รีวิว Rainbow (สายรุ้ง) ภาพยนตร์สุดแหวกที่มีดีแค่ความแปลกแต่ไม่น่าจดจำ บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ Rainbow (สายรุ้ง)ภาพยนตร์นอกกระแสสุดอินดี้เรื่องล่าสุดจาก Netflix ได้รับแรงบันดาลใจมาจากมาจากนวนิยายคลาสสิกอย่าง "The Wonderful Wizard of Oz" เพียงแต่นำมาดัดแปลงและนำเสนอในมุมมองร่วมสมัย ด้วยตัวละครและโลกในยุคปัจจุบัน โดยจะบอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาวที่มีชื่อว่า Dora (รับบทโดย Dora Postigo) เด็กสาววัย 16 ปี ที่อาศัยอยู่กับพ่อเพียง 2 คน เธอเริ่มตั้งคำถามว่าแม่ของเธอเป็นใครและอยู่ที่ไหน จนท้ายที่สุดเธอก็ตัดสินใจเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปตามหาแม่ของเธอ แต่แล้วเธอก็ได้ไปพัวพันกับเรื่องราวน่าปวดหัว และได้พบกับเพื่อนใหม่สุดแปลกที่จะมาร่วมเดินทางไปกับเธอ ท้ายที่สุดแล้วเธอจะหาแม่ของเธอเจอหรือไม่ และในระหว่างทางเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Rainbow (สายรุ้ง) รับชมได้แล้ววันนี้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflixตัวอย่าง Rainbow (สายรุ้ง)รีวิว Rainbow (สายรุ้ง)สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องสีสันอันสดใสและความแปลกประหลาดของทั้งตัวละครและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่อง แต่ดูเหมือนว่าก็จะมีดีเพียงแค่เรื่องนี้เท่านั้น เพราะในส่วนอื่นๆ ยังนับว่าไม่สามารถเอาชนะหัวใจของผู้ชมได้ บทของเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนหรือลึกลับมากมาย แต่ก็อาจจะมีบางฉากบางตอนที่ทำให้เรารู้สึกงงและไม่เข้าใจได้ เรื่องราวปูแบบง่ายๆ ว่าดอร่าต้องออกตามหาแม่ของเธอที่หายไป จากนั้นเธอก็เริ่มออกเดินทางและต้องเจอกับเพื่อนร่วมทางสุดแปลกประหลาดหลายคน ซึ่งแม้ว่าบทจะไม่ได้มีความน่าสนใจเท่าไหร่ แต่การปูเรื่องก็ยังนับว่าทำได้ดีพอสมควร ที่ดีก็เพราะหนังจะนำเสนออะไรแปลกๆ ที่เราไม่ค่อยได้เห็น และความแปลกนี้เนี่ยแหละที่จะดึงเราไว้ให้ดูจนจบ ก็นับว่าเป็นความแปลกที่มีข้อดี นอกจากนี้หนังยังมีความเป็น Road Movie อยู่หน่อยๆ ด้วย ความแปลกประหลาดของเรื่องนี้มีมากมายไปหมด ทั้งตัวละครต่างๆ ในเรื่องที่มีลักษณะนิสัยผิดแปลกจากมนุษย์ทั่วไป คนหนึ่งเป็นชายที่น่าจะป่วยเป็นโรคอะไรซักอย่างทำให้เขาชอบพูดจาแปลกประหลาด อีกคนก็เป็นคนแก่ที่เบื่อชีวิตและกำลังจะปิดชีวิตตัวเอง ส่วนอีกคนก็เป็นคนผิวดำที่เป็นเกย์และไม่ได้รับการยอมรับจากพี่ชาย ส่วนนางเอกก็เป็นเด็กสาวที่ไม่มีแม่และกำลังตกเป็นผู้ต้องหาฆาตกรรม จากนั้นพอทุกคนที่เป็นเหมือนคนที่ถูกกีดกันจากสังคมได้มารวมตัวกัน จึงก่อเกิดกลายเป็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้น ซึ่งนับว่าเป็นมิตรภาพที่แปลกแต่ก็เหมือนเป็นการตอกย้ำว่าแม้ว่าคนบางคนจะแปลกประหลาดซักแค่ไหน แต่มนุษย์ก็ยังคงเป็นสัตว์สังคมและต้องการใครซักคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายฉากที่ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าคืออะไร อย่างเช่นในตอนจบที่ดูเหมือนว่านางเอกจะมีเวทย์มนต์ สิ่งเหล่านี้ทำเอาสับสนไปหมด แต่ส่วนตัวมองว่าเราไม่จำเป็นต้องเข้าใจมันก็ได้ เพียงแค่ดูและเพลิดเพลินไปกับมัน แต่ก็เพราะความไม่เข้าใจนี้นี่แหละที่ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่สามารถเอาชนะใจคนดูได้ส่วนในด้านการแสดงนั้นค่อนข้างอธิบายได้ยาก เพราะเรื่องนี้เป็นหนังแนวอินดี้ การแสดงของบางตัวละครมันจึงอาจจะดูแปลกๆ และดูเวอร์วังเกินเบอร์ไปบ้าง แต่ส่วนตัวมองว่ามันเป็นความตั้งใจของผู้กำกับ ที่ต้องการให้มันออกมาเป็นแบบนี้ เพื่อให้มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน แต่รวมทุกคนก็แสดงได้พอใช้ไม่ได้ย่ำแย่อะไรมากนัก สุดท้ายคือด้านการโปรดักชั่นที่นับว่าเป็นส่วนที่ดีที่สุดของหนัง ทั้งสีสันฉูดฉาดที่หนังเลือกใช้ก็นับเป็นส่วนที่โดดเด่น และน่าจดจำ รวมถึงเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละครแต่ละตัวก็ทำออกมาได้ดี โลเคชั่นต่างๆ ในเรื่อง ทุกอย่างทำออกมาได้ดีและอยู่ในโทนเดียวกัน รวมถึงเพลงประกอบที่ใช้ในเรื่องก็เพราะหลายเพลงด้วยเช่นกัน สรุปโดยรวมคือเป็นหนังแปลกๆ เรื่องหนึ่งที่มีเนื้อเรื่องพอดูได้ แต่หากใครชอบหนังอินดี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็น่าจะหลงรักหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก เพราะแม้ว่าเรื่องราวอาจไม่น่าจดจำ แต่งานศิลป์และการออกแบบในเรื่องนับว่าเป็นส่วนที่ทำให้หนังมีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ท้ายสุดนี้ผมขอให้คะแนนภาพยนตร์เรื่อง Rainbow (สายรุ้ง) ไว้ที่ 6/10 คะแนนสุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับชื่อเรื่อง : Rainbow (สายรุ้ง)แนว : แฟนตาซี, ก้าวข้ามพ้นวัยผู้กำกับ: Paco Leónความยาว : 117 นาทีระบบเสียง : บรรยายไทยและเสียงไทยช่องทางการรับชม : Netflixช่องทางอื่นๆในการติดตาม ละเลงหนังFacebook Fanpage : ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก By ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง :รีวิว Blonde (บลอนด์) ภาพยนตร์ชีวประวัติ มาริลิน มอนโร ผสมทั้งเรื่องแต่งและเรื่องจริง มาพร้อมองค์ประกอบศิลป์ที่สวยงาม แต่ดำเนินเรื่องช้าจึงอาจไม่ถูกใจทุกคนรีวิว Fullmetal Alchemist: The Final Alchemy (แขนกลคนแปรธาตุ: ปัจฉิมบท) ภาคสุดท้ายที่พอดูได้และดีกว่า 2 ภาคแรกรีวิว LOU (แกะรอยในความมืด) หนังแอ็คชั่นไล่ล่าเรื่องล่าสุดจาก Netflix เขียนบทอย่างเข้ม จัดเต็มความเรียล [มีพากย์ไทย]รีวิว ATHENA (อเธน่า) หนังแนวสงครามกลางเมืองจากฝรั่งเศส ถ่ายทอดได้อย่างสมจริงด้วยฉาก Long Take สุดเท่รีวิว Once Upon A Small Town (บันทึกรักในเมืองเล็ก) ซีรีส์รอมคอมดูง่ายเบาสมองจากเกาหลี เรื่องราวของตำรวจสาวจอมจุ้นกับสัตวแพทย์สุดซึนแหล่งที่มาของรูปภาพและวิดีโอภาพปก : ภาพที่ 1 จาก Twitter: NetflixPelisภาพประกอบ : ภาพที่ 1 Instagram: melaniapan / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 เครดิตภาพที่ 2-4 จาก Instagram: Netflixesวิดีโอ : Rainbow | Official Trailer จาก Youtube : Netflixห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป