ความสมจริง คือสิ่งที่ภาพยนตร์หลายเรื่องต้องการ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ไซไฟล้ำอนาคตขนาดไหน หากทำให้เหล่าคนดูเชื่อในเรื่องราวที่ปรากฏอยู่บนจอภาพยนตร์และมีอารมณ์ร่วมไปโลกใบนั้นที่ผู้กำกับสร้างขึ้นจนฉากสุดท้าย ก็เท่ากับว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นได้ทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีที่สุดแล้ว จึงเห็นได้ว่ามีผู้กำกับมากมายพยายามให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดของไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือใหญ่มากเพียงไหนเพื่อสร้างความสมจริงและความน่าเชื่อถือให้กับตัวภาพยนตร์มีหลายอย่างที่ผู้กำกับหลีกเลี่ยงการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิก และเลือกที่จะใช้ของจริงหรือสิ่งที่ใกล้เคียงในการถ่ายทำเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความสมจริงให้แก่ตัวภาพยนตร์มากกว่า เช่น ผู้กำกับมากฝีมือที่ขึ้นชื่อเรื่องความสมจริงอย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ระเบิดโรงพยาบาลที่สร้างขึ้นมาจริงๆในภาพยนตร์ The Dark Knight หรือ ทอม ครูซ ที่พยายามเล่นฉากเสี่ยงตายหลายๆฉากด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น กระโดดข้ามตึกระฟ้า ดิ่งพสุธา หรือแม้แต่เกราะอยู่ข้างเครื่องบิน ในภาพยนตร์แฟรนไชส์สายลับอย่าง Mission Impossibleแต่อย่างไรก็ตามมีหลายสิ่งที่เกินความสามารถของผู้กำกับและอาจก่อให้เกิดปัญหามากมายเกินกว่าที่จะนำของจริงมาใช้ในการถ่ายทำได้ หนึ่งในนั้นก็คือยาเสพติดนั่นเอง ปฏิเสธไม่ได้ว่ายาเสพติดปรากฏอยู่ในภาพยนตร์มากมายหลายต่อหลายเรื่องโดยเฉพาะเหล่าภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอาชญากรรม เป็นไปไม่ได้เลยที่ภาพยนตร์เหล่านี้จะตัดสิ่งผิดกฎหมายเหล่านี้ออกไป หากนำมาใช้ไม่ได้ แล้วฉากที่เราได้ดูในภาพยนตร์เหล่านั้นล่ะเขาใช้อะไรในการถ่ายทำออกมาให้ดูราวกับว่าเป็นของจริงโคเคนเรามักเห็นตัวละครในภาพยนตร์สูดยาเสพติดชนิดผงสีขาวนี้เข้าจมูกกันอยู่บ่อยครั้ง เพื่อความสมจริงทางทีมงานจึงจำเป็นต้องหาสิ่งที่คล้ายกันมาใช้และต้องไม่เป็นอันตรายกับนักแสดงที่จะต้องสูดมันเข้าไปด้วยมีตัวเลือกมากมายที่ถูกนำมาใช้แทนโคเคน ไม่ว่าจะเป็นผงนม(Powdered Lactose)ที่นำมาใช้ในภาพยนตร์ Horrible Bosses (2011) หรืออย่างภาพยนตร์สุดแสบอย่าง The Wolf of Wall Street (2013)ที่เลือกใช้ผงวิตามิน ดีในการถ่ายทำ หรือที่แปลกกว่านั้นคือการใช้ผงยาระบายของทารกมาทำเป็นกองภูเขาโคเคนในภาพยนตร์มาเฟียขึ้นหิ้งอย่าง Scarface (1983)ถึงแม้จะปลอดภัยแค่ไหน แต่การที่ต้องถ่ายทำหลายต่อหลายฉากทำให้นักแสดงบางคนได้รับผลจากการสูดดมสิ่งเหล่านี้มากเกินไป อย่าง โจนาห์ ฮิลล์ ใน The Wolf of Wall Street ที่สูดวิตามินดีเยอะเกินไปจนทำให้มีอาการหลอดลมอักเสบไปสามสัปดาห์ หรือแม้แต่นักแสดงรุ่นเดอะอย่างอัล ปาชิโน ในScarface ที่มีปัญหาการหายใจติดขัดอยู่นานหลังจากการสูดดมยาระบายชนิดผงของเด็กเฮโรอีนสารเสพติดอย่างเฮโรอีนก็ปรากฏอยู่ในจอภาพยนตร์บ่อยไม่แพ้โคเคนเช่นกัน แต่สิ่งที่ต่างกันก็คือการใช้เฮโรอีนนั้นต้องฉีดเข้าบริเวณเส้นเลือดตรงข้อพับ สิ่งที่เหล่าทีมงานหาวิธีถ่ายฉากนี้ออกมาให้สมจริงมีตั้งแต่ การใช้น้ำที่ไม่เป็นอันตรายฉีดเข้าบริเวณแขนจริงๆ หรือการสร้างเข็มฉีดยาปลอมที่เข็มจะหดกับเข้าไปเวลาสัมผัสกับผิวหนัง หรืออย่างในภาพยนตร์ Trainspotting (1996) ที่ใช้เข็มจริงกับน้ำผสมสีฉีดเข้ากับแขนเทียมถูกสร้างขึ้นมาใช้ในฉากกัญชาและบุหรี่แม้กัญชาและบุหรี่อาจไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมายใหญ่โตอะไรนักในต่างประเทศ แต่ก็มีนักแสดงหลายคนที่ปฏิเสธที่จะใช้ของจริงในการถ่ายทำ สิ่งที่ทางทีมงานคิดขึ้นมาเพื่อให้นักแสดงใช้สูบกันในฉากอย่างไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพนั้นมีหลายตัวเลือก ตั้งแต่การใช้ผงออริกาโน่ที่ถูกมวนให้เหมือนกัญชาเพื่อให้นักแสดงเด็กทั้ง 5 คนสูบในภาพยนตร์เรื่องThe Breakfast Club (1985) จนในปัจจุบันมีการผลิตกัญชาสมุนไพรที่ไร้สารTHCที่ทำให้เกิดอาการเมาหรือเคลิบเคลิ้มเพื่อใช้ในการถ่ายทำไม่ต่างกันกับบุหรี่ในโลกของภาพยนตร์ อย่างในทีวีซีรี่ย์สุดโด่งดังอย่าง Peaky Blinders (2014) ที่ตัวละครหลายต่อหลายตัวนั้นต่างสูบบุหรี่กันอย่างเอาเป็นเอาตาย คิลเลียน เมอร์ฟี หนึ่งในนักแสดงผู้รับบทตัวละครหลักของเรื่องเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่าเขาเคยให้ทางทีมงานช่วยนับว่าตลอดการถ่ายทำนั้นตัวละครของเขาสูบบุหรี่ไปกี่มวล คำตอบที่ได้กลับมานั้นชวนให้ตกใจเพราะตัวละครของเขาสูบไปถึง 3,000 มวลตลอดการถ่ายทำ นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ หากให้นักแสดงสูบบุหรี่จริงในการถ่ายทำ ทางทีมงานจึงเลือกใช้บุหรี่สมุนไพรที่ไม่มีสารนิโคตินให้เหล่านักแสดงใช้ในการถ่ายทำแทนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บางคนอาจสงสัยว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร ก็ใช้ของจริงในการถ่ายทำเลยสิ แต่หากคุณต้องเป็นนักแสดงถ่ายฉากเดิมซ้ำหลายต่อหลายรอบ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของจริงในฉากคงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเท่าไรนัก มีเครื่องดื่มมากมายที่มีความใกล้เคียงกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่าง ๆ ที่สามารถใช้ทดแทนกันได้ตั้งแต่ เครื่องดื่มวอดก้าที่มีสีใสและสามารถทดแทนได้ง่าย ๆ ด้วยน้ำเปล่า การใช้เบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์แทนเบียร์จริง ๆ หรือแม้แต่การใช้น้ำชาที่มีสีเข้มแทนเครื่องดื่มอย่างวิสกี้ เป็นต้นหากมองในอีกแง่มุมหนึ่งแล้ว ภาพยนตร์มากมายที่ปรากฏสิ่งผิดกฎหมายเหล่านี้อยู่ในเรื่อง อาจเป็นสื่อสำคัญที่เป็นตัวสะท้อนให้เราเห็นถึงความอันตรายและพิษภัยของยาเสพติด นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ถูกสะท้อนออกมาได้อย่างเด่นชัดนั่นคือความรุนแรงของปัญหายาเสพติดที่ยังคงเป็นเหมือนแฝงตัวเป็นดั่งก้อนเนื้อร้ายที่เกาะติดกับชีวิตของผู้คนและทุกสังคมมาอย่างยาวนานขอบคุณรูปภาพประกอบจาก IMDB รูปหน้าปก/ รูปที่1/ รูปที่2/ รูปที่3/ รูปที่4/ รูปที่5/ รูปที่6