รีเซต

รีวิวหนัง "หลานม่า" อบอวลฟีลอบอุ่น กลั้นน้ำตาเป็นลิตรเอาไว้ไม่อยู่ในรอบหลายปี

รีวิวหนัง "หลานม่า" อบอวลฟีลอบอุ่น กลั้นน้ำตาเป็นลิตรเอาไว้ไม่อยู่ในรอบหลายปี
Jeaneration
2 เมษายน 2567 ( 12:00 )
3.4K

นี่คือผลงานหนังเรื่องแรกในปี 2567 จากค่ายหนังอารมณ์ดี จีดีเอช ที่คงต้องบอกว่าเป็นการกลับมาคืนฟอร์มได้อีกครั้ง หลังจากที่เป๋ไปนิดหน่อยจากผลงานเมื่อปีที่แล้ว คัมแบ็กมาด้วยหนังดรามาครอบครัวในช่วงจังหวะดี ๆ อย่าง "หลานม่า" ที่เหมาะเจาะกับช่วงเข้าเทศกาลเช้งเม้งและวันสงกรานต์ ที่ครอบครัวจะได้มีโอกาสกลับมาพร้อมหน้ากันอีกครั้ง แล้วยังดันตรงจุดตรงใจกับประเด็นที่แตะต้องสถาบันครอบครัวแบบไทได้อย่างจัง ๆ 

หลานม่า เป็นเรื่องราวของ เอ็ม ที่ตัดสินใจดร็อปเรียนเพื่อหวังจะมาเอาดีกับการเป็นนักแคสต์เกม แต่กลายเป็นว่าไม่รุ่ง เขาจึงได้แรงบันดาลใจมาจาก มุ่ย ลูกพี่ลูกน้องที่ดูแลอากงป่วยระยะสุดท้าย ก่อนจะได้รับมรดกเป็นสิบล้านบาท เขาจึงอาสาไปดูแลอาม่าที่พบว่าเป็นมะเร็งระยะลุกลาม กับความหวังที่อยากได้ดอกได้ผล กลายเป็นกลับมาสานสัมพันธ์ครอบครัวอีกครั้ง ท่ามกลางความแตกต่างระหว่างหลานกับอาม่าที่อายุห่างกันกว่า 50 ปี

"พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์" ผู้กำกับหนุ่มที่จีดีเอชได้ฟูกฟักมาเป็นอย่างดี นักสร้างหนังหนุ่มรุ่นใหม่กำลังมีไฟที่ผ่านผลงานซีรีส์ปัง ๆ ของค่ายมาหลายเรื่องแล้ว และนี่คือก้าวสำคัญของอาชีพของเขาอีกครั้ง ด้วยการขึ้นมาเป็นผู้กำกับและร่วมเขียนบทหนังเรื่องแรกของเขา ที่เป็นโปรเจกต์ที่พยายามปลุกปั้นกันมาสักพักใหญ่ ๆ ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 กลั่นกรองออกมาเป็นหนังครอบครัวที่อบอวลไปด้วยน้ำตาที่ไม่ใช่การฟูมฟาย

ในแง่องค์ประกอบงานสร้างนั้น หลานม่า ก็ถือว่ากลับมาลงร่อยลงรอยของการเป็นหนังที่มีลายเส้นแบบจีดีเอชอยู่ในหลาย ๆ จุด แต่กลับโดดเด่นด้วยงานภาพและวิสัยทัศน์ที่้เข้าถึงกลิ่นอายความเป็นครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวเชื้อสายจีนที่มีอยู่หลายแซ่ หลายตระกูล พร้อมกับดึงเอาเสน่ห์ของความเป็นครอบครัว และสังคมผู้สูงวัย มาใช้ร้อยเรียงออกมาด้วยมุมภาพที่ละมุนและสัมผัสถึงใจโดยแท้

เป็นตัวเลือกที่ชาญฉลาดมาก ๆ ที่หนังเรื่องนี้เลือกจะนำเสนอมุมมองครอบครัวเชื้อสายจีนที่เป็นชาวธนบุเรียน หรือฉากหลังเป็นชุมชนตลาดพลู และเส้นทางรถไฟสายมหาชัย ที่นับว่าเป็นโลเคชันที่ยังคงกลิ่นอายและความคลาสสิกแบบเก่า ๆ ที่เหมาะกับการหยิบนำมาใช้ให้เกิดเป็นประสิทธิผลที่ดี เพราะเชื่อได้เลยว่าหนังจะผลักดันทำให้เกิดเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ด้วยการดึงดูดให้เป็นการท่องเที่ยวตามรอย

แม้ว่าในแง่ของบทหนังนั้น หลานม่า จะยังค่อนข้างวนเวียนอยู่กับทรีเมนต์เก่า ๆ ที่กลายเป็นสูตรนิยมและสูตรสำเร็จที่เซฟตัวเองของค่ายนี้ไปแล้ว เอาจริง ๆ โครงสร้างของบทหนังเรื่องนี้แทบไม่มีอะไรแปลกใหม่ ตั้งแต่เริ่มจนจบก็เชื่อว่าคนดูน่าจะทราบดีว่าหนังต้องการจะเล่าไปในมุมไหนและทิศทางไหน แต่โชคดีที่การเล่าเรื่องและนำเสนอหนังเรื่องนี้มีจุดละเอียดอ่อนที่แทรกซึมเข้าถึงหัวใจคนดูได้โดยง่าย โดยเฉพาะการเล่นประเด็นสายใยครอบครัว กับสังคมไทยที่ยึดกลับสถาบันครอบครัวอย่างแนบแน่นเช่นนี้

จึงกลายเป็นว่า หลานม่า เต็มไปด้วยโมเมนต์ที่ชวนประทับใจเยอะแยะเต็มไปหมด ผ่านมุมองของตัวละครหลานกับอาม่า ที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นไม่ต่างกับคนธรรมดา ๆ ทั่วไปที่พบเห็นได้ทุกวัน นี่เป็นอีกครั้งที่จีดีเอชเลือกปั้นตัวละครนำที่มีความเทาในตัวเอง เพียงแต่ตัวละครนี้เป็นสีเทาที่น่าจะใกล้ชิดกับชีวิตประวันของมนุษย์ มีความรัก มีความโลภ กับอีกตัวละครนำที่เต็มไปด้วยความเหงากับความโรยรา ที่สองสิ่งนี้ถูกจับโยงเข้าด้วยกัน เป็นพลานุภาพที่อิ่มเอมไปตลอด 2 ชั่วโมง

แน่นอนว่าองค์ประกอบการแสดง..ก็คือเบอร์หนึ่งที่ชูหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่าง "บิวกิ้น พุฒิพงศ์" กับการแสดงหนังอย่างเต็มตัวเป็นเรื่องแรกของเขา ที่แทบจะไม่ต้องกังวลอะไรเลย บิวกิ้นก็คือนักแสดงชายรุ่นใหม่ที่เปล่งประกายรอบด้าน โดยเฉพาะเมื่อได้บทดรามาที่ทักษะกับความสามารถของเขารับมือได้สบาย ๆ ไม่ว่าจะเป็นซีนอารมณ์ หรือซีนทะเล้น เขายังเต็มเปี่ยมด้วยความเป็นเอ็มตลอด

โดยที่เราก็อ้าแขนต้อนรับนักแสดงหน้าใหม่ในวัย 76 อย่าง "ยายแต๋ว-อุษา เสมคำ" ที่ถือว่าเป็นดาราหน้าใหม่ที่ได้ชิมลางเล่นหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในชีวิต แล้วยายแต๋วก็รับมือกับงานหนักอึ้งออกได้ยอดเยี่ยม ชนิดที่เราการันตีเลยว่าจะต้องมีชื่อของคุณยายติดโผเข้าชิงรางวัลทางด้านการแสดงบนเวทีต่าง ๆ ในช่วงปลายปีนี้อย่างแน่นอน เพราะการแสดงที่ใช้ความเป็นธรรมชาติของผู้สูงวัยได้อย่างเหมาะเจาะ ส่งและรับบทกับบิวกิ้นได้อย่างลงตัว ทั้งคู่จึงกลายเป็นพลังที่ส่งเสริมให้หนังเรื่องนี้คือความกลมกล่อมที่กำลังพอดี

ขณะที่นักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ก็ปฏิเสธฝีมือไปไม่ได้เลย "ตู ต้นตะวัน" ก็คือดาวรุ่งที่ฝีมือไม้ลายมือของสาวน้อยคนนี้นับวันยิ่งจัดจ้านขึ้นเรื่อย ๆ เป็นอีกคนที่ถ้าได้มีโอกาสได้บทดี ๆ ถึงมือ น่าจะไปได้อีกไกลเลย "ดู๋ สัญญา", "เผือก พงศธร" และ "ครูเจีย สฤญรัตน์" ก็คือส่วนที่เข้ามาเติมเต็มทีมนักแสดงให้ทรงพลังยิ่งขึ้นอีก นี่ถือว่าเป็นดรีมทีมของแคสติ้งชุดใหญ่ที่น่าประทับใจมาก ๆ อีกเรื่องของหนังไทยในรอบปี

ไล่เรียงมายาวเยียด คุณผู้อ่านก็คงจะคิดว่าอวยเกินไปไหม? ต้องสารภาพตรง ๆ ว่าถ้าหนังน่าอวย ก็คงจะต้องอวย เพราะยอมรับเลยว่า หลานม่า เป็นหนังที่สร้างปฏิกิริยาเข้าถึงใจคนดูได้ดีอีกเรื่องในรอบหลายปีมานี้เลย น้ำตาและเสียงสะอื้นเบา ๆ ที่ออกมาระหว่างการดูหนังเรื่องนี้ ไม่ต่างกับความรู้สึกที่เป็นเหมือนจะ Based On ชีวิตของทุก ๆ ครอบครัว ที่เชื่อว่ามีหลายกิมมิกและหลายจุดในหนัง ที่จะต้องพ้องและคล้องจ้องกับชีวิตประจำวันที่เกี่ยวข้องกับคนที่บ้านไม่มากก็น้อย

หลานม่า จึงกลายเป็นหนังดรามาครอบครัวที่มาได้ลงล็อกลงจังหวะกำลังงาม ถึงแม้ว่าจะเป็นหนังที่ค่อนข้างเก็บตัวในฝั่งเซฟโซนของตัวเองไปสักนิด แล้วบางมุมก็แอบสัมผัสว่าเหมือนานโฆษณาประกันชีวิตเรื่องยาวสักชิ้นหนึ่ง แต่ใด ๆ แล้ว ข้อความหลักของหนังเรื่องนี้ก็ชัดเจนดี ซ้ำยังมาพร้อมกับทีมนักแสดงระดับดรีมทีม อาจจะปิดท้ายด้วยประโยคเชย ๆ ที่ว่า 'ดูแล้วอยากกลับไปกอดคนที่บ้าน' ก็มันเป็นจริงตามนั้น เพราะหนังได้กระตุ้นต่อมให้เราได้ทบทวนตัวเองขึ้นมาว่า "วันนี้เราได้มีเวลาให้เขาเท่าไหร่? และเขาจะยังมีเวลาอยู่กับเราถึงตอนไหน?"

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: หลานม่า

  • ประเภท: ดรามา / ครอบครัว
  • ผู้กำกับ: พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์
  • นำแสดงโดย: พุฒิพงศ์ อัสสรัตน์, อุษา เสมคำ, ต้นตะวัน ตันติเวชกุล, สัญญา คุณากร
  • ความยาว: 125 นาที
  • กำหนดฉายในไทย: 4 เมษายน 2024 (ในโรงภาพยนตร์)

Movie.TrueID METRIC: หลานม่า

  • ภาพรวม
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9/10)
  • การเล่าเรื่อง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)
  • การแสดง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9/10)
  • เทคนิคงานสร้าง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)
  • บทภาพยนตร์
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa