เปิดฟีดแบกชุดแรก "Killers of the Flower Moon" จากเมืองคานส์ อีกงานมาสเตอร์พีซของสกอร์เซซี
‘Killers of the Flower Moon’ ภาพยนตร์สุดยิ่งใหญ่ทุนสร้างมหาศาลล่าสุดของผู้กำกับระดับขึ้นหิ้งอย่าง มาร์ติน สกอร์เซซี (Martin Scorsese) ได้รับการฉายรอบพรีเมียร์ไปแล้วที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (Cannes Film Festival) ซึ่งสื่อต่าง ๆ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น (แบบไม่มีสปอยล์) ต่อผลงานระดับสุดยอดเรื่องนี้
‘Killers of the Flower Moon’ เป็นภาพยนตร์แนวตะวันตกระดับมหากาพย์ (Epic Western) ที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริงของการสังหารหมู่ชนพื้นเมืองครั้งใหญ่ในโอคลาโฮมายุค 1920s ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจน้ำมัน ซึ่งนอกจากจะได้ร่วมงานกับ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio) เป็นครั้งที่ 6 แล้วนั้น ก็ยังเป็นการกลับมาร่วมงานกับ โรเบิร์ต เดอ นีโร (Robert De Niro) ที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่ ‘Mean Streets’ เมื่อปี 1973 อีกครั้งด้วย
Ema Sasic
‘Killers of the Flower Moon’ เป็นเรื่องราวที่แสนจะรันทดและนำขึ้นจอได้ยากมาก แต่คุณจะทึ่งกับความเขี่ยวชาญในการนำเสนอ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, ลิลี่ แกลดสโตน และโรเบิร์ต เดอ นีโร แสดงได้อย่างเหลือเชื่อในผลงานระดับสุดยอดของ มาร์ติน สกอร์เซซี
Yasmine Kandil
‘Killers of the Flower Moon’ มีความพิเศษและตราตรึงผู้ชมได้ในทุกนาที นี่เป็นการดัดแปลงเรื่องราวที่ซับซ้อนเกี่ยวกับการคุกคามชาวอินเดียนชนเผ่า Osage ออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา ลิลี่ แกลดสโตน คือหัวใจของภาพยนตร์ทั้งเรื่อง เธอมาพร้อมการแสดงออกทางสายตาที่เรียบง่าย แต่ให้ความรู้สึกที่ทรงพลัง
Lex Briscuso
‘Killers of the Flower Moon’ เป็นภาพยนตร์ระดับมหากาพย์ที่สุดยอดที่บอกเกล่าเรื่องราวความโหดร้ายของคนผิวขาว, เต็มอิ่มทุกอารมณ์ และปูทางให้ ลิลี่ แกลดสโตน ขึ้นแท่นเป็นนักแสดงระดับต้น ๆ เธอแสดงถึงความแข็งแกร่งและโศกเศร้าได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างเหลือเชื่อผ่านเพียงแค่การจ้องมองเท่านั้น
FilmLand Empire
‘Killers of the Flower Moon’ ค่อย ๆ บอกเล่าเรื่องราวของอำนาจ, การหักหลัง และเอารัดเอาเปรียบ ในประเทศครอบงำด้วยความอิจฉาและความโลภ การกำกับของสกอร์เซซีอยู่ในระดับสุดยอดเกินคำบรรยาย ถ่ายทอดออกมาได้ยิ่งใหญ่, คุมจังหวะได้ยอดเยี่ยม, มีความเป็นมนุษย์สูง และเชื่อมโยงอารมณ์เข้ากับเนื้อเรื่องได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
Peter Debruge จาก Variety
สกอร์เซซีและผู้กำกับภาพ โรดริโก พรีโต้ นำเสนอภาพของชุมชนที่เต็มไปด้วยน้ำมัน, การแข่งขันในระดับรากหญ้า และการประท้วงในตัวเมือง เสริมด้วยฉากการเผาทุ่งอันยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา และอีกหลายฉากที่แสดงให้เห็นถึงมูลค่ามหาศาลในการสร้าง รวมถึงเรื่องราวอันน่าทึ่งที่เกิดขึ้นในสถานที่และเวลาเดียวกัน
David Ehrlich จาก IndieWire
ภาพยนตร์มหากาพย์ที่เล่าเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ทรงพลัง พร้อมด้วยการแสดงขั้นสุดในอาชีพของ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ
Pete Hammond จาก Deadline:
มีโอกาสมากมายที่ผู้ชมอาจไม่อินไปกับการได้ชมผู้สร้างภาพยนตร์ระดับสุดยอดมานำเสนอเรื่องราวเช่นนี้ แต่ไม่ใช่สำหรับผมที่บอกได้เลยว่า ความยาว 3 ชั่วโมงครึ่งของสกอร์เซซีและมือตัดต่อที่ร่วมงานกับมานานอย่าง เธลมา สกูนเมกเกอร์ ไม่ทำให้ผมรู้สึกเสียดายเวลาเลย มันทำให้รู้สึกเหมือนกับเป็นภาพยนตร์มหากาพย์ในหลายด้าน แต่ทั้งหมดผ่านลงในเรื่องราวที่ทำให้ผมเพลิดเพลินจนลืมเวลาไปเลย
Matt Neglia จาก Next Best Picture
นี่เป็นการย้ำเตือนว่าเหตุใดผู้สร้างภาพยนตร์ระดับปรมาจารย์ยังคงความยอดเยี่ยม ในวัย 80 ปี และยังคงสามารถหาวิธีที่จะผลักด้นผลงานไปข้างหน้าเรื่อย ๆ และทำให้ธุรกิจโรงภาพยนตร์ยังคงอยู่ได้
David Rooney จาก The Hollywood Reporter
ในบางแง่มุม นี่เป็นผลงานอาชญากรรมคลาสสิกของสกอร์เซซีที่มาร่วมงานกับ อีริก รอธ และมีบางช่วงที่ทำให้หวนนึกถึงการแสดงระดับสุดยอดที่เต็มไปด้วยสีสันของเดอนิโร แต่การหันมาเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของชนชาติอเมริกันที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ คือรสชาติที่ต่างออกไปสำหรับผู้กำกับผู้นี้
‘Killers of the Flower Moon’ มีกำหนดฉายในวันที่ 20 ตุลาคม 2023 นี้
ที่มา : ScreenRant