รีเซต

รีวิวหนัง "หอแต๋วแตก แหกหลีหู" คงรักษามาตรฐานงานพชร์ กับกราฟความเพลิน..สูงขึ้นดีนะภาคนี้

รีวิวหนัง "หอแต๋วแตก แหกหลีหู" คงรักษามาตรฐานงานพชร์ กับกราฟความเพลิน..สูงขึ้นดีนะภาคนี้
Jeaneration
25 ธันวาคม 2568 ( 11:00 )
106

น่าจะเป็นจักรวาลหนังไทยที่ไม่มีทางจะปิดฉากอวสานลงได้ง่าย ๆ หรอก เพราะยังเป็นคอนเทนท์ที่ถ้าเรียกตามภาษากะเทยก็คือ 'ไปเรื่อย' ยังไปได้อีกเรื่อย ๆ กับเส้นเรื่องที่ผสมผสานเข้ากับความทะเยอทะยานใหม่ ๆ ของตัวละครดั้งเดิม ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ตามใจผู้สร้าง นั่นจึงทำให้การกลับครั้งนี้ของ "หอแต๋วแตก แหกหลีหู" กลายเป็นอีกหนึ่งอรรถรสความบันเทิงที่เหมาะเจาะถูกจริตแฟนหนังชาวไทย แม้ว่าหาสาระอะไรไม่ได้เลย แต่หนังได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่คู่กับวงการหนังไทย..แบบขาดไปไม่ได้

เมื่อฮองเฮาผู้ยิ่งใหญ่ได้สิ้นพระชมน์ลงเป็นปริศนา ทำให้เหล่าขุนนางปิดงำและหาทางคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมหาเบาะแสว่าผู้ใดอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ จึงจำเป็นต้องเชื้อเชิญสตรีที่มีใบหน้าละหม้ายคล้ายกับฮองเฮาให้มาสวมรอยชั้วคราว ทำให้นางได้ค้นพบกับร่องรอยแห่งความอิจฉาริษยาและปมแปดเปื้อนที่เปรอะไปทั่ววังหลวงของเหล่าสนมคนงาม กลายเป็นภัยรายล้อมที่นับแทบไม่ถ้วน

ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าในช่วงปีที่ผ่านมา "พชร์ อานนท์" อาจจะหลงใหลในคอนเทนท์ซีรีส์จีนแบบหมกมุ่นหรือเปล่า นั่นจึงกลายเป็นการตกผลึกกันเขาได้ตัดสินใจสรรหาทำเป็นหนังเรื่องนี้ออกมา หยิบเลือกมาจากบรรดาร้อยไอเดียคอนเซ็ปต์ที่เขาได้วางแผนเอาไว้ รังสรรค์มันออกมาให้กลายเป็นหนังเรื่องยิ่งใหญ่อลังการได้สำเร็จ ที่แน่นอนว่าเขาแทบจะรับหน้าที่ทุก ๆ อย่างเองในหนังเรื่องนี้ เป็นผู้สร้างที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับทุกภาคส่วนของหนังที่แท้ทรู

คือถ้าใครเป็นแฟนจักรวาลหนังชุดนี้ ตั้งแต่ 19 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ก็มักจะทราบกันดีว่า หอแต๋วแตก เป็นหนังที่ฟุ้งไปด้วยความทะเยอทะยานแบบไปเรื่อย จนได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนจดหมายเหตุของเมืองไทยในยุคนั้น ๆ แต่สำหรับ หอแต๋วแตก แหกหลีหู ในภาคนี้ก็ยังทำหน้าที่นั้นอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่ว่าดีกรีความจิกกัดเสียดสีสังคมปัจจุบันอาจจะไม่ได้โดดเด่นเหมือนทุกภาค เพราะกลายเป็นว่าหนังเรื่องนี้ให้ความสำคัญและใส่ใจในส่วนของเส้นเรื่องได้มากกว่าภาคก่อน ๆ ที่ผ่านมาอย่างชัดเจน

หอแต๋วแตก แหกหลีหู น่าจะเป็นภาคที่กลับมาเน้นสตอรี่และการเล่าเรื่องที่มีลำดับขั้นตอนมากกว่าภาคอื่น ๆ ที่ผ่านมาอีกครั้ง พี่พชร์ดูจะพยายามปั้นเส้นเรื่องออกมาได้ขันแข็งขึ้น กลายเป็นหนังหอแต๋วแตกที่มีเรื่องมีราวและมีที่มาที่ไปในหลาย ๆ แง่มุม ถึงแม้ว่าตัวบทหนังจะค่อนข้างหาสาระอะไรไม่ได้เลยก็ตาม อีกทั้งการปะติดปะต่อแง่มุมต่าง ๆ จะไม่ได้มีความเฉียบคมและร้อยเรียงได้ละเอียดสักเท่าไหร่ แต่กลายเป็นว่าองก์โดยรวม กลายเป็นหอแต่วแตกภาคที่ดูมีชั้นเชิงชัดกว่าทุกภาคในระยะหลัง ๆ ทั้งหมด

