เอาจริงๆต้องบอกเลยว่า ไม่คิดว่าหนังจะทำให้เรา 'ผิดหวัง' ขนาดนี้ ขอถามคำถามนึงครับเคยเป็นไหมครับ แบบหนังเหมือนจะดำเนินไปได้ แต่ก็อยู่ที่เดิม แบบผมดูไปดูมามีความรู้สึกกับหนังว่า "ทำไมเล่าแบบนี้" อะไรแบบนี้ ซึ่งเอาจริงๆ ถ้าตัดความน่าเบื่อน่ารำคาญนั้นออกไป ข้อเสียใหญ่ของหนังเรื่องนี้คือWrong Priority Arrange (การจัดลำดับความสำคัญผิด) ครับ เค้าไปให้ความสำคัญกับการปูเรื่อง ซึ่งผมก็เข้าใจเพราะว่าเป็น Part One แสดงว่ามีต่อแน่ๆ ซึ่ง ไอ้ช่วงปูเรื่องเนี่ยผมจะบอกให้ว่า 'โคตรนานเลย' ซึ่ง ถามว่าฉากActionหรือฉากบู๊เนี่ยมีไหม มี ครับ แต่ไม่รู้ทำไมผมไม่รู้สึกตื่นเต้นเลยตัดแบบแปลกๆ คือแบบเห็นฉาก Action แล้วก็ตัดไปอีกที่นึง คุยกันทั้งๆที่การต่อสู้ยังไม่จบ ผมก็เลยรู้สึกว่า 'อะไรเนี่ย' แบบนี้เลยแต่มี Event ที่ผมค่อนข้างตื่นตาตื่นใจอยู่คือ การระเบิดฐานที่มั่นของ พวกตัวละครหลัก (Paul และแม่ของ Paul) ที่ทำให้ผมดูแล้วพอจะมองได้ว่ามีอะไรอยู่บ้างในหนังเรื่องนี้เอาจริงๆหรืออาจเป็นเพราะผมคาดหวังสูงไปกับหนังเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่าก็เลยผิดหวังมากกว่าปกติเพราะตอนดู Trailer นี่คือโคตร Hype เลยคือแบโคตรอยากดู แต่พอไปดูแล้วผมจะบอกกับคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ว่า 'ดูแค่ Trailer' ก็พอแล้วประมาณนี้จริงๆครับ เอาจริงๆผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้นานแล้ว ตั้งแต่ดู Paradise Hill เป็นหนังที่คล้ายกันมากครับ คือจะมีจังหวะเอื่อยๆซึ่งประเด็นของเรื่องไปแก้ตอนเกือบท้ายๆเรื่อง ต้นๆเรื่องนี่ไปเล่าอะไรไปคุยอะไรกันก็ไม่รู้โดยไม่จำเป็น จนหนังกลายเป็นน่าเบื่อไปเลย นี่แหละครับความเหมือนของทั้ง 2 เรื่องนี่ จะบอกว่าผมหลับไปหลายช่วงมากเพราะหนังไม่น่าสนใจแบบที่บอกมา เพราะเหตุผลที่บอกไปก่อนหน้าครับ เดี๋ยวเรามาดู Overall กันเลยดีกว่าถ้าจะให้ Define (นิยาม,กำหนด) หนังเรื่องนี้สั้นๆก็คือการเริ่มต้นยึดดินแดนคืนโดยเริ่มจากความวินาศสันตะโรของเมืองนำไปสู่การล้างแค้นกับเวทย์เสียงที่สั่งให้ทุกคนในอาณาจักรนำเนินทรายนั้นกลับมา โดยตัวละครหลักๆจะประกอบไปด้วย Paul Atreides ที่รับบทโดย Timothée Chalamet ซึ่งจะได้เป็นผู้สืบทอดของตระกูล Atreides ซึ่งเค้าก็ได้มีแม่ทีเป็นตัวละครสำคัญมาที่ชื่อ Lady Jessica รับบทโดย Rebecca Ferguson ซึ่งมีอำนาจของเวทย์เสียงซึ่งมีเงื่อนไขที่ "ถ้าใช้น้ำเสียงที่ถูกที่ควร ทรงพลัง และมีอำนาจจะสามรถควบคุมคนนั้นได้ดั่งใจได้" คล้ายๆกับการสะกดจิต มีตัวละครที่เป็นหัวหน้าใหญ่ที่ชื่อ Vladimir Harkonnen รับบทโดย Stellan Skarsgård ซึ่งได้กุมความลับของอำนาจความลับและความมั่งคั่งของเนินทรายนี้ไว้ จึงเกิดเหตุการณ์ใหญ่ที่ทำให้อาณาจักร Atreides เปลี่ยนไปตลอดกาล เส้นเรื่องเริ่มจากการประทับตราของตระกูล Atreides นำไปสู่การทดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจของ Paul ทำให้เกิดความโกลาหลในอาณาจักรมีการหักหลังโดยเริ่มจากการฆ่าพ่อของ Paul กับเปิดตัว Boss ใหญ่ที่ชื่อ Vladimir Harkonnen เป็นชายร่างท้วมจนถึงอ้วนที่ลอยได้ อาจยังมีความสามารถต่างๆซ่อนไว้อีก ซึ่งต้นตอของแผนการก็มาจากคนๆนี้นี่แหละ ผู้หญิงที่เป็นเผ่า Fremen ที่ชื่อ Liet Kynes นั้นได้ Sacrifire (เสียสละ) ชีวิตตัวเองเพื่อให้ Paul แม่ของเค้ารอด ทั้ง 2 คนก็ได้เดินทางไปเรื่อยๆจนเจอกลุ่มของชนเผ่า Fremal ได้มี Conflict (ความขัดแย้ง) การไม่พอใจของ Paul สมาชิกในชนเผ่า ซึ่งจะได้จัดประลองแบบ Life Exchange with Life คือชีวิตแลกชีวิตให้ความตายเป็นคำตัดสิน ซึ่งผลก็คือ Paul ชนะ เดินสู่เส้นทางการแก้แค้น ทวงดินแดนอาณาจักร Atreides กลับมา ประมาณนี้ครับสำหรับเส้นเรื่องของหนังเรื่องนี้ ลงต่อเนื่องเลยนะครับเพราะอยากให้จบภายในวันเดียวไม่อยากค้างคา สำหรับคะแนนที่ผมจะให้คือ 3/10 ครับ บอกตามตรงเลยคือผิดหวังมาก แต่ก็คาดหวังว่า Part Two จะทำได้ดีกว่านี้ อาจมี Event, Situation (เหตุการณ์,สถานการณ์) มากขึ้นกว่านี้อาจมีประเด็นอะไรให้ดูแล้วเพลิดเพลินกับเรื่องมากกว่านี้ เดี๋ยวจะมีเอาหนังที่เคยดูแล้วเมื่อไม่นานมานี้มารีวิว เอาหนังเก่ามารีวิว ยังไงก็ลองติดตามกันด้วยนะครับ ขอบคุณครับผมขอบคุณภาพสวย ๆ จาก FACEBOOK : Dune Movieภาพปกภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4ขอบคุณภาพสวยๆคุณภาพดีด้วยนะครับเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !