หนิง กลั้นน้ำตา กราบลาส่ง แม่ชีศันสนีย์ สู่สวรรค์ เผยจากไปอย่างสงบด้วยรอยยิ้ม
หนิง กลั้นน้ำตา! กราบลาส่ง แม่ชีศันสนีย์ สู่สวรรค์ เผยจากไปอย่างสงบด้วยรอยยิ้ม
หนิง กลั้นน้ำตา - สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่! หนิง ปณิตา กลั้นน้ำตา! กราบลาส่ง แม่ชีศันสนีย์ สู่สวรรค์ เผยจากไปอย่างสงบด้วยรอยยิ้ม สัญญายึดมั่นในทุกคำสอน นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของลูกศิษย์ลูกหาที่เคารพรักนับถือ ภายหลังทราบข่าวการคืนสู่ธรรมชาติ(เสียชีวิต)ของ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ด้านผู้จัดคนเก่ง หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ หนึ่งในลูกศิษย์ที่ให้ความเคารพรัก แม่ชีศันสนีย์ หรือชื่อที่เจ้าตัวมักเรียกแทนอยู่เสมอว่า ยายจ๋า ผู้ซึ่งได้อยู่ในช่วงวาระสุดท้ายของแม่ชี เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตครั้งนี้ว่า “จริงๆ ในเรื่องของอาการป่วยของท่านก็ทราบข่าวมาเป็นระยะๆ จนกระทั่งล่าสุดได้รับการบอกว่ายายจะถอดสายน้ำเกลือและคืนตัวเองสู่ธรรมชาติ แล้วก็กลับมาที่เสถียรธรรมสถานเมื่อตอนกลางคืนของวันก่อนที่ยายจะเสีย พอวันรุ่งขึ้นหนิง ก็ไปรอเฝ้ายายตั้งแต่ช่วงเช้าค่ะ”
ตอนที่ทราบว่าท่านตัดสินใจกลับมาอยู่ที่เสถียรฯ รู้สึกอย่างไร? “หนิงก็ถามกับพี่ที่ดูแลคุณยายว่า “จริงๆ เหรอ” คือยายท่านเป็นคนเด็ดเดี่ยว แล้วยายก็จะสอนให้เราอยู่กับความจริง ยอมรับความจริง ครั้งนี้หนิงรู้สึกว่ายายใช้ความยิ่งใหญ่และความกล้าหาญของการเป็นนักบวชทั้งหมดสอนลูกศิษย์ลูกหา สอนลูกสอนหลานให้ยอมรับความจริง แล้วก็ให้อยู่กับความจริงนั้นอย่างไม่ทุกข์ ยายเข้มแข็งมากๆ”
อยู่ในวาระสุดท้ายของแม่ชีทัศนีย์ด้วย? “ใช่ค่ะ ช่วงประมาณ 5 โมงครึ่ง ลูกศิษย์ลูกหาที่ทยอยกันมาก็จะไปอยู่ในห้องข้างๆ คุณยาย มีกำแพงกั้น พวกเราก็ไปนั่งสวดมนต์และขอขมายาย ซึ่งเราทุกคนคิดว่าการสวดมนต์ขอขมายายไม่ได้เป็นการที่คิดว่ายายท่านจะไปไหว้พระที่สวรรค์ สำหรับเรารู้สึกว่าการที่เราไปร่วมสวดมนต์กันเพื่อแผ่เมตตา ช่วยกันเพิ่มพลังให้ยาย”
“จนกระทั่งหลวงพ่อมาพร้อมกับพวงมาลัยสวยๆ พวงหนึ่ง ท่านเรียกให้หนิงมาวางพวงมาลัยให้ยาย ตอนนั้นคือเราอยู่หน้าห้องคุณยาย แล้วก็ส่งกระแสจิตให้ยายกัน จากนั้นหนิงก็ลงไปส่งหลวงพ่อเพราะท่านจะกลับไปที่วัด ระหว่างนั้นพูดคุยกับหลวงพ่ออยู่ประมาณ 20 นาที จนหลวงพ่อกลับไป”
“เราก็ได้ยินเสียงคนข้างบนเหมือนบอกให้รีบขึ้นไปเร็ว พี่คนหนึ่งไลน์มาบอกว่าให้หนิงขึ้นมาข้างบนด่วน พอขึ้นไปก็เห็นทุกคนกอดกันแล้วก็น้ำตาไหล หนิงก็เนอะ…ความรู้สึกตอนนี้มันบอกไม่ถูก สิ่งแรกที่อยากทำก็คือโทรกลับไปบอกหลวงพ่อว่ายายไปไหว้พระที่สวรรค์แล้ว หลวงพ่อก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะเลี้ยวรถกลับมาให้รอหน่อยหนึ่ง”
น้ำตาไหลด้วยไหม? “ไหลนะคะ ต้องบอกว่าเมื่อวานเป็นวันหนึ่งที่ตัวหนิงเองใช้คำว่าไม่รู้ว่าผ่านมาได้ยังไง ทั้งคุณยายจ๋าเอง ทั้งหลวงลุงที่หนิงเคารพรักมากๆ ซึ่งท่านเป็นพระอยู่โรงพยาบาลสงฆ์ อยู่ในวินาทีที่ลุ้นของคนที่เราให้ความเคารพรักมาก 2 คนพร้อมๆ กัน”
ตอนที่กราบลาได้พูดอะไรกับยายจ๋าไหม? “ตอนกราบที่เท้าท่านก็พูดว่า คำสอนของยายทุกคำพูดเราจำได้ทั้งหมด แล้วเราให้คำสัญญาเลยว่าเราเองจะปฏิบัติสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นจริงๆ แล้วสิ่งที่ยายห่วงที่สุดคือยายห่วงหลาน ยายห่วงณิรินมาก ทุกครั้งยายจะถามถึงหลาน เราก็กราบไปที่เท้าแล้วบอกว่าเราจะทำให้ได้อย่างที่ยายสอนเรา แล้วก็ดูแลหลานยายให้ดีที่สุดค่ะ”
เคยมีโอกาสได้บวชที่เสถียรฯ ด้วย? “ตอนโมเมนต์ที่บวชหนิงจำได้ว่าวันนั้นหนิงไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าไปเพื่อบวช ณิรินเกิดมาพร้อมกับเด็กสร้างบาตร คือคุณยายทำโครงการในการที่จะให้เด็กน้อยที่เรียกว่าพุทธสาวิกาจิ๋วได้มีโอกาสบวชเรียนตั้งแต่ยังเล็กๆ แล้วตอนนั้นเป็นช่วงเดียวกับที่ตัวเองกำลังทำลูกอยู่และอยากท้องมาก”
“พอวันที่เราบอกว่าเราจะสร้างบาตรด้วยกัน วันนั้นเอาจริงๆ ยายเองก็ไม่รู้ว่าหนิงเพิ่งไปฉีดไข่ใส่เข้าไปที่ท้อง แต่ยายจับท้องหนิงแล้วก็บอกว่ายายรู้สึกว่าจะมีหลานยายมาเกิด พร้อมกับที่เราได้มีโอกาสทำบาตรที่จะให้แม่ชีน้อยได้บวชกัน ตั้งแต่ณิรินยังไม่เกิดมาหนิงก็ทำบาตรนี้ให้ยายมาตลอด”
“จนกระทั่งปีนั้นยายก็อยากจะได้บาตรเพราะปีนั้นเป็นปีพิเศษมากจะไปบวชที่อินเดีย แล้วก็เป็นปีที่บวชให้กับในหลวงรัชกาลที่ 9 มันเป็นความรู้สึกตื้นตันใจในสิ่งที่ทำเพื่อให้เด็กๆ มีโอกาสได้บวช หนิงก็เลยพูดกับยายว่า “ยายจ๋า หนูอยากบวชบ้าง หนูบวชได้ไหม” ยายก็บอกว่าบวชเลย”
“แต่ตอนนั้นอีก 2 วันมีงาน หนิงก็เลือกจะโทรไปแคนเซิลซึ่งเขามัดจำเงินมาแล้วด้วย แล้วเขาก็ยกเงินทั้งก้อนนั้นให้หนิงเอาไปร่วมทำบุญ เลยเป็นที่มาว่าทำไมหนิงถึงได้บวช มันเป็นช่วงเวลาแค่เสี้ยววินาทีสั้นๆ ที่พอเราถวายบาตรแล้วทุกคนอนุโมทนากับเรา หลังจากวันนั้นมันก็ทำให้เราได้วนเวียนอยู่เป็นลูกหลานของเสถียรธรรมสถาน”
การสูญเสียครั้งนี้ยิ่งใหญ่แค่ไหน? “ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่มากๆ ในชีวิตของตัวเองเลยเหมือนกัน ยายเป็นครูของหนิงคนหนึ่งที่คอยชี้นำในเรื่องธรรมะ ไม่ว่าหนิงจะทำอะไรก็แล้วแต่ จะผิดจะถูกยายไม่เคยตำหนิ เวลาที่หนิงทำผิดหนิงก็จะไปสารภาพบาปทุกอย่างกับยายบ่อยมาก ยายก็ไม่เคยดุหนิง แต่ยายจะให้แง่คิดหนิงทุกอย่าง”
“บุคคลในชีวิตที่หนิงจะสามารถสารภาพผิดได้มี 3 คนคือแม่หนิง ญาติธรรมหนิง และมียาย พอเสียไปคนหนึ่งเราก็รู้สึกมันบอกไม่ถูก แต่หนิงจะเข้มแข็ง ไม่ร้องไห้แล้ว ยายใช้ลมหายใจในช่วงสุดท้ายด้วยความกล้าหาญ เป็นครูที่จะสอนพวกเราว่าอย่ายึดติด ยายยอมถอดทุกอย่างออก ยอมรับความเป็นจริง แล้วก็จากไปด้วยความสงบและรอยยิ้ม ตอนที่หนิงเข้าไปกราบยายนอนนิ่งจริงนะ แต่มุมปากยาย…ยังยิ้มอยู่”
ภาพจำที่ไม่เคยลืม? “ภาพที่ยายอุ้มน้องณิริน น้องยังตัวเล็กๆ แล้วก็มีบาตรอันเล็กๆ ซึ่งวันนี้น้องณิรินให้หนิงหารูปอันนี้ให้เขา น้องณิรินร้องไห้เยอะมาก น้องลงรูปนี้ในไอจี แล้วเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่ารักยายและจะจำสิ่งที่ยายสอน หนิงชอบภาพนี้ที่สุด (เชื่อว่าตอนนี้คุณยายไปไหว้พระบนสวรรค์แล้ว?) ยายอยู่บนสวรรค์ค่ะ”