รีวิวหนัง "La Dolce Villa วิลล่าแห่งรัก" บทรักเฉิ่มแห่งอิตาลีกับกลิ่นหนังรักแห่งยุคมิลเลนเนียม

เพราะเดินทางมาถึงช่วงเวลาที่อบอวลไปด้วยมนตราแห่งความรักอันแสนฟุ้งเฟ้อที่สุดในรอบปี สตรีมมิงแต่ละเจ้าก็ต่างพากันงัดเอาคอนเทนท์รัก ๆ ใคร่ ๆ ของพวกเขาออกมาแข่งกันสุดฤทธิ์ และปีนี้ก็เป็นคิวของหนังรักที่สัมผัสได้ถึงความเห่ยตั้งแต่ใบปิด อย่าง "La Dolce Villa วิลล่าแห่งรัก" หนังโรแมนติกคอมเมดี้ที่มีฉากหลังเป็นชนบทของอิตาลี ที่ให้อารมณ์ราวกับหนังรักทางช่องเคเบิ้ลทีวีสุดคลาสสิกที่ไม่เคยจางหายจากแคทตาล็อกหนังเฉิ่มเลย

เรื่องราวของนักธุรกิจหนุ่มได้เดินทางท่องเที่ยวไปอิตาลี หลังจากที่ภรรยาของเขาเสียชีวิตไป และห่างเหินจากลูกสาวไปคนละทาง บัดนี้ลูกสาวของเขาหลงรักและหลงใหลความเป็นอิตาเลียนในชนบท ก่อนจะตัดสินใจร่วมโครงการซื้อบ้านราคาหลังละ 1 ยูโร แม้ว่าจะค้านหัวชนฝา แต่สุดท้ายเขาก็จำใจต้องช่วยลูกในการเนรมิตบ้านหลังเก่าให้กลายเป็นวิลล่าน่าอยู่ พร้อมกับการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันทีละเรื่อย ๆ กับนายกเทศมนตรีสาวประจำเมือง

เพราะว่าหนังเรื่องนี้ได้ปรมาจารย์นักสร้างหนังรักระดับตำนาน อย่าง "มาร์ค วอเตอร์ส" ที่ถือว่าเป็นผู้กำกับหนังรักที่ปังสุด ๆ ในช่วงยุคปี 2000s ไม่ว่าจะเป็น Mean Girls, Freaky Friday, Just Like Heaven หรือ Ghost of Girldriends Past แต่ทว่าหลังจากที่หนังฉายโรงทำให้เขาเจ็บปวดและเสียเครดิตไปพอสมควร หนังสตรีมมิงจึงกลายเป็นที่พักใจในปัจจุบันของเขา ที่เขาได้มีโอกาสละเลงสร้างหนังแนวถนัดของตัวเองออกมาเสิร์ฟในทุก ๆ ปี และวันวาเลนไทน์ปีนี้ก็มากับผลงานชิ่นนี้

แน่นอนว่าสามารถไว้วางใจในฝีมือการสร้างหนังรักของมาร์คได้เลย เพราะเขารู้ดีว่าอะไรควรใส่ตรงไหน ทำอะไร และจังหวะไหนที่เหมาะเจาะ แม้ว่าพล็อตหนังจะค่อนข้างเชยสะบัด ไม่ต่างกับบทหนังรักเก่า ๆ ตั้งแต่ยุค 90s ที่ยังพอใช้การได้กับคอนเทนท์หนังรักเฉิ่ม ๆ ทางช่อง Hallmark อะไรทำนองนั้น เพราะว่าได้ 2 สาวมือเขียนบทหนังรักเพ้อฝัน อย่าง "อลิซาเบธ แฮกเก็ตต์" กับ "ฮิลารี กาลานอย" มาช่วยกันปั้นเรื่องราวออกมา แน่นอนว่ามันเชยจัด ๆ แต่ก็เป็นงานที่ย่อยง่าย เสพง่าย เป็นคอนเทนท์ฆ่าเวลาได้ดี

งานโปรดักชันของ La Dolce Villa อาจจะไม่ได้โดดเด่นอะไร เพราะหนังมีฉากหลังเป็นชนบทของอิตาลี แต่ส่วนใหญ่หนังถ่ายทำในโรงถ่ายเสียมากกว่า เซ็ตสร้างฉากออกมาควบคู่กับการแสดงแบบละครทีวีฝั่งอเมริกัน เป็นงานสร้างที่มักจะเห็นบ่อย ๆ ในหนังรอมคอมทำนองนี้อยู่แล้ว ขณะที่มุมภาพและมุมกล้องจะสะท้อนความเป็นอิตาเลียนได้พอสมควร เพียงแค่ย้อมเหลืองเบา ๆ ก็สื่อได้ถึงอิตาลีได้แล้วในระดับหนึ่ง ถึงมันจะยังดูปลอมบ้างก็เถอะ

ทีมนักแสดงใน La Dolce Villa ก็ยิ่งตอกย้ำว่าเป็นหนังรักเฉิ่มสุด ๆ เพราะพวกเขาใช้บริการนักแสดงเกรดรองที่มักจะมีผลงานมากมายตามช่องเคเบิ่ลทีวี นำโดย "สก็อต โฟลีย์" ตัวพ่อหนังรักเชย ๆ มาคู่กับ "ไวโอแลนเต้ พลาซิโด" ร่วมด้วย "เมียอา เรฟิคโค", "ซิโมน ลูกิโล" และ "ทอมมาโซ บาซิลิ" พวกเขาถือว่าทำการแสดงได้ตามมาตรฐานหนังรักทำนองนี้ ไม่มีอะไรที่หวือหวาโดดเด่น ร้อยเรียงตามสูตรไปเรื่อย ๆ แบบที่ควรพึงมีอยู่ในหนังเรื่องนี้

โดยสรุปแล้ว La Dolce Villa วิลล่าแห่งรัก เป็นแค่เพียงหนังรักแบบเฉิ่ม ๆ เชย ๆ ที่ไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างและน่าสนใจอะไรเท่านั้น มันคือหนังรักซ้ำซากที่พอเปิดดูฆ่าเวลาได้ดี ได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของอิตาลีที่งดงาม แม้ว่าจะมีทั้งของจริงและของปลอมปะปนกันไปก็ตาม นับว่าเป็นหนังรักที่ตอบโจทย์ความเป็นหนังรักได้ดี พล็อตก็ค่อนข้างเชยสุด ๆ และก็ได้อรรถรสแห่งความรักแบบตรงตามความต้องการของคนดูเช่นกัน

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง La Dolce Villa วิลล่าแห่งรัก

• ประเภท: ตลก / โรแมนติก
• ผู้กำกับ: มาร์ค วอเตอร์ส
• นำแสดงโดย: สก็อต โฟลีย์, ไวโอแลนเต้ พลาซิโด, เมียอา เรฟิคโค, ซิโมน ลูกิโล
• ความยาว: 97 นาที
• กำหนดฉายในไทย: 13 กุมภาพันธ์ 2025 (ที่ Netflix)

Movie.TrueID METRIC: La Dolce Villa วิลล่าแห่งรัก

• ภาพรวม
  ⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5.0/10)
• การเล่าเรื่อง
  ⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (ุ5.1/10)
• การแสดง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (5.8/10)
• เทคนิคงานสร้าง
  ⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5.3/10)
• บทภาพยนตร์
  ⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰✰ (4.0/10)