Alice In Borderland : อลิสในแดนมรณะ ทั้งซีวัน 1 และ ซีซัน 2 นับได้ว่าประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของคำวิจารณ์และเรื่องราวของทั้งคอมังงะและแฟนซีรีส์ เพราะว่าตัวซีรีส์นั้นทำออกมาได้ดีมากๆ ในฐานะของผู้เขียนที่เคยได้สัมผัสกับผลงานมังงะมาก่อนที่เขียนโดยอาจารย์ ฮาโระ อาโซ ที่มีผลงานออกมาถึง 18 เล่ม นับว่าเป็นความสำเร็จในด้านของมังงะกันเลยที่เดียวเพราะกระแสตอบรับของเรื่องนี้ก็มีมาไม่น้อย พอมาถึงการนำไปทำเป็นฉบับไลฟ์แอ็กชัน ก็นำว่ายอมใจฝั่งของคนทำที่ทำออกมาได้ดีอย่างไร้ที่ติ ผู้เขียนว่าอย่างนั้น และเป็นความพยายามอย่างมาที่จะทำให้เรื่องนี้ประสบความสำเร็จมากขึ้นไปอีกเพราะเรื่องแรกเลยที่ผู้เขียนเห็น คงหนีไม่พ้นในเรื่องของคำว่าการหานักแสดงมาให้เข้ากับตัวละครที่เขาได้เล่น Alice In Borderland : อลิสในแดนมรณะ ได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง Shinsuke Sato มาดูแลงานกำกับทั้งหมด 16 ตอน ที่ออกฉายตั้งแต่ปี 2020-2022 นับว่าเป็นการเดินทางที่สง่างามและจบได้อย่างสวยงามอีกเรื่อง Kento Yamazaki รับบทเป็น Ryohei Arisu / Tao Tsuchiya รับบทเป็น Yuzuha Usagi / Nijirô Murakami รับบทเป็น Shuntaro Chishiya เเละอื่นๆอีกมากมายเมื่อซีรีส์ที่ต้องบอกว่าสร้างจากมังงะ เหมือนตรงไหนต่างอย่างไรอันนี้ผู้เขียนว่าไม่น่าจะใช้ประเด็นใหญ่แต่ที่น่าสนใจคือ ซีรีส์เรื่องนี้ตัดตรงนั้นเสริมตรงนี้และมันออกมาดีต่างหากล่ะที่น่าสนใจเล่าย่อๆเมื่อแสงหนึ่งวาวขึ้นบนท้องฟ้าสิ่งที่สายตาของสามตัวละครได้พบนั้นคือพลุ เรื่องราวเล่าถึงคนกลุ่มหนึ่งที่หลงเข้าไปติดอยู่ในโลกที่ร้างผู้คน โลกที่ซึ่งผู้คนเล่านั้นต้องหาทางเอาชีวิตรอดด้วยการเล่าเกม โลกที่โหดร้ายเมื่อหาผู้เล่นแพ้ก็ต้องตาย ไม่เล่นก็ต้องตาย พวกเขาจึงรวมตัวกันเป็นกลุ่มๆทั้งดีและไม่ดี บางกลุ่มเป้าหมายเพื่อออกไปจากนรกนี้ บางกลุ่มก็ชอบที่ไม่ต้องไปเป็นคนเดิมบนโลกใบเก่า เมื่อเกมทั้งหมดถูกเคลียร์สำเร็จพวกเขาจะกลับสู่โลกเดิมได้หรือไม่ต้องติดตาม“กล้องพร้อม นักแสดงพร้อม เทปเดิน…ซีน 1 คัท 1 เทค 1…แอ็กชัน”1 ซีน (Scene) คือ “ฉาก” ว่าด้วยเรื่องของฉาก / นับว่าประสบความสำเร็จสุดๆในหลายๆด้าน วันนี้เรามาว่ากันในเรื่องของงานฉากต่างๆผู้เขียนของยกมาแค่ไหนซีรีส์ งานต่างๆในซีรีส์ถือว่าทำออกมาได้ดีและมีจุดต่างๆที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยที่เดียวสำหรับเรื่องนี้ ก่อนอื่นที่ผู้เขียนมักจะเห็นหลายๆคนบอกว่าทำออกมาได้ไม่ดีเท่ามังงะเลย ไม่ว่าจะเป็นการลพดับฉากหรือแต่แต่ตัวละครต่างๆในฉาก แต่จริงๆแล้วเราต้องแจกให้ออกก่อนว่ามังงะกับซีรีส์มันเป็นสื่อคนละอย่างกัน ลายละเอียดในการทำก็ต้องต่างกันอย่างเป็นได้ชัด ซีรีส์เน้นการสร้างฉากที่ดูจะมีความเป็นญี่ปุ่นอยู่นิดๆและเริ่มไต่ละดับความวินาศสันตะโรขึ้นทีละเล็กละน้อยในแต่ละตอน เราเหล่าคนดูจะได้เห็นฉากต่างๆที่อลังการงานสร้างอย่างมากมาย ทั้งในเรื่องของ CGI การเดินเรื่องของตัวละครหรือแม้แต่การปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจนั้นก็คงจะหนีไม่พ้อเรื่องของ ตอนพิเศษ ที่ซีรีส์ใส่เข้ามาได้อย่างสวยงาม เพราะในมังงะเอง อาจารย์ ฮาโระ อาโซ ได้นำเสนอเรื่องของตอนพิเศษเหล่านี้เข้ามาเป็นตอนที่เกือบจะยาวเท่าเส้นเรื่องหลัก แต่ซีรีส์ก็ไม่น้อยหน้าเพราะใส่เข้ามาได้อย่างดีเช่นกันและใส่เข้ามาเป็นการอธิบายถึงตัวละครได้เป็นอย่างดี และที่น่าสนใจและต้องยอมรับว่าซีรีส์ทำได้ดีนั้นก็คือการเปลี่ยนฉากเปลี่ยนตัวละครต่างๆให้เราเหล่าคนดู เข้าใจฉากต่างๆได้ง่ายขึ้นเพราะหากจะใส่เข้ามาแบบจัดเต็มเหมือนในมังงะ ผู้เขียนต้องบอกเลยว่าอาจจะไม่ได้ดีเท่าตอนนี้ก็เป็นได้2 คัท (Cut) คือ “มุม”ว่าด้วยเรื่องของบท / ต้องบอกว่าบทซีรีส์ทำออกมาได้ดีมากๆ การเล่าเรื่องที่เคารพต้นฉบับนิดๆ ใส้สีตีไข่หน่อยๆ มันเป็นเสน่ห์ที่ลงตัวอย่างน่าเหลือเชื้อ ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ถอนคำสาปจะซีรีส์ที่สร้างหรือดัดแปลงมาจากมังงะอีกเรื่องก็ว่าได้ เพราะไม่ได้เคารพต้นฉบับจนโงหัวไม่ขึ้น หรือที่ผู้เขียนมักจะบอกว่าคิดเองไม่ได้ หรือไม่ได้ออกทะเลคนหาฝั่งไม่เจอ หรือที่ผู้เขียนบอกว่าดูไม่ดูก็มีค่าเท่ากัน ต้องยกนิ้วให้ทีมเขียนบทซีรีส์ที่เอาใจทั้งแฟนมังงะและแฟนซีรีส์ที่ทำให้เราได้ดูเรื่องราวที่แสนสนุกได้ถึงเพียงนี้ อย่าง Haro Aso / Yasuko Kuramitsu / Shinsuke Sato / Yoshiki Watabe ที่น่าสนใจคือการที่ตัวละครในซีรีส์ออกไปตามล่าคิงส์โพธิ์ดำ ในบทต้นฉบับจริงๆมังงะไม่ได้รวมความเป็นแฟนเซอร์วิสอะไรมากมายขนาดนั้น แต่จะเป็นเรื่องราวของอางูนิมากกว่าที่ร่วมต่อสู่กัน โดโด ฮายาโตะ (ในซีรีส์ไม่ได้ใส่มา) และที่ที่เล่าบทของตัวละครที่เหมือนกันกับ อาริสุ คงจะเป็นอะไรที่ซับซ้อนเกินไปทีมเขียนบทก็เลยเปลี่ยนใหม่ ให้กลุ่มตัวละครที่รอดตายมาร่วมตัวกันเพื่อต่อสู่และตับบทของ โดโด ฮายาโตะ ออกแบบนี้ผู้เขียนมองว่าดีมากๆ แต่ก็น่าเสียดายที่ซีรีส์ทำออกมาได้ดีมากๆ แต่สุดท้ายแล้วเมื่อถึงเกมสุดท้ายก็ต้องเป็นไปตามที่ มังงะต้นฉบับทำเอาไว้ แต่ผู้เขียนก็แอบเสียดายนะเพราะตัวบทปูให้มาเจอกันหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนามมาก แต่ก็ต้องมาแจกจากกันในตัวต้นฉบับ ถึงจะขัดใจแต่ก็สวยงาม 3 เทค (Take) คือ “จำนวนครั้งที่เล่น”ว่าด้วยเรื่องของตัวละคร / เหมือนมีการนำกลับมาทำเป็นเวอร์ชันคนแสดงแล้ว ส่วนหนึ่งที่ผู้เขียนจนใจมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นเรื่องของคาแรคเตอร์ของตัวละคร ที่ได้ตรงบ้างปรับเปลี่ยนบ้าน แต่ที่รวมๆคือความดีงามมันก็มีในทุกตัวละคร อย่างตัวละครที่ ยามะพี แสดง ในมังงะถือได้ว่าเป็นตัวละครที่มีความโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของแนวคิดการใช้ชีวิต เข้าใจโลกเข้าใจทุกสิ่ง ทรงผมหน้าตาก็ดูคนละอย่างเลยกับในฉบับของซีรีส์ แต่การเปลี่ยนในครั้งนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ ที่เปลี่ยนคาแรคเตอร์ใหม่เกือบทั้งหมด ให้มีความเป็นคนคิดเยอะทั้งสีหน้าแววตาท่าทาง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเหลือไว้ให้เราเหล่าคนดูได้เห็นคงจะเป็นการเปลือยเปล่าของที่ยังคงไว้ให้เหมือนต้นฉบับอยู่ อีกหนึ่งตัวอย่างตัวละครคนขายหมวกที่ในมังงะราวกับว่าเป็นอะไรที่น่ากลัวโผล่มาแต่ละทีนี้เหมือนกับผี แต่ในซีรีส์ตัวละครตัวนี้กลับมาความสุขุมนุ่มลึก มีแนวความคิดดูเป็นคนดีหน่อยๆ ตัวร้ายนิดๆ และมักจะมีอะไรต่อมิอะไรสอดแทรกเข้ามาได้ตลอดเวลา และที่สำคัญที่สุดและน่าจะเป็นแฟนเซอร์วิสที่สุดของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้อย่าง ตัวละครที่เป็นผู้หญิง ที่ต้องบอกเลยว่าจะสร้างทั้งทีการหานักแสดงที่เป็นกลุ่มหญิงสาวต้องมีอะไรที่มากกว่ามังงะ และเรื่องนี้ก็ทำจริงๆเพราะใส่เข้ามาแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย นับได้เลยว่าเป็นการเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่เข้าท่าเข้าทีแบบสุดๆ อย่างไรก็ตามการตีความหมายของตัวละครใหม่ในครั้งนี้ก็จะมีหลายๆกลุ่มบอกว่าไม่เหมือนมังงะไม่ดีบ้างนั้นก็เป็นเรื่องที่ ผู้อ่านต้องดูเองถึงจะตัดสินใจได้ แต่สำหรับผู้เขียนมองว่าดีที่เลือกทำแบบนี้เพราะมันสนุกอย่างเห็นได้ชัด 4 Slate คือ ป้ายที่เขียนบอก ซีน คัท เทคว่าด้วยเรื่องของความหมาย / “ไม่มีที่ไหนที่มันปลอดภัยกับชีวิต” เป็น Dialog ที่สื่อความหมายได้อย่างดีและสวยงาม เอาเข้าจริงๆซีรีส์เรื่องนี้มันนำเสนอแนวคิดของความโหดร้ายในชีวิตได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แต่เล่าเรื่องราวผ่านโลกที่โหดร้ายยิ่งความโลกแห่งความเป็นจริง เพราะต้องเล่นเกมต้องฆ่าคนที่เรารักเพื่อที่จะให้ได้อยู่ต่อไปได้อีกวัน และกลุ่มคนที่มาในโลกนี้กลับมีแต่คนที่มีปมอะไรบางอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนตกงาน รักที่ไม่สมหวัง มีความผิดในชีวิต ทำความผิดร้ายแรงมีคดีติดตัว โกงกินเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ คนที่มีความเศร้าและออกมาจากจุดนั้นไม่ได้ รวมไปถึงคนที่ต้องหนีหายเพียงเพราะว่าในชีวิตนี้ไม่ได้เป็นดั่งที่ใจต้องการ และการที่ตัวละครทั้งหลายต้องมาเผชิญเรื่องราวเหล่านี้ต้องดิ้นรนทั้งในโลกความจริงและโลกในแดนมรณะ เป็นอะไรที่น่าสงสารอยู่หน่อยๆ เพราะว่าไม่มีที่ไหนปลอดภัยกับชีวิตของพวกเขาจริงๆ แต่ก็เป็นโลกที่เปิดให้เห็นฐาตุแท้ของมนุษย์ได้ง่ายๆเช่นกัน นิรากิ คือตัวละครที่มีมิติอีกตัวหนึ่งที่ผู้เขียนชอบมากๆ เพราะเข้าคือคนที่โดนทำร้ายมาตลอดจนมาอยู่ในโลกใบนี้เขาจึงกลายเป็นคนที่โหดร้ายเพราะโลกเดิม มันมีแต่ความโหดร้ายที่หลอมให้เขากลายเป็นแบบนั้น กับ Dialog ที่ว่า “พวกข่มขืน อันธพาน ต้มตุ๋น วางเพลิง ฆาตกรรม รู้ไหมทำไมเรื่องพวกนี้ถึงมีโทษตามกฎหมาย…รู้หรือเปล่าว่าทำไมกฎหมายถึงสั่งห้ามเอาไว้ เพราะมันคือสันดานของคนไง ถ้าปล่อยเอาไว้มนุษย์ก็จะปล้น ฆ่า และข่มขืน นั่นแหละที่เรียกว่าสันดานคน แต่ที่นี่ไม่มีสิ่งที่เรียกว่ากฎหมาย จะมาห้ามกันมันก็เสียดายของตายชัก เพราะไอ้สันดานคนนี่แหละคือพลังของมนุษย์ไงเล่า” จาก Dialog ในนาทีที่ 31.29 ของซีซันที่ 1 EP ที่ 6 เป็นอะไรที่ทรงพลังมากๆและผู้เขียนก็เห็นตรงกันว่าวันหนึ่งหากเราไม่ได้ถูกคุ้มครองด้วยกฎหมาย โลกใบนี้คงจะเห็นความดิบเถื่อนมากมายแน่ๆ เพราะขนาดมีกฎหมายโลกยังวุ้นวายขนาดนี้ เป็นอะไรที่น่าสนใจและชวนคิดตามได้จริงๆ เพราะดินแดนมรณะนี้นี้ คือตัวตนที่แท้จริงของโลกใบนี้5 “คัท !!!!”เป็นซีรีส์ที่ผู้เขียนดูหลายรอบอยู่พอสมควร ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าหาจุดจับต่างๆว่ามุมมังงะกับซีรีส์ดีต่างกันอย่างไร การใส่เรื่องราวและปรับระดับให้เส้นเรื่องมีความเข้มข้นมากขึ้น ซีรีส์ทำออดมาได้ดีกันจริงๆและในด้านของคาแรคเตอร์ของตัวละคร ที่ต้องบอกว่าบางทีก็ทำออกมาได้ดีกว่าต้นฉบับเสียด้วยซ้ำ เพลงประกอบก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเพราะได้เพลงอย่าง Sam medina - Good times มาสร้างความสนุกในเรื่องนี้ได้อย่างไม่เคอะเขิน และเรื่องของ Easter Egg ก็ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจต่างเกมที่เล่นต่างๆ ทำให้เราเหล่าคนดูคิดตามและล้นตามได้ในทุกฉากทุกตอน Mood and Tone ถือว่าผ่านเล่าเรื่องผ่านบทที่เรียบเรียงมาเป็นอย่างดีและการตีความใหม่ได้อย่างสวยงาม ด้านของเหล่านักแสดงนี้ไม่ต้องพูดอะไรมากมายเพราะดีงามกันทุกคนอยู่แล้ว และอย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าในมังงะต้นฉบับเป็นมังงะเด็กผู้ชายก็จริงแต่ตัวละครที่เป็นผู้หญิงในมังงะไม่ได้เป็นอะไรที่ดูว้าวได้ขนาดนั้น แต่ทีมสร้างเหมือนรู้ว่าตั้งขยี้ตรงนี้เพื่อที่จะมาเอาใจเราเหล่าคนดูได้ถูกจุด ในด้านของคาแรคเตอร์ก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะหาเหล่านักแสดงที่ตรงตามต้องการแล้วการใส่สีแต่ความใหม่ก็น่าสนใจไม่น้อยกันเลยทีเดียว และที่เด่นสุดคือการขยี้ประเด็นตกผลึก เมื่อถึงสิ่งที่เข้าตาจนสันดานจริงๆของคนจะออกมาเรื่องนี้ได้เสนอมันอย่างตรงไปตรงมาอย่างไม่เคอะเขิน และอีกสิ่งที่น่าสนใจคือแนวเกม อย่าง โพธิ์ดำ แนวเอาตัวรอด / โพธิ์แดง แนวจิตวิทยา / ข้าวหลามตัด แนวใช้สมอง / ดอกจิก แนวทีมเวิร์ค / หัวใจ แนวเล่นกับจิตใจคน / ไพ่หน้าคน(JQK) ระดับความยากกว่าไพ่ตัวเลข แต่ยังคงแนวเกมไว้ เป็นแนวคิดที่ดีมากๆเลยก็ว่าได้ชอบประโยคนี้ (พวกเรายังมีชีวิตอยู่นะ ยังต้องเผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง และก็สู้ไปจนถึงวาระสุดท้าย)(สิ่งหนึ่งที่คนดูอย่างผู้เขียนเห็นคือความตั้งใจของทีมผู้กำกับทีมนักแสดง คะแนนเต็มแบบไหนอย่างไรไม่ควรนำมาตัดสิน กับเรื่องของภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม "คะแนนของคุณไม่ใช่คะแนนของใคร ที่สำคัญกำลังใจย่อมดีกว่าการตัดสินด้วยคะแนน" ผู้เขียนจะย้ำอยู่เสมอ สิบปากว่าไม่เท่าตาคุณเห็น ต้องชมเองให้ได้เท่านั้น)#จิปาถะและอรรถรสขอบคุณภาพประกอบจาก Netflix - ปก / 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9 / 10 / 11 / 12 / 13 / 14 / 15 / 16 / 17ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก End Credits ท้ายเรื่อง และการเป็นแฟนเดนตายผู้กำกับภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักเขียนบทภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักแสดงทุกท่านทีมสร้างภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกมทุกคนและบริษัทและค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกมและในวันนี้ก่อนจากกันไปบอกเราหน่อยว่าผู้อ่านเป็นแฟน Alice In Borderland : อลิสในแดนมรณะ เพราะอะไร อย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจ แล้วท่านจะไม่พลาดเหล่าคอนเทนต์ใหม่ๆที่ทาง จิปาถะ และ อรรถรส จัดมาให้แบบ Exclusive เจาะลึกถึงวงการบันเทิงที่มากกว่าใคร หากคุณรักภาพยนตร์ รักซีรีส์ อนิเมะ แอนิเมชัน และเกม ที่เดียวที่ จิปาถะ และ อรรถรสเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !