั้นอย่างแปลกประหลาด ขนลุกซู่ และหัวใจเต้นแรงขึ้นจากเดิม อาจเป็นเพราะเลือดความเป็นเอเชียพุ่งพล่าน เราต่างอยากจะเห็นอะไรที่มีความเป็นเอเชีย ข้ามไปประสบความสำเร็จในโลกตะวันตกอยู่เสมอๆ และนี่ก็เป็นอีกครั้ง...ที่คนเอเชียทำได้

ชนชั้นปรสิต หรือ Parasite ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 92 ทั้งหมด 6 สาขา แต่พวกเขาคว้ากลับบ้านมาได้ถึง 4 รางวัล เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์แล้ว หนังเรื่องนี้เป็นหนังจากเกาหลีใต้เรื่องแรก ที่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 5 เรื่อง ในสาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม (หรือชื่อเดิม ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม) และได้รับตั๋วไปนั่งลุ้นรางวัลในดอลบี เธียเตอร์

แต่ความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ นับตั้งแต่จุดเริ่มต้น จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ มาสู่รางวัลออสการ์ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นต่างได้รับการผลักดันของภาครัฐและเอกชนของเกาหลีใต้ด้วย อันที่จริง Parasite อาจจะยังไม่ใช่หนังปีนี้ที่ดีสุดในโลก แต่ทำไมถึงได้รับโอกาสและการต้อนรับจากชาวตะวันตก และยังรับรางวัลข้ามหน้าข้ามตาพวกเขาอีกต่างหาก เพราะทุกอย่างเกิดจากการแรงสนับสนุนที่ดี

Documentary Club (@DocClubTH) ได้โพสต์ถึงประเด็นนี้อย่างหน้าขบคิดว่า รางวัลออสการ์ไม่ใช่เวทีของโลก แต่เป็นรางวัลที่ดังระดับโลกมากกว่า เพราะออสการ์ก็คือรางวัลสำหรับหนังอเมริกันเป็นหลัก และเป็นรางวัลเก่าแก่ที่จัดมายาวนาน กระทั่งได้การยอมรับอันทรงเกียรติ ทำให้การจะฝ่าด่านไปสู่เวทีนี้ได้ ต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ และเกี่ยวข้องกับธุรกิจอย่างแน่นอน

ตลาดหนังอเมริกา อาจจะได้ชื่อว่าเป็นผู้นำของโลกภาพยนตร์ แต่ก็ยังมีตลาดหนังชาติอื่นๆ เป็นของตัวเองด้วย เพียงแต่ว่าในมุมมองภาคธุรกิจนั้น อาจจะสู้ความเป็นอเมริกันและเงินทุนหนาๆ ที่เบิกทางสร้างกระแสให้กับหนังแต่ละเรื่องเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกไม่ได้ ทำให้ยังมีหนังดีๆ อีกหลายเรื่องที่ไม่เป็นที่กล่าวถึงบนโลกใบนี้ หรือบางเรื่องก็ดีกว่าหนังที่ได้รางวัลออสการ์ด้วยซ้ำ

คนอเมริกันที่ได้ชื่อว่า "เกลียดหนังมีซับไตเติล" เป็นอุปสรรคหลักที่ทำให้หนังภาษาอื่นๆ มักจะไม่ประสบความสำเร็จเป็นวงกว้างได้ แต่การมาของ Parasite ถือว่ามาได้อย่างถูกจังหวะ และถูกใจสังคมอเมริกันยิ่งนัก แม้ว่าเรื่องราวของหนังจะเป็นการเล่าเรื่องที่มีประเด็นและวัฒนธรรมของชาวเอเชียอยู่ตลอดทั้งเรื่อง แต่ประเด็นความเหลื่อมล้ำทางสังคมก็เหมือนเป็นภาษาสากลที่สื่อสารเข้าถึงกันได้

ขณะที่ผู้กำกับ "บงจุนโฮ" ก็ถือเป็นชาวเกาหลีที่มีวิสัยทัศน์ที่น่าทึ่ง เขาไม่ใช่ผู้กำกับหน้าใหม่แต่อย่างใด เขาสั่งสมประสบการณ์และทำหนังออกมาหลายสิบเรื่อง มากว่า 2 ทศวรรษที่อยู่ในวงการนี้ เขาเพิ่งจะเริ่มหันเหได้รับความสนใจจากนานาชาติเมื่อ 10 ปีก่อน หลังจากที่หนัง "Mother" ได้ไปเทศกาลหนังต่างๆ ทั่วโลก หนังทุกเรื่องของเขาได้รับรางวัลจากสมาคมหนังวิจารณ์เกาหลีใต้

"Snowpiercer" กลายเป็นหนังที่สร้างชื่อให้กับเขาในฐานะผู้กำกับเอเชียที่น่าจับตามอง เพราะได้ทำหนังที่ค่อนข้างอยู่ในสายตาตลาด ประกอบกับได้นักแสดงฮอลลิวูดมีชื่อเสียงมาร่วมงาน ต่อมา "Okja" ก็คือหนังเกาหลีที่มีการเล่าเรื่องแบบสากล ที่ทำให้เขากลายเป็นผู้กำกับเอเชียแถวหน้า ด้วยการคว้ารางวัลใหญ่จากเมืองคานส์ และนำมาสู่ผลงานถัดมาก็คือ Parasite ที่ทำให้เขาได้รางวัลออสการ์ในวันนี้

แต่เพียงแค่ บงจุนโฮ เพียงลำพังคงจะไม่มีโอกาสได้ไปไกลระดับนี้แน่ๆ แต่การที่ชนชั้นปรสติได้รับรางวัลระดับโลกในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจาก "ยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านวัฒนธรรม" ของเกาหลีใต้ ที่พวกเขาดำเนินการและปลุกปั้นมายาวนานกว่า 20 ปีแล้ว และวันนี้ได้เห็นถึงผลสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง

ยุทธศาสตร์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในผลัดดันของรัฐบาลเกาหลีใต้ ที่หวังจะใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพัฒนาศักยภาพตัวเองไปสู่ระดับสากล และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จเรื่อยมา โดยเฉพาะในตลาดเอเชียด้วยกัน ซีรีส์เกาหลีดังระเบิดไปทั่วภูมิภาค นักร้องไอดอลเป็นที่นิยมไปทั่วทวีป พวกเขาขยายเป้าหมายออกไปในทุกๆ ปี และตลาดโลกตะวันตกคือสิ่งที่พวกเขาใฝ่ฝันที่จะไปให้ถึง

หากลองสังเกตดูให้ดีๆ ในระยะ 2-3 ปีมานี้ เกาหลีใต้ยังคงรุกตลาดโลกด้วยยุทธศาสตร์ของพวกเขา ก่อนหน้านี้เราได้เห็นหนุ่มๆ บอยแบนด์วง "บีทีเอส" ข้ามไปโด่งดังในฝั่งอเมริกา เรียกได้ว่าเปรี้ยงปร้างก่อนทางฝั่งเอเชียเสียอีก กระทั่งมาถึงความท้าทายของ Parasite ที่เกิดจากการลงทุนลงแรงจากหลายๆ ฝ่าย และสามารถเข้าตีตลาดอเมริกาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

Parasite คงเป็นกรณีตัวอย่างของหนังจากหลายชาติทั่วโลก ความสำเร็จในวันนี้ของพวกเขาไม่ได้สร้างขึ้นแค่ในวันเดียว ยุทธศาสตร์ที่แข็งแรงขึ้นจากการสั่งสมมากว่า 20 ปี เมื่อองค์ประกอบต่างๆ ลงตัว ร่วมงานกับคนที่มีวิสัยทัศน์ และตีโจทย์ได้แตก หนังของ บงจุนโฮ เรื่องนี้ก็กลายเป็นหนังที่เล่าเรื่องเป็นสากล ภายใต้ภาพความเป็นเอเชียได้อย่างลงตัว แม้แต่หนังฝรั่งเรื่องอื่น...ก็ยังต้องหลีกทางให้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ออสการ์ 2020 ครั้งที่ 92 ผลผู้ชนะ "Parasite" คว้าชัยรางวัลใหญ่ยอดเยี่ยมแห่งปี

[Review] Parasite - ชนชั้นปรสิต เรื่องตลกร้ายของความเหลื่อมล้ำทางสังคม

คุยกับ บงจุนโฮ บิดาแห่งหนังเกาหลียุคใหม่ ผู้กำกับ PARASITE ชนชั้นปรสิต

----------------------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<