Series Review Like a Dragon: Yakuza (2024) ดราม่าอาชญากรรมที่สุขุมลุ่มลึกจนไม่รู้สึกเลยว่าถูกสร้างมาจากเกมละเอียดละเมียดเก็บเกี่ยวทุกอย่างไว้กระจ่างตอนท้ายได้อย่างมีพลัง รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ย้ำอีกครั้งว่าผู้เขียนเป็นคนไม่เล่นเกมอาจเคยเล่นบ้างแต่ปัจจุบันไม่ได้เล่นแล้วทำให้เกมที่ดังๆก็ไม่รู้จักทำให้หนังหรือซีรีส์ที่สร้างจากเกมไม่ค่อยอยู่ในความสนใจเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่รักการดูหนังดูซีรีส์ก็จะว่าเป็นเรื่องๆไปว่ามีอะไรน่าสนใจในหนังหรือซีรีส์ที่สร้างจากเกมเรื่องนั้นๆให้น่าติดตามเพื่อความบันเทิง แล้วด้วยความที่ตัวเองไม่เล่นเกมเลยไม่รู้เนื้อหาไม่รู้พื้นฐานตัวละครที่อาจเป็นข้อได้เปรียบหรือเสียเปรียบก็บอกยากเพราะมันขึ้นอยู่กับเนื้องานที่ออกมา เพราะบางเรื่องที่ได้ดูผ่านมาก็สนุกโดยที่ไม่รู้เนื้อหาแบบนั้นส่วนบางเรื่องที่พอรู้มาบ้างเคยเล่นเคยผ่านมันมาก็กลายเป็นผิดหวังไปเสียได้เพราะความคาดหวังมันมาจากโทษฐานที่ได้รู้จักนั่นเอง แต่ในช่วงหลังนั้นงานที่สร้างมาจากเกมยุคใหม่ผู้เขียนมักจะไม่ได้ใส่ใจถ้าข้อมูลไม่หลุดเข้ามาแล้วถ้ามันเป็นความน่าสนใจก็ไม่ค่อยพลาดเช่นเดียวกับซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องนี้ เพราะความที่ไม่รู้ว่ามันถูกสร้างมาจากเกมเลยคิดเอาเองว่ามันต้องมาเป็นแนวแก๊งสเตอร์ที่ละเมียดเชือดเฉือนส่วนตัวเกมจะเป็นอย่างไรยอมรับว่าไม่รู้จริงๆ คิริว คาซุมะ (เรียวมะ ทาเคอุชิ) , อากิระ นิชิกิยาม่า (เคนโต กาคุ) , ยูมิ ซาวามูระ (ยูมิ คาวาอิ) และมิโฮ นิชิกิยาม่า (ฮินาโนะ นากายามะ) น้องสาวของอากิระซึ่งทั้งสี่คนเหมือนเป็นครอบครัวเดียวผูกพันกันโตมาด้วยกันในบ้านเด็กกำพร้า ทั้งสี่ต้องการหนีให้พ้นจากสภาพที่เป็นอยู่จึงไปปล้นเงินจากร้านเกมในเขตคามุโระย่านชินจูกุ ทว่าเงินที่ปล้นมากลายเป็นของพวกยากูซ่าตระกูลโดจิม่าพวกเขาจึงถูกจับไปแต่คาซุมะเสนอตัวเป็นมังกรคือนักสู้ไต้ดินของตระกูลยากูซ่าและนิชิกิก็ยอมเป็นเบ๊ทำงานในแก๊ง สิบปีต่อมาคาซุมะกำลังพ้นโทษจากเรือนจำโดยมีคำครหาว่าเป็นคนล้มนายและนิชิกิกลายเป็นผู้นำตระกูลโดจิม่าและยูมิที่เปิดบาร์ก็มีปัญหาเมื่อพี่สาวของเธอไอโกะ (มิซาโตะ โมริตะ) ไปปล้นเงินหมื่นล้านของยากูซ่าตระกูลโอมิที่เป็นอีกหนึ่งตระกูลใหญ่ทำให้ถูกตามล่า ทำให้คาซุมะต้องร่วมมือกับยูมิตามหาเงินมาคืนเพื่อหยุดสงครามระหว่างแก๊งส่วนนิชิกิก็ต้องเอาเงินมาให้หัวหน้าใหญ่ทำให้มิตรภาพและความผูกพันในอดีตที่ผุดขึ้นมาต้องมาบรรจบกันปานโชคชะตา ซีรีส์ญี่ปุ่นแต่ถูกสร้างโดยฝรั่งเลยเดินเรื่องด้วยชั้นเชิงที่ต่างไปเล่าที่มาเพื่อไปบรรจบกับที่ไปได้เนียนๆ โดยทั่วไปซีรีส์ญี่ปุ่นแท้จะมีการเดินเรื่องที่ต่างไปคืออาจเนิบนาบเรียบเรื่อยหรือบางทีก็แบ่งซอยย่อยเป็นความเร้าใจในตอนที่เหมือนอ่านมังงะ แต่เรื่องนี้คือการสร้างโดยสตูดิโอตะวันตกหรืออาจเรียกว่าเป็นซีรีส์ตะวันตกที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นก็ยังได้การเล่าเรื่องจึงเป็นไปทางตะวันตกมากกว่าด้านชั้นเชิง ด้วยการเล่าสลับไปมาระหว่าปี 1995 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งที่สี่สหายทำร่วมกันมากับปี 2005 ที่เดินหน้าไปหาจุดบรรจบของสองเพื่อนซี้ที่วันนี้ทางเดินเหมือนเป็นเส้นขนาน แต่การเล่าเรื่องทั้งสองทางก็เข้ากันได้เนียนๆเพราะมีช่องว่างทางยุคมสมัยมาขีดเส้นที่ชัดทำให้ดูไม่ยาก นั่นคือที่มาส่งเสริมที่ไปคือเล่าอดีตเป็นพื้นฐานปัจจุบันเพื่อไปบรรจบกันในอนาคตที่ก็ไม่ได้ยากกับการคาดเดาบทสรุป แล้วปัญหาก็อยู่ตรงนี้เพราะบทพยายามเล่าด้วยรายละเอียดจริงแต่เป็นในส่วนของตัวละครทำให้บางอย่างขาดหายคือเรื่องของการหักเหลี่ยมฟาดฟันกันในแบบงานแก๊งสเตอร์เยี่ยมๆนั่นเอง เหมือนคนพูดน้อยอ่านใจยากแต่สุขุมลุ่มลึกละเมียดเก็บความรู้สึกเพื่อไปปะทุตอนท้ายได้น่าติดตามแต่... ความที่เรื่องเน้นไปที่ตัวละครคือมิตรภาพความรักความผูกพันที่สร้างรอยแยกและการมาบรรจบกันปานโชคชะตาจึงคล้ายเป็นคนพูดน้อยเงียบขรึมสุขุมดูลุ่มลึก เพราะถ้าว่ากันที่ตรงนี้คือเป็นไปด้วยความละเอียดละเมียดทำให้คนดูอยากรู้ว่าทำไมสองเพื่อนซี้จึงต้องกลายมาเป็นแบบนี้ในปี 2005 แน่นอนความอยากรู้ต่อมาคืออยากรู้ว่าเส้นทางจะไปบรรจบลงตรงไหนทีทำได้เยี่ยมสำหรับแง่มุมนี้ แต่...ปัญหาคือนี่คืองานที่เล่าเรื่องยากูซ่าจึงต้องมีเรื่องยากูซ่าแต่กลับมาแบบขาดๆเกินๆปัจจัยที่เป็นตัวแปรก็ไม่มีน้ำหนักเช่นตัวละครไอโกะก็โดดไปโดดมา ซึ่งเป็นปัญหาแน่นนอนเมื่อเสนอตัวเป็นงานดราม่าอาชญากรรมแก๊งอันธพาลแต่เลือกไปในส่วนนั้นน้อยนิดแต่ยังดีที่ในส่วนของตัวละครยังเล่าได้ดีทำให้ยังเก็บเกี่ยวความรู้สึกตรงนี้เพื่อไปปะทุแรงในตอนท้าย แน่นอนส่วนนี้น่าติดตามเข้มเร้าใจเพียงแต่สิ่งที่หายไปมันเป็นของสำคัญเลยอาจไปไม่ถึงฝั่งฝันกับความเยี่ยมๆตามแนวทางที่พึงมี เมื่อไม่มีอะไรให้เล่นมากนักพร้อมกับบทไม่ลงลึกในส่วนของพื้นหลังการแสดงเลยไม่ใช่จุดที่เอามาขายได้ แม้จะเล่าด้วยความผูกพันกันของตัวละครและเอาจริงก็เล่าได้ดีมีรายละเอียดที่ดีพอว่าที่มาถึงจุดเริ่มเรื่องเป็นอย่างไรและการมาบรรจบกันในตอนท้ายก็มีน้ำหนักในใจที่ดีพอ ทว่าการลงลึกไปยังส่วนลึกหรือความเป็นปัจเจกบุคคลเชิงลึกยังไม่มีนั่นคือนิสัยใจคอของแต่ละคนเป็นยังไงยังมองไม่เห็นจุดนี้ นั่นทำให้ในซีนอารมณ์หรือซีนที่ต้องจับใจยังทำไม่ได้ผ่านการแสดงโดยเฉพาะเรียวมะ ทาเคอุชิที่ผู้เขียนดูเขามาหลายเรื่องแล้วยังคงดูพยายามจนล้นและหน้าเหม็นตดเช่นเดิม ซึ่งมันอาจเป็นเพราะบทลงลึกในส่วนของตัวละครไม่ได้ก็คงมีส่วนเพราะแทบทุกคนเหมือนตัวละครแบนๆกระทั่งยูมิ คาวาอิ,ฮินาโนะ นากายามะและมิซาโตะ โมริตะ ทำให้ในส่วนของการแสดงคงไม่ใช่จุดที่จะเอามาขายได้เพราะยังมองเห็นว่าเอาใครมาเล่นแทนก็ได้ยกเว้นเคนโต กาคุไว้คนหนึ่งที่มีบางเวลาผู้เขียนคิดถึงอัล ปาชิโนในบทไมเคิล คอร์ลีโอเน่เป็นพักๆทำให้เขาเอาตัวรอดไปได้ อาจเหมือนสุขุมลุ่มลึกก็จริงแต่แท้จริงแล้วมีปัญหามากมายถ้ามองกันที่รายละเอียดโดยไม่ใช้ความบันเทิงมาบดบัง สุดท้ายความเห็นส่วนตัวผู้เขียนยังบอกว่านี่คือซีรีส์ที่ยังดูสนุกและน่าติดตามเริ่มต้นดีจบดีเป็นความบันเทิงที่ค่อยๆนวดค่อยๆเพิ่มจนปะทุระอุในตอนท้ายแม้จะไม่ดุเดือดดิบ แต่ถ้ามองในรายละเอียดที่ควรทำได้เพราะเห็นช่องว่างมากมายที่จะใส่อะไรก็ตามที่เป็นส่วนเสริมชั้นเยี่ยมลงไปแต่เมื่อไม่ก็กลายเป็นปัญหา เช่นเรื่องการฟาดฟันเชือดเฉือนกันระหว่างภายในและภายนอกแก๊งที่เมื่อใส่มาก็ควรไปสุดไม่ใช่ครึ่งๆกลางๆ แน่นอนเรื่องการสร้างยากูซ่าให้เป็นความเท่ที่ถ้าเคยดูหนัง A Family (Yakuza And The Family) (2021) จะขัดแย้งในใจเพราะเรื่องนั้นภาพของยากูซ่าดูเรียลจนดูยังไงก็ไม่ใช่แบบนี้ แต่ถ้าว่ากันที่ความบันเทิงเรื่องนี้ยังมีให้เพียงแต่มันยังไปไม่ถึงความยอดเยี่ยมอาจเพราะสร้างจากเกมที่บางอย่างอาจแบนๆอยู่แล้วก็ไม่ทราบ เลยกลายเป็นความบันเทิงที่เบื้องหน้าไม่สามารถลงลึกถึงก้นบึ้งอย่างน่าเสียดายที่ไม่ได้ใส่อะไรที่ควรใส่ลงไปในหกตอนนี้ ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 2,3,4,5 / ภาพที่ 6,7 จาก Instagram primevideojp ภาพที่ 1 จาก Instagram primevideoth เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !