8 หนังไซไฟไอเดียเจ๋ง ที่เราอยากให้คุณเจิมสักครั้ง by Kanin The Movie

ดูหนังออนไลน์

เชื่อว่าหนึ่งในภาพยนตร์ที่ใครหลายคนรอดูมากที่สุดประจำเดือนสิงหาคมนี้ก็คือ "Tenet" ผลงาน แอ็คชั่น-ไซไฟ เรื่องล่าสุดจาก คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์อันโดดเด่น และการนำเสนอที่ท้าทายผู้ชม แม้ว่าจะรู้เรื่องเกี่ยวกับหนังน้อยมาก ๆ แต่ไอเดียของการย้อนกลับที่ถูกดีไซน์ออกมาก็เพียงพอที่จะทำให้เราตื่นเต้นได้แล้ว

วันนี้เราเลยถือโอกาสหยิบเอา 2 ส่วนสำคัญจากหนังเรื่องดังกล่าว (ที่กำลังจะฉายสัปดาห์หน้า) มาเขียนถึงเสียหน่อยนั่นคือเรื่องของ “หนังไซไฟ” และ “ไอเดีย” โดยหยิบเอา 8 ภาพยนตร์จาก TrueID ที่โดดเด่นในประเด็นดังกล่าวมาไล่เรียงถึงความน่าสนใจ อย่างน้อย ๆ ก็สามารถดูบิวต์เพื่อรอวันฉายกันได้ ซึ่งจะมีอะไรบ้างมาลองดูกันเลยครับ

Arrival

ภาพยนตร์ ดราม่า-ไซไฟ ของผู้กำกับ เดอนี วิลเนิร์ฟ บอกเล่าเรื่องราวในวันหนึ่งที่สิ่งมีชีวิตนอกโลกเดินทางมาเยือนมนุษยชาติในรูปแบบของยานอวกาศทรงประหลาดที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก สิ่งที่น่าสนใจของ Arrival คือมันไม่ใช่หนังเอเลี่ยนที่พูดถึงการต่อสู้ หรือพยายามเอาชนะต่างดาว แต่เป็นการเรียนรู้ เข้าใจ และสามารถสื่อสารกับมันได้ ไอเดียของเรื่องทั้งหมดจึงถูกเล่าผ่านนักภาษาศาสตร์ที่ต้องถอดรหัสสิ่งที่เอเลี่ยนสื่อสารเพื่อล่วงรู้ให้ได้ว่าพวกมันมาที่นี่ทำไม และต้องการอะไรจากพวกเรา หนังจึงมาพร้อมกับความเข้นข้นในการพูดถึงภาษา เชิดชูสันติวิธี และพลังของการเข้าใจกัน ซึ่งมันออกมาดีมาก ๆ ใครที่ชอบภาพยนตร์ในรูปแบบของ Contact (1997) ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เป็นอีกหนึ่งงานไซไฟที่เรารู้สึกว่าเฉียบขาดมากๆ

Minority Report

ภาพยนตร์ แอ็คชั่น-ไซไฟ จาก สตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นของ ฟิลิป เค. ดิกซ์ บอกเล่าเรื่องราวของโลกอนาคตที่อาชญากรรมสามารถถูกคำนวนก่อนจะเกิดขึ้นจริงได้ ผ่านเทคโนโลยีที่สามารถคาดการณ์แนวโน้มที่มนุษย์คนหนึ่งกำลังจะก่อเหตุผิดกฎหมาย แต่กลับกลายเป็นว่าวันหนึ่งเจ้าหน้าที่กลับถูกคำนวนว่าจะเป็นฆาตกรเสียเอง ทำให้เขาต้องหนีการถูกไล่ล่า และหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด ขุดไปจนถึงรากเหง้าของเทตโนโลยีดังกล่าวให้ได้ -- นี่เป็นอีกหนึ่งงานไซไฟที่ไอเดียโดดเด่นตั้งแต่เห็นครั้งแรก เรื่องของเทคโนโลยีที่สามารถหยุดยั้งอาชญากรรมที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่มาพร้อมกับคำถามว่าเราสามารถเชื่อถือได้แค่ไหนในสิ่งนี้ การหยุดสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นถือว่าเป็นการต่อสู้กับอาชญากรรมจริง ๆ หรือเปล่า ประเด็นนี้หนังหยิบเอาเรื่องความยุติธรรม ความเป็นส่วนตัว มาผูกกับคอนเซ็ปต์ไซไฟได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ

The Truman Show

ภาพยนตร์ คอมเมดี้-ดราม่า-ไซไฟ ของ ปีเตอร์ เวียร์ (Master and Commander: The Far Side of the World, The Way Back) และบทภาพยนตร์โดย แอนดรูว นิคโคล (In Time, Lord of War, Gattaca) ที่ยังคงถูกกล่าวถึงมาจนทุกวันนี้ The Truman Show บอกเล่าเรื่องราวของ ทรูแมน เบอร์แบงค์ ชายธรรมดาคนหนึ่ง กับชีวิตอันแสนเรียบง่ายมีความสุข จนกระทั่งวันหนึ่งทุกสิ่งที่เขาเคยพบคนเห็นก็ถูกท้าทายขึ้น เมื่อทรูแมนได้พบกับอดีตคนรักที่พยายามบอกกับเขาว่าชีวิตประจำวันของเขาเป็นส่วนหนึ่งในเรียลลิตี้โชว์ที่ติดตามชีวิตของเขามาตั้งแต่เกิด จนทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่สำคัญที่สุดในโลกโดยไม่รู้ตัว -- หนังมีคอนเซ็ปต์ที่บ้าบอคอแตก แต่รายละเอียดปลีกย่อยกับสุดยอดไปกว่านั้นมาก ๆ รู้สึกว่ามันเป็นหนังที่ทันสมัย มาก่อนกาล แม้ว่าปัจจุบันเราจะไม่ได้เสพสื่อผ่านทีวี แต่เรื่องของเรียลลิตี้ การรุกล้ำชีวิต การสร้างโลกเสมือนจริงขึ้นมานี่มันปัจจุบันวันนี้สุด ๆ เพราะฉะนั้น แม้ว่าหนังจะมีอายุ 20 กว่าปี แต่ก็ยังทำงานเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนอยู่ดี

Ready Player One

ภาพยนตร์ ผจญภัย-ไซไฟ จากสปีลเบิร์กอีกเรื่องที่สร้างมาจากนิยายสุดล้ำของ เออร์เนสต์ ไคลน์ บอกเล่าเรื่องราวในโลกอนาคตที่ล่มสลาย มนุษย์ได้ย้ายชีวิตประจำวันของตัวเองเข้าไปสู่ OASIS ดินแดนจำลองที่พวกเขาสามารถเป็นอะไรได้มากกว่าโลกความเป็นจริง แน่นอนว่ามันคือวิดีโอเกม แต่เป็นเกมที่พาชีวิตพวกเขาไปไกลมาก ๆ มากกว่าที่ชีวิตจริง ๆ ของพวกเขาจะทำได้ โดย Ready Player One จะโฟกัสไปที่ภารกิจไขปริศนาตามหากุญแจเพื่อปลดล็อคไข่อีสต์เตอร์ของ ฮัลลิเดย์ ผู้สร้างเกม โดยเล่าผ่าน เวด เด็กหนุ่มธรรมดาที่จับพลัดจับผลูกลายเป็นคนแรกที่สามารถไขปริศนาเกมได้ -- หนังเต็มไปด้วยไอเดียเจ๋ง ๆ ที่จะทำให้คอหนัง คอเกม และเหล่าวัฒนธรรมป็อปต้องมีความสุขสุด ๆ ไปกับภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ยิ่งดูยิ่งสัมผัสได้ถึงความรักที่คนเขียน และคนทำ มีให้กับผลงานของตัวเอง

The Martian

ภาพยนตร์ ดราม่า-ไซไฟ จากผู้กำกับ ริดลีย์ สก็อตต์ ที่พล็อตอาจจะไม่มีอะไรมาก แต่ไอเดียหลังจากนั้นกลับสนุกสุด ๆ บอกเล่าเรื่องของ มาร์ค วัทนีย์ นักบินอวกาศที่ติดอยู่ในดาวอังคารระหว่างที่กลุ่มสำรวจของพวกเขาต้องหนีจากพายุร้ายแรง มาร์คไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยายามปรับตัว และสร้างชีวิตที่นี่ขึ้นเพื่อติดต่อสื่อสาร และหาทางกลับไปสู่โลกที่เป็นบ้านของเขาได้ The Martian จึงเป็นหนังไซไฟที่พูดถึงการพยายามเอาชนะขีดจำกัดของมนุษย์เมื่อตกอยู่ในสภาวะที่ต้องเอาตัวรอด ไปพร้อม ๆ กับการนำเสนอ ทฤษฎี และไอเดียที่ว่ามนุษย์จะสามารถอยู่บนดาวอังคารได้หรือไม่ ซึ่งทำออกมาสนุก แสบ และสร้างสรรค์มาก ๆ อารมณ์ขันที่กำลังพอดิบพอดี กับดราม่าที่ทำให้ใจหายอยู่เรื่อย ๆ ทำให้หนังออกมาเปี่ยมความรู้สึก และกลายเป็นหนึ่งในหนังอวกาศที่ใครหลายคนรักจนถึงวันนี้

Jurassic Park

อีกผลงานของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ Jurrassic Park เล่าเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์ที่เดินทางมาเยี่ยมชม จูราสสิค พาร์ค ธีมพาร์คบนเกาะอิสลา นูบลาร์ ที่ได้ทำการทดลองโคลนนิ่งไดโนเสาร์ให้กลับมามีชีวิตในโลกปัจจุบันอีกครั้ง ทุกอย่างดูงดงาม ยิ่งใหญ่ ราวกับนั่งไทม์แมชชีนกลับสู่ยุคโบราณ แต่แล้วเมื่อมีเหตุการณ์อันตรายที่ทำให้ระบบไฟฟ้าขัดข้อง กลุ่มครอบครัวผู้เยี่ยมชมจึงต้องหาทางหนี และเอาชีวิตรอดจากกลุ่มไดโนเสาร์ที่ไร้การควบคุมนี้ให้ได้ -- ต้องยอมรับเลยว่าจากวันนั้นถึงวันนี้ มันก็ยังเป็นหนังไซไฟที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรามาก ๆ อยู่ ไอเดียของการดึงยุคจูราสสิคให้กลับมาโลดแล่น พูดถึงการพยายามพิชิตธรรมชาติของมนุษย์ ราคาที่มนุษย์ต้องจ่ายไปกับความอันตรายนี้ช่างน่าสนใจมาก ๆ ใครที่เพลิดเพลินกับ Jurarssic World และยังไม่ได้ดูต้นฉบับของความสุดยอด ห้ามพลาดครับ

The Matrix Trilogy

ภาพยนตร์ แอคชั่น-ไซไฟ ที่ใครหลายคนยกย่องคารวะให้เป็นที่สุดของที่สุด แม้ว่าจะล่วงเลยมาเป็นระยะเวลา 2 ทศวรรษแล้วก็ตาม หลาย ๆ สิ่งที่ปรากฎใน The Matrix เป็นอะไรที่ล้ำยุค โดยเฉพาะการพูดถึง Vir-tual Reality หรือการจำลองความจริง ที่เหมือนมาก่อนกาลมาก ๆ เรื่องราวของชายออฟฟิศธรรมดาที่ได้รับข้อเสนอให้ตื่นกลับสู่โลกความเป็นจริง นำไปสู่สงครามระหว่างมนุษยชาติ กับต่างดาวที่ต้องการควบคุมมนุษย์ทุกคนไว้ในโลกจำลอง กลายเป็นผลงานไซไฟที่ทะเยอทะยาน เต็มไปด้วยประเด็น และไอเดียที่สุดขีดคลั่งตั้งแต่ความเป็นวิทยาศาสตร์ จนถึงศาสนา แม้ว่า 2 ภาคหลังจะไม่ได้รับการยอมรับเฉกเช่นภาคแรก แต่ก็ยังเป็นไตรภาคที่ทุกคนคู่ควรดูสักครั้งในชีวิตอยู่ดี

Inception

ภาพยนตร์ ไซไฟ-ทริลเลอร์ จาก คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ปีนี้มีอายุครบ 10 ปีพอดี Inception บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มจารกรรมความคิดที่ถูกดึงไปทำงานสุดหินนั่นคือการปลูกฝังความคิดเพื่อทำลายอาณาจักรธุรกิจคู่แข่ง โดยไอเดียสำคัญของหนังคือการพูดถึงเครื่องสร้างฝันที่เต็มไปด้วยกลไกเหนือจินตนาการภายใน หยิบเอาสิ่งที่ใกล้ตัวของเรามาพูด มานำเสนอ จนเกิดเป็นภาพยนตร์สุดล้ำ ซับซ้อน และพร้อมจะมอบสิ่งใหม่ ๆ ให้กับผู้ชมเสมอตลอด 2 ชั่วโมงครึ่ง และก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความยิ่งใหญ่ที่ Inception มอบให้กับโลกภาพยนตร์ในทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้เราคาดหวังกับ Tenet มาก ๆ ว่ามันอาจจะทำหน้าที่แบบเดียวกันอีกครั้งในทศวรรษนี้ ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าผลงานไซไฟที่ดูลึกลับซับซ้อนกว่าเดิมนี้จะไปถึงฝั่งฝนได้หรือไม่