ขณะที่องค์ประกอบงานสร้างใน หอแต่วแตก แหกหลีหู ก็ยังกลับมาพร้อมมาตรฐานของพชร์ อานนท์ ที่สัมผัสได้เลยว่าเขาสร้างเนรมิตรผลงานออกมาจากจินตนาการส่วนตัวให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างที่จับต้องได้ ในแง่เซ็ตฉากและเทคนิคต่าง ๆ ก็ยังคงใช้ฝีมือในฐานะนักสร้างที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการหนังไทย 30 ปีได้ตามงานถนัด งานจะไม่ใช่งานสร้างที่เก็บรายละเอียดได้เนี๊ยบ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจในแง่การนำเสนอทุก ๆ ช็อต

อีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นก็คือ การดีไซน์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในหนังเรื่องนี้ เรียกว่าถูกจริตความคิดสร้างสรรค์อลังการของกะเทยยิ่งนัก ว่ากันว่า..ถ้าจับกะเทยมาอยู่ผ้าไหมอาภรณ์แล้ว ความบรรเจิดมักจะบังเกิดขึ้น และนั่นก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นของ หอแต่วแตก แหกหลีหู ที่ยอมรับเลยว่าการดีไซน์คอสตูมต่าง ๆ ทำออกมาได้วิจิตรตระการตา ตกผลึกแนวความคิดสร้างสรรค์ ตอกย้ำความล้ำเลิศของทีมงานเบื้องหลังการทำชุดของไทย ถึงเนื้องานจะไม่ได้ดูแพงอะไร แต่ก็ใส่ใจใส่เต็มในส่วนงานนี้ได้อย่างระยิบระยับ

และแน่นอนว่ากำลังหลักของหนังเรื่องนี้ก็คือทีมนักแสดงที่มาช่วยขับเคลื่อนความสนุก ซึ่งในภาคนี้เรียกได้ว่าเป็นภาคที่มีตัวละครเยอะสุด ๆ ไปเลย โดยที่คาแรกเตอร์หลัก ๆ ชุดดั้งเดิมยังคงกลับมาเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น "จาตุรงค์ พลบูรณ์", "โก๊ะตี๋ อารามบอย" และ "กัส วีรดิษฐ์" กลับมาสวมบทบาทที่เป็นส่วนใหญ่ของชีวิตพวกเขาได้เสียแล้ว และพวกเขาต่างก็รู้ดีว่าจะต้องจัดการบริหารตัวละครนี้อย่างไร และไปในทิศทางไหน ทำให้เป็นแกนหลักที่ประคับประคองตัวหนังเอาไว้ได้อย่างมีสีสัน

ในขณะที่ทีมนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นทีมอินฟูลเอ็นเซอร์ตัวท็อปในยุคปัจจุบัน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ถึงจะไม่ใช่นักแสดงจากเนื้อแท้ แต่อินเนอร์ของพวกเขาก็สู้ไม่เบา ไม่ว่าจะเป็น "แต๋ง อาฟเตอร์ยำ", "แพร์รี ไพรวัลย์", "จูดี้ จารุกิตต์" หรือ "เอแคลร์ จือปาก" ต่างพกพาพรสรรค์การเป็นนักแสดงจากอินเนอร์ของพวกนางมาบรรเลงสร้างทำการแสดงในหนังเรื่องนี้ได้อย่างออกรถออกชาติ ในลักษณะที่กำลังกลมกล่อมทำถึง

"แฉะ องอาจ" ที่โดดมารับบทบาทเด่นในหนังเรื่องนี้ ก็ไม่น่าเชื่อว่านักแสดงระดับฝีมืออย่างเขาจะปล่อยจอยในการละเลงทำการแสดงในหนังที่เต็มไปด้วยสีสันความสนุกสนานหาหมุดหมายไม่ได้ในเรื่องนี้ ซึ่งเขาก็ดูจะเป็นตัวละครที่มีสติที่สุดในเรื่องนี้แล้ว เช่นเดียวกับ "แพรว เฌอมาวีร์" ที่มาพร้อมกับการถ่ายทอดอินเนอร์ในแบบฉบับนักแสดงมีฝีมือ แบบว่าบทของเธอจะไม่ได้รับการส่งต่อได้ดีเท่าที่ควร แต่ก็ถ่ายทอดออกมาได้เต็มกำลังของนักแสดงระดับมืออาชีพที่ดี

หอแต่วแตก แหกหลีหู ก็น่าจะเป็นจักรวาลหนังที่ยังเซอร์วิสแฟน ๆ ได้เป็นอย่างดีอยู่ต่อไป และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาคนี้เป็นภาคที่สามารถพลิกกราฟความสนุกให้กลับมาผงาดขึ้นได้อีกครั้ง ในหลาย ๆ องค์ประกอบที่เหมาะเจาะลงตัว โดยเฉพาะการละเลงฟาดฟันทางการแสดงของแคสติ้งชุดใหญ่ของหนังเรื่องนี้ ถึงจะขนทัพกันมา 10-20 คาแรกเตอร์ แต่ทุกตัวