ยังตกใจขวัญผวาจนทุกวันนี้ “อำภา ภูษิต” เล่าระทึกวิ่งหนีตายจากเหตุกราดยิงห้างดัง
ยังตกใจขวัญผวาจนทุกวันนี้ “อำภา ภูษิต” เล่าระทึกวิ่งหนีตายจากเหตุกราดยิงห้างดัง
เป็นหนึ่งในนักแสดงจากพรหมลิขิต สำหรับ “อำภา ภูษิต” ล่าสุดเธอโพสต์ยาวเหยียดเล่าระทึกว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่หนีตายจากเหตุกราดยิงห้างดังที่เป็นข่าวใหญ่
เธอยังตกใจ ขวัญผวาจนทุกวันนี้ ที่ต้องวิ่งหนีตายในวันดังกล่าว
เธอเล่าวว่า “วันที่ 3 ตุลาคม 2566... “อำภา ภูษิต” คือคนหนึ่งที่ต้องไปงานบิ๊กวิก 3 ที่สยามพารากอนวันนั้นคืองานเปิดตัวละคร “พรหมลิขิต” จัดที่พารากอนฮอลล์ กองละครนัดแต่งหน้า แต่งตัว 17.00 น.”
เราเป็นคนที่ไปก่อนเวลาเพราะกลัวรถติด และอยากให้กองเห็นหน้าก่อนเวลา เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกังวลในการทำงาน
และวันนั้นคือวันที่เกิดเหตุการณ์กราดยิงในห้าง ที่เป็นข่าวใหญ่
เราไปถึงห้าง 16.00 น. เศษ จอดรถฝั่งใต้ดินชั้น 3 เข้าห้างไป พอถึงชั้น 4 จะเดินขึ้นบันไดเลื่ิอนไปชั้นพารากอนฮอลล์ ก็ได้ยินเสียงปืน 3 นัดสุดท้าย ซึ่งทำให้ตกใจมาก ถึงมากที่สุด
“น้องพนักงานห้างวิ่งกันขวักไขว่ เราก็วิ่งไปถามไปว่า เสียงอะไร พนักงานบอกว่า เค้ายิงกันชั้น M ค่ะ ซึ่งเสียงปืนดังพอควร”
“เราก็วิ่งไปกับพวกเค้าเหมือนกัน ใจสั่น กลัวมาก ๆ แล้วเราถามน้องพนักงานว่า ทางขึ้นไปพารากอนฮอลล์ที่เร็วสุดคือทางไหน พนักงานบอกว่า บันไดเลื่อน เราก็วิ่งย้อนไป จะถึงอยู่แล้วประตูเลื่อนเหล็กลงมาปิดพอดี หันไปถามรปภ. ว่า ไปได้ทางไหนอีก รปภ. บอกว่า ลิฟต์นี่เลยครับ พอเดิน 5 ก้าวถึงหน้าลิฟต์... คุณพระ!!! ประตูเลื่อนที่ 2 จากข้างบนลงมาปิดทางอีกตรงที่เรายืนในตอนแรก และเดินมาหน้าลิฟต์ นั่นก็คือการปิดไม่ให้คนเข้า-ออกห้างแล้ว ...”
จนในที่สุดเราก็ขึ้นไปชั้นพารากอนฮอลล์ ก็เห็นคนวิ่งกันวุ่นเพื่อหาทางออก แล้วคนในงานก็ให้การ์ดออกมารับ น่ากลัวที่สุด
ซึ่งมาทราบจากข่าวในภายหลังว่า... ในขณะที่ผู้ก่อเหตุ อยู่ชั้น 3 เราก็อยู่ชั้น 4 ในเวลาเดียวกัน ตอนนี้พูดได้คำเดียวค่ะว่า “คุณพระช่วย” !!!
วันนั้นเราไปกัน 3 คน พี่อ้อยที่ขับรถให้เรา และลูกปลาซึ่งก็เป็นเหมือนลูกของเรา เป็น 3 คนที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ที่ระทึกขวัญในวันนั้น... มันน่ากลัว น่าตกใจมากที่สุด เหมือนพวกเราเอาชีวิตไปเสี่ยงในสมรภูมิรบ ทั้ง ๆ ที่เราตั้งใจไปเพื่อทำงานและสร้างความสุขให้กับแฟน ๆ ละครช่อง 3
“อย่างไรก็ตาม เราขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้กับทุก ๆ ฝ่ายด้วยนะคะ เราเองก็ขวัญเสียมากค่ะ เหตุการณ์ในครั้งนี้ คงอยู่ในความทรงจำของเราไปอีกนาน ยากที่จะลบเลือนไปได้ง่าย ๆ ... ขออย่าให้เกิดขึ้นอีกเลย”