[รีวิวซีรีส์] "Welcome to Samdalri" ซีรีส์ละมุนใจ อบอวลกลิ่นอายมิตรภาพ ความรัก และความฝัน
รีวิวซีรีส์ ‘Welcome to Samdal-ri – สู่อ้อมกอดซัมดัลลี’ ซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ล่าสุดจาก Netflix ที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศของความรัก ความฝัน และธรรมชาติอันงดงามของเกาะเชจู ใครตามหาซีรีส์อบอุ่นหัวใจ ฮีลใจในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ต้องไม่พลาด
เรื่องย่อ: เรื่องราวของเด็กสาวผู้ฝันอยากเป็นมังกรโผจากลำธาร ไปตามหาไข่มุกวิเศษในเมืองใหญ่ และเด็กหนุ่มผู้อยากเป็นลำธารสายเล็กของเธอ ‘Welcome to Samdal-ri’ เล่าเรื่องราวของ โชซัมดัล (รับบทโดย ชินฮเยซอน – Shin Hye Sun) และ โชยงพิล (รับบทโดย จีชางอุค – Ji Chang Wook) ทั้งคู่เกิดวันเดือนปีเดียวกัน มีแม่เป็นเพื่อนรักกัน เติบโตมาด้วยกันจนกลายเป็นมิตรภาพและนำไปสู่ความรักช่วงวัยรุ่น
แต่ซัมดัลก็เลือกเดินจากไปเพื่อตามหาความฝันในเมืองใหญ่ ขณะที่ยงพิลเลือกที่จะอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ บนเกาะเชจูที่เขารักต่อไป กว่าสิบปีที่ทั้งคู่ไม่ได้พบกัน วันหนึ่งซัมดัลกลับมาที่เกาะเชจูอีกครั้งพร้อมกับอาชีพการงานและหัวใจที่พังทลาย เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต้องตามไปลุ้นกันต่อใน ‘Welcome to Samdal-ri’ หรือชื่อไทย ‘สู่อ้อมกอดซัมดัลลี’
‘Welcome to Samdal-ri’ เป็นผลงานการกำกับของ ชายองฮุน (Cha Young Hoon) ผู้เคยฝากฝีมือกำกับซีรีส์แนวโรแมนติก ดราม่า อบอุ่นใจมาแล้วอย่าง ‘Forecasting Love and Weather‘ และ ‘When the Camellia Blooms’ โดยในเรื่องนี้ก็ยังคงเล่าเรื่องราวความรักหลากหลายมิติระหว่างชายหนุ่มหญิงสาว เพื่อน และครอบครัว มุมมองของโลกของการทำงานที่เข้มข้น พร้อมฉากหลังเป็นธรรมชาติอันงดงามเช่นเคย ส่วนมือเขียนบทได้ ควอนฮเยจู (Kwon Hye Joo) จาก ‘Hi Bye, Mama!’ มารับหน้าที่ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นบทดราม่า คอมเมดี้ หรือโรแมนติก ก็กลมกล่อมทุกรสชาติแน่นอน
ในซีรีส์ ‘Welcome to Samdal-ri’ เรื่องนี้เราได้เห็นนักแสดงสาวมากความสามารถอย่างชินฮเยซอนปล่อยของอีกครั้ง เธอรับบทเป็น โชซัมดัล ผู้อยากเป็นช่างภาพที่ประสบความสำเร็จในกรุงโซล เธอเฝ้าฝันอยากไปจากบ้านเกิดอยู่ทุกวันตั้งแต่เด็ก เมื่อได้จากไปแล้วก็เปลี่ยนชื่อเป็น โชอึนฮเย ทันทีแถมยังพยายามอย่างหนักให้ตัวเองประสบความสำเร็จเพื่อจะได้ไม่ต้องกลับมาเกาะเชจูอีก
ซึ่งความพยายามนั้นก็ส่งผลเพราะเธอได้ร่วมงานกับนักแสดง นายแบบนางแบบชื่อดัง และยังมีนิตยสารระดับโลกสนใจจัดนิทรรศการภาพถ่ายของเธอ เป็นการรวบรวมผลงานตลอดระยะเวลา 15 ปีบนเส้นทางอาชีพช่างภาพ เธอคือสาวสวยแกร่งผู้มีภาพลักษณ์ภายนอกเป็นสาวมั่นเก่งรอบด้านและไม่แคร์ใคร แต่ใครจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วภายในเธอก็มีความอ่อนไหวและเปราะบาง ต้องการเพื่อน ต้องการความรัก และอยากมีคนเข้าอกเข้าใจ และชินฮเยซอนก็ “เอาอยู่” ทุกฉากทุกตอน ไม่ว่าจะเป็นร่างช่างภาพมืออาชีพ ร่างหัวหน้าผู้เข้มงวดและเอาจริงเอาจัง ร่างของหญิงสาวผู้อ่อนไหว หรือแม้แต่ตอนโก๊ะ ๆ ฮา ๆ ก็แสดงออกมาได้เป็นธรรมชาติ
ส่วนทางจีชางอุคในบทของโชยงพิลผู้เป็นนักพยากรณ์อากาศท้องถิ่นก็มาในมาดพ่อหนุ่มอบอุ่นยิ่งกว่าเตาไมโครเวฟ ที่บทจะฮาก็เรียกเสียงหัวเราะจากเราได้เต็ม ๆ แต่บทดราม่าก็ทำเอาหน่วงตาม เขาคือเพื่อนสนิทและอดีตคนรักในช่วงวัยรุ่นของซัมดัล ทั้งคู่เติบโตมาด้วยกันโดยเขาเป็นฝ่ายสนับสนุนเธอมาตลอด แม้แต่ตอนที่ซัมดัลเลือกจะไปจากเกาะเชจู แม้จะดูเหมือนไม่ใส่ใจแต่เจ้าตัวก็แอบตามข่าวคราวของหญิงสาวเสมอ เขามีนิสัยร่าเริง อัธยาศัยดี และมักมีปัญหากับหัวหน้าในเรื่องการรายงานสภาพอากาศ นอกจากนี้แม้จะถูกเสนอชื่อให้ไปทำงานที่โซลเขาก็ปฏิเสธตลอด เพราะไม่อยาก “บังเอิญ” ไปเจอใครคนหนึ่งที่นั่น
แม้จะสตรีมมิงไปไม่กี่ตอนแต่เราก็ได้เห็นแล้วว่าเคมีของทั้งคู่เข้ากันได้ดี ไม่ว่าจะบรรยากาศของความเป็นเพื่อนสมัยเด็กหรือความตึงเครียดจากการที่ต้องมาเจอกันในปัจจุบันหลังไม่ได้พบหน้ากันมาสิบกว่าปี สิ่งเหล่านี้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นธรรมชาติ แถมเหตุการณ์ปัจจุบันยังเล่าสลับกับอดีต ทำให้เราได้อินไปกับเรื่องราวของทั้งคู่มากขึ้น
นอกจากความรักของคู่พระนางที่น่าจะมีอดีตให้เล่าอีกเยอะและชวนติดตามว่าอะไรทำให้ทั้งคู่เลิกกันทั้งที่ยังรักและผูกพัน ‘Welcome to Samdal-ri’ ยังบอกเล่าเรื่องราวความรักของพี่น้องและครอบครัว มิตรภาพระหว่างเพื่อนวัยเด็ก รวมถึงความผูกพันกันในชุมชนชนบทได้เป็นอย่างดี ผ่านพี่น้องของโชซัมดัลที่พบเจอปัญหาชีวิตส่วนตัวแตกต่างกันออกไป หรือกลุ่มเพื่อนวัยเด็กของพระเอกและนางเอก รวมถึงผู้คนในชุมชนที่ยังคงมีวิถีชีวิตเรียบง่าย เน้นการพึ่งพาอาศัยและช่วยเหลือกัน
ซีรีส์ ‘Welcome to Samdal-ri’ ยังเลือกนำเสนอภาพของ แฮนยอ หรือนักประดาน้ำหญิงผู้ทำหน้าที่ล่าสัตว์ทะเลน้ำตื้นเพื่อนำไปขายเป็นอาชีพ โดยส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นแฮนยอมักจะเป็นหญิงมีอายุ ซึ่งแม่ของพระเอกเองก็เคยเป็นแฮนยอเช่นกัน
ทางด้านการเล่าเรื่องของ ‘Welcome to Samdal-ri’ จะเล่าเหตุการณ์ปัจจุบันสลับกับการเล่าถึงอดีตเป็นช่วง ๆ เพื่อให้เราเข้าใจที่มาที่ไปและอินกับเรื่องราวในตอนนั้นมากขึ้น และช่วงแถมท้ายหลังจบตอนจะเป็นมุมมองที่เหมือนกับเป็นเนื้อเรื่องแถม เล่าเรื่องราวนอกเหนือจากเหตุการณ์หลักในเรื่องด้วย
สิ่งที่ต้องชมอีกอย่างในซีรีส์ ‘Welcome to Samdal-ri’ ก็คือโลเคชันต่าง ๆ ที่เราได้เห็นนั้นสวยมาก ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติริมชายฝั่งของเกาะเชจูหรือบรรยากาศในหมู่บ้านซัมดัลลี และเชื่อว่าตลอดทั้ง 16 ตอนซีรีส์จะพาเราไปสำรวจมุมมองอันงดงามของเกาะแห่งนี้ให้มากขึ้นแน่นอน
สรุป
‘Welcome to Samdal-ri’ เป็นซีรีส์โรแมนติก คอมเมดี้ ดราม่า ที่ครบรสถึงเครื่อง เล่าเรื่องราวการทำตามความฝัน การฝ่าฟันเพื่อประสบความสำเร็จ แต่เมื่อวันหนึ่งสิ่งต่าง ๆ ที่สร้างมาพังทลายลง เราจะเยียวยาหัวใจตัวเองและกลับมาเป็นตัวเราที่แท้จริงได้อย่างไร? แต่ละคนอาจมีคำตอบให้กับคำถามนี้แตกต่างกัน และบางครั้งเราก็ต้องถอยกลับมาที่จุดเริ่มต้นเพื่อค้นหาสิ่งที่หายไปก็ได้ ถือเป็นซีรีส์น้ำดีอีกเรื่องที่บรรยากาศอบอุ่น อบอวลไปด้วยความรัก มิตรภาพ และเรื่องราวของความฝัน มีความดราม่ากำลังดี คอมเมดี้กำลังเหมาะ และยังชวนให้เราลุ้นไปกับความสัมพันธ์ของพระเอกนางเอกด้วย ใครหาซีรีส์ดูเพลิน 16 ตอนเต็มอิ่ม เก็บเรื่องนี้ไว้ในลิสต์ได้เลย
สามารถรับชม ‘Welcome to Samdal-ri สู่อ้อมกอดซัมดัลลี’ ได้ทาง Netflix ความยาวทั้งหมด 16 ตอน ตอนใหม่สตรีมมิงทุกวันเสาร์และอาทิตย์ 22.00 น.