หากคุณเป็นคอหนังสายลุ้นระทึก ที่ชอบนั่งจิกเบาะ ลุ้นจนเหงื่อออกมือ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงกับภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่องล่าสุด “iHostage : จับตัวประกันสนั่นเมือง” ที่ตอนนี้พร้อมให้รับชมแล้วบน Netflix เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังแอคชั่นธรรมดา แต่มันคือประสบการณ์ที่คุณจะไม่ลืม เพราะตั้งแต่วินาทีแรกที่หนังเริ่มต้น จนถึงฉากสุดท้าย คุณจะรู้สึกเหมือนตัวเองตกอยู่ในเหตุการณ์จริงแบบไม่ได้นั่งอยู่บนโซฟา แต่ราวกับเป็นอีกหนึ่งคนที่อยู่ใน Apple Store ใจกลางอัมสเตอร์ดัม ณ. วันเกิดเหตุ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เค้าโครงจากเหตุการณ์จริง ที่ถูกถ่ายทอดอย่างสมจริงทุกอณู “iHostage” ดัดแปลงจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปี 2022 เมื่อมีคนร้ายพร้อมอาวุธและระเบิด บุกเข้าจับตัวประกันภายในร้าน Apple ใจกลางกรุงอัมสเตอร์ดัม โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ไม่มีแรงจูงใจที่ฟังขึ้น มีเพียงความคลั่ง และความต้องการที่เหนือคาดเดา อีเลียน (รับบทโดย "ลูอิส ทัลเป") คือชายหนุ่มธรรมดาที่แค่ตั้งใจจะเข้าไปซื้อหูฟัง AirPods แต่กลับกลายเป็นตัวประกันหลักในเหตุการณ์สุดระทึกนี้ โดยที่ในร้านยังมีพนักงานและลูกค้าคนอื่นๆ อีกกว่า 40 คน หนีไปหลบซ่อนอยู่บนชั้น 2 ท่ามกลางการเจรจาแบบแข่งกับเวลา และภารกิจเสี่ยงตายของทีม DSI และหน่วยกู้ระเบิด เพื่อช่วยชีวิตคนบริสุทธิ์ทุกคนให้ปลอดภัย เมื่อเรื่องราวเส้นตรง กลายเป็นความเข้มข้นระดับท็อปคลาส แม้ “iHostage” จะเล่าเรื่องแบบเส้นตรง ไม่ซับซ้อน ไม่มีแฟลชแบค ไม่มีปริศนาวกวน แต่สิ่งที่หนังทำได้อย่างยอดเยี่ยมคือ “การจัดจังหวะอารมณ์” ที่พอดิบพอดี จนคุณไม่มีโอกาสละสายตา ตั้งแต่ฉากเปิดตัวที่ อีเลียน เดินเข้าร้าน Apple เป็นฉากเรียบง่ายที่เป็นเรื่องปกติธรรมดา และแล้วหนังก็พลิกผัน มี Story ต่างๆ เข้ามา โดยที่กำกับโดย "บ็อบบี้ บูเออร์แมนส์" จะพาเราเข้าไปอยู่ในใจกลางสถานการณ์แบบแนบสนิท การเคลื่อนไหวของกล้อง ชวนให้รู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง ภาพสวย มุมกล้องเฉียบคม ไม่หวือหวาแต่โคตรหนักแน่น อย่างไร้ที่ติ ทุกเฟรมมีความหมาย และทุกตัวละครมีหน้าที่ของตัวเองอย่างชัดเจน เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้ ความสมจริงแบบ "สารคดีแต่โคตรระทึก" ไม่มีตัวร้ายเว่อร์ ไม่มีซูเปอร์ฮีโร่ มีแต่คนธรรมดา กับสถานการณ์ที่เหนือการควบคุม ทุกการตัดสินใจส่งผลต่อชีวิตคน ได้เรียนรู้การทำงานของหน่วยต่างๆ หนังไม่ได้ขายแอคชั่นเพียวๆ แต่พาเราเข้าใจว่าหน่วย DSI, ทีมเจรจา, หน่วยกู้ระเบิด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำงานอย่างไรในเหตุวิกฤติแบบนี้ มีการประสานงาน การใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ การเจรจาที่ยืดเยื้อเพื่อยื้อชีวิตคนให้ได้มากที่สุด บทภาพยนตร์ที่ให้ความสำคัญกับ "คน" มากกว่า "ฮีโร่" ไม่มีใครเด่นเกินใคร ทุกคนมีบทบาทของตัวเอง นักแสดงทุกคนเล่นได้สมจริง อารมณ์ของแต่ละฉากส่งตรงถึงหัวใจ โดยเฉพาะช่วงที่ติดต่อกับพนักงานในห้องเก็บของ เพื่อให้เขาเขียนแผนที่อาคาร – มันคือความหวังเล็กๆ ที่กลายเป็นหมากตัวสำคัญของภารกิจ อารมณ์ของ “ครอบครัว” และ “ชีวิต” ที่ใส่เข้ามาอย่างลงตัว หนังไม่ได้เล่าแค่เรื่องตัวประกันและคนร้าย แต่ยังสะท้อนให้เห็นว่าแต่ละชีวิตมีคนที่รักรออยู่ที่บ้าน ทุกการกระทำคือเดิมพันด้วยหัวใจของคนรอบข้าง คุณจะลุกไม่ขึ้นจากเก้าอี้แน่นอน! ตั้งแต่นาทีแรกที่คนร้ายชักปืน ทุกอย่างจะเกิดขึ้นแบบ real time ไม่มีจังหวะให้หายใจ ทุกนาทีมีค่า ทุกลมหายใจมีผลต่อการตัดสินใจ และคุณจะเผลอเอาใจช่วยโดยไม่รู้ตัว บทสรุป – “iHostage” ไม่ใช่แค่หนังจับตัวประกัน แต่มันคือบทเรียนแห่งชีวิตและความเป็นมนุษย์ หนังเรื่องนี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว แต่ยังเปิดมุมมองใหม่ให้เราเห็นถึงความกล้าหาญ การเสียสละ ความรอบคอบของเจ้าหน้าที่ในเหตุวิกฤติ และการตัดสินใจของคนธรรมดาท่ามกลางความกลัว หากคุณกำลังมองหาหนังที่ไม่ยืดเยื้อ ไม่น้ำเน่า แต่ทรงพลังในทุกด้าน ตั้งแต่การแสดง กำกับ บท และสารที่ส่งถึงหัวใจ “iHostage” คือคำตอบ ดูเถอะ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมเรื่องนี้ถึง “ต้องดู” และ “ห้ามพลาด” รูปภาพที่ 1,2,3,4,5 นำมาจาก Ig ของ soufianemoussouli รูปภาพหน้าปก นำมาจาก Ig ของ soufianemoussouli เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !