Movie ReviewThe Creator (2023)ตื่นเต้นตื่นใจตื่นตาเมื่อความบันเทิงมาพร้อมคุณภาพงานดีที่ถ้าดูสนุกๆไม่คิดก็ได้แต่ถ้าจะหาความหมายก็ดีเปิดหัวบทความนี้ขออนุญาตย้อนอดีตสมัยที่ผู้เขียนยังใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ในยุคที่โรงภาพยนตร์เป็นแบบแสตนด์อะโลนที่มีโรงหนังตั้งตระหง่านเดี่ยวๆที่รุ่นลูกๆของผู้เขียนไม่รู้จักแล้ว ตอนนั้นแม้ผู้เขียนกับคุณแม่บ้านจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วแต่ความบันเทิงมันเป็นเรื่องของรสนิยมและสิ่งที่ผู้เขียนทำเป็นประจำคือการเข้าโรงหนังเพื่อดูหนังในวันแรกที่จำไม่ได้แล้วว่าเริ่มฉายรอบแรกคืนวันพฤหัสเอาตอนไหน อาจเพราะผู้เขียนไม่ค่อยสำมะเลเทเมาด้วยกระมังคุณแม่บ้านเลยไม่ค่อยว่ากับการเสียเงินค่าตั๋วหนังสามสิบบาทสมัยนั้นจนกระทั่งได้มาทำงานเกี่ยวกับหนังการดูหนังจึงเหมือนการทำงาน ผู้เขียนกำลังจะสื่อว่าปัจจุบันที่กลับมาใช้ชีวิตในชนบทการดูหนังในโรงเป็นเรื่องสาหัสมากเพราะระยะทางและราคาที่ต้องจ่ายที่ต้องคิดหนัก ทำให้หนังบางเรื่องที่อยากดูมากแต่ก็ต้องทำใจและอดทนรอดูว่าจะลงสตรีมมิ่งทางไหนที่ปัจจุบันระบบสตรีมมิ่งก็มีส่วนให้คนดูเข้าโรงหนังน้อยลงเพราะหนังออกโรงไม่นานก็มีมาให้ชมกันถึงบ้าน เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่ได้แค่อิจฉาคนที่ได้ดูในโรงแบบจอใหญ่ส่วนผู้เขียนได้แค่ดูผ่านทีวีที่บ้านเมื่อการพัฒนาด้านเทคโนโลยีเอไอเพื่ออำนวยความสะดวกของมนุษย์ล้ำหน้ามากขึ้นเอไอจึงสามารถทำแทนมนุษย์ได้แทบทุกอย่างแม้กระทั่งก่อสงคราม และหลังจากการโจมตีมนุษย์ด้วยระเบิดนิวเคลียร์ของเอไอจะด้วยเหตุผลใดมนุษย์ก็ต้องเอาคืนด้วยการกวาดล้างพวกเอไอที่ยึดที่มั่นสุดท้ายในนิวเอเชียตะวันออกเฉียงไต้ และเมื่อกองทัพของมนุษย์คืออเมริกาได้คืบคลานเข้าไปหาผู้สร้างของเหล่าเอไอที่เรียกว่านอร์มาร์ธาเหตุการณ์นั้นทำให้ Joshua (John David Washington) นายทหารที่แฝงตัวอยู่กับพวกเอไอต้องสูญเสียภรรยาคือ Maya (Gemma Chan) และลูกในท้องของเธอ ห้าปีต่อมากองทัพขอให้เขาเข้าร่วมภารกิจในการค้นหาและทำลายอาวุธร้ายที่จะสามารถทำลายยานโนแมดที่เป็นอาวุธสำคัญของมนุษย์ได้แล้วเขาก็ตอบตกลงเพราะเห็นเบาะแสว่า Maya ยังมีชีวิตอยู่และเขาจะไปตามหาเธอ แต่แล้วกลับไม่พบอาวุธแต่พบกับเอไอเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่ง (Madeleine Yuna Voyles) ที่รู้ว่า Maya อยู่ไหน Joshua จึงต้องออกผจญภัยไปกับเธอท่ามกลางสงครามและการตามล่าจากทั้งเอไอและพวกเดียวกันตื่นเต้นเร้าใจไปกับสงครามระหว่างมนุษย์กับเอไอที่เล่าอีกมุมได้อย่างสนุกไม่รวบรัดและไม่หย่อนยาน ถ้าว่ากันที่เรื่องสงครามระหว่ามนุษย์กับหุ่นยนต์หรือปัญญาประดิษฐ์นับว่ามีการเล่าเรื่องมาบ่อยพอดู ทำให้ถ้าว่ากันที่ไอเดียนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เลือกเล่าในอีกมุมคือการวางมนุษย์ให้เป็นมนุษย์ที่ฉลาดและเจ้าเล่ห์เต็มไปด้วยรักโลภโกรธหลงและสิ่งนี้เองที่ส่งมนุษย์ไปอยู่ตรงข้ามกับหัวใจ แล้วเล่าผ่านสถานการณ์เดิมๆคือหนึ่งคนผู้สูญพลังชีวิตกับหนึ่งเด็กน้อยผู้จะมากอบกู้ที่ต้องพากันเดินผ่านสถานการณ์ร้ายๆเพื่อที่จะได้เรียนรู้ประหนึ่งดูซามูไรพ่อลูกอ่อน แน่นอนเมื่อเล่าเรื่องสงครามก็ต้องมีเรื่องของสงครามที่หัวใจมีผลต่อสงครามและมีบทสรุปที่ควรจะเป็นที่เรื่องนี้เล่าแบบง่ายๆไม่ต้องซับซ้อนให้ดูยากเดินหน้าเป็นเส้นตรงว่ากันตามความเหมาะสม ทำให้ในส่วนของเรื่องราวมีลุ้นมีระทึกเร้าใจกับการฝ่าหมื่นตายเพื่อไปสู่บทสรุปสุดท้ายที่ไม่มีอะไรเกินคาดแต่การเชื่อมโยงเหตุการณ์และแรงจูงใจนั้นเข้าขั้นสูงส่ง จึงเป็นการเล่าเรืองที่สนุกถ้าว่ากันที่การเล่าเรื่องไม่นับองค์ประกอบอื่นเพราะบทหนังมีดีอยู่ในตัวตื่นตากับงานด้านภาพที่สมจริงกับฉากแอ็กชันที่สนุกสนานและตรึงคนดูอยู่ จะว่าไปฉากแอ็กชันในหนังไซไฟแบบนี้จะมีอะไรให้เล่นได้อีกและเรื่องนี้ก็ยังหนีไม่พ้นขนบเดิมๆนั่นคือดูไปก็อดคิดถึงหนังเรื่องอื่นๆไปไม่ได้โดยเฉพาะ Rogue One: A Star Wars Story (2016) ของผู้กำกับ Gareth Edwards เอง แต่ความต่างมันคืองานด้านภาพที่ดูสมจริงกับฉากที่อลังการบนความคุ้นเคยในฐานะคนไทยที่เห็นโลเกชั่นแบบบ้านๆไปอยู่ในหนังไซไฟล้ำๆได้อย่างเนียนๆ แล้วเพราะฉากที่ดูสมจริงดังว่าก็ทำให้ภาพของฉากแอ็กชันที่ใส่มาดูจริงตามไปแม้อาจจะไม่ดุเดือดเลือดพล่านหรือกลายเป็นทางใหม่ๆแต่เมื่อได้ดูก็สนุกสนาน แล้วเมื่อมาประกอบกับการเล่าเรื่องที่เล่าได้เรื่องสามารถสร้างพื้นฐานในใจคนดูได้การเดินทางไปหาฉากแอ็กชันมันส์ๆจึงดูไม่นานแม้ว่าความจริงจะนาน ซึ่งต้องยกเครดิตให้กับการเล่าเรื่องด้วยที่เล่าในเวลาสองชั่วโมงกว่านิดๆให้ออกมาเป็นความสนุกจึงพาอย่างอื่นสนุกตามไปด้วย และส่วนหนึ่งต้องชื่นชมงานเทคนิคที่ตื่นตาพาให้เวลาเดินไปไม่รู้ตัวโดยที่หนังสามารถตรึงคนดูอยู่กับที่ได้อย่างชะงัดตื่นใจกับการใสหัวใจลงไปในปัญญาประดิษฐ์ที่ดูแปลกและชี้ให้เห็นประเด็นเดิมคือความเป็นมนุษย์ เพราะมนุษย์ก็คือมนุษย์ที่มีทั้งความดีความชั่วบางครั้งก็ใจกว้างบางครั้งก็เห็นแก่ตัวบางครั้งก็เหมือนมีหัวใจบางครั้งก็แห้งแล้งไปเพราะนั่นคือความเป็นมนุษย์ แล้วเมื่อเลือกให้มนุษย์อยู่คนละข้างกับคนดูที่ดูแล้วปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอกลับมีมิติทางหัวใจไม่ซับซ้อนเท่ามนุษย์หรือจะบอกว่าหัวใจของเอไอบริสุทธิ์กว่ามนุษย์ก็คงใช่ ซึ่งมันคือการใส่หัวใจลงไปในเครื่องจักรที่อาจไม่ค่อยได้เห็นในหนังไซไฟสงครามระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรมาก่อนหรือไม่อย่างไร ทั้งที่ความจริงก็ยังเล่นบนประเด็นเดิมคือปัญหาทุกอย่างบนโลกหรือการสูญสิ้นและการล่มสลายของอะไรบางอย่างล้วนแล้วแต่มาจากน้ำมือมนุษย์เพราะมิติความเป็นมนุษย์มันซับซ้อนอย่างที่กล่าวไว้ เพียงแต่เรื่องประเด็นเดิมๆแบบนี้ถูกเล่าในหนังแอ็กชันไซไฟที่เล่าได้อย่างมีหัวใจเพราะบางครั้งคนดูจะรู้สึกเข้าข้างมนุษย์เพราะความเป็นมนุษย์เหมือนกันแต่ในขณะเดียวกันก็สงสารเอไอจับใจจึงเป็นการเล่าเรื่องง่ายๆแต่ซับซ้อนทางหัวใจจึงเป็นความตื่นใจการแสดงที่เอาดีได้แม้จะไม่มีใครแบกหนังเพราะบทหนังมีมิติที่กระจายไปได้อย่างเท่าเทียม แม้จะไม่ถึงกับหวังรางวี่รางวัลแต่การแสดงก็คือเอาดีได้ทุกคนเพราะบทสามารถเล่าเรื่องได้มีหัวใจซึ่งในที่นี้จะว่ากันที่สามคนหลัก หนึ่งคือ Madeleine Yuna Voyles ในบท Alphie ที่มิติทางใจชัดสามารถสื่อสารถึงความเป็นเอไอที่ไม่ซับซ้อนทางความคิดและหัวใจได้อย่างยอดเยี่ยมจนสุดท้ายใครจะไม่เจ็บปวดไปกับเธอแน่นอนเธอสามารถขโมยซีนได้เป็นพักๆ สองคือ Gemma Chan ในบท Maya ที่เป็นตัวแปรสำคัญที่ขาดเธอไม่ได้ต่อให้หายไปในบางเวลาและทำได้เพียงแค่กล่าวถึงก็ยังมีผลกับตัวเรื่องเพราะเมื่อตอนที่ปรากฎตัวเธอได้ปักหมุดตัวละครไว้ในใจคนดูแล้ว และสาม John David Washington ในบทพระเอกที่ไม่ต้องแบกเรื่องเพราะองค์ประกอบและพลังหนุนจากนักแสดงสมทบทำให้เป็นหนังของเขาที่เขาไม่ต้องใช้พลังดารามาแบก พอเอ่ยถึงพลังดาราก็คิดว่ามีหลายอย่างที่เขายังสลัดไม่หลุดจากเงาพ่อของเขาและในเรื่องนี้คือสำเนียงการพูดและน้ำเสียงส่วนเรื่องการแสดงมิติอื่นไม่มีอะไรให้ติเป็นความบันเทิงที่มาพร้อมคุณภาพในทุกทางทำให้หนังออกมาสนุก ถ้าว่ากันที่การเล่าเรื่องหนังมีการเล่าเรืองที่สนุกเดินหน้าไปอย่างมั่นคงแม้จะเล่าไปตรงๆแต่หนังก็ไม่ได้มาเพื่อให้ต้องคิดคาดเดาอะไร ส่วนถ้าว่ากันที่ความหมายถ้าจะคิดก็ย่อมได้กับเรื่องของความเป็นมนุษย์ที่เริ่มแปดเปื้อนไปด้วยเรื่องของผลประโยชน์ให้สามารถตีความได้ว่าจะเป็นมนุษย์แบบไหน ถ้าว่ากันที่เรื่องเชิงเทคนิคหนังมีงานด้านภาพที่เนี้ยบงานด้านโปรดักชั่นที่โชว์คนทั้งโลกให้เห็นถึงฝีมือคนไทยได้สบาย แล้วเมื่อเป็นหนังแอ็กชันไซไฟที่ต้องมีฉากแอ็กชันให้ตื่นเต้นเร้าใจได้ลุ้นหนังจึงเป็นความบันเทิงที่มาพร้อมคุณภาพในทุกทางสามารถเรียกได้ว่าเป็นหนังดีได้อย่างไม่อายปาก เมื่อหนังมาพร้อมทั้งความสนุกตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจก็ไม่มีอะไรต้องตำหนิเพราะการดูเรื่องนี้เป็นความบันเทิงที่คุ้มค่าทุกนาทีที่ยังเสียดายงานด้านภาพและเสียงที่มีมิติแบบนี้ไม่ได้ดูในโรงจอยักษ์ อ้อลืมไปว่าในฐานะคนเหนือผู้เขียนรู้สึกตื่นหูเมื่อมีภาษาเหนือที่อาจแปร่งๆไปบ้างไปอยู่ในหนังระดับนี้ที่มีทุกภาษาเหนืออีสานกลางหรือมีไต้ด้วยแต่ไม่ทันสังเกตให้ได้รู้สึกดีไปอีกแบบดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3,4,5,6,7 / ภาพที่ 8 จาก Instagram creatorthefilm ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/8wv1DxRyyPrVhttps://entertainment.trueid.net/detail/2gKa2pkZr4Oqhttps://entertainment.trueid.net/detail/74En2eBPBw39 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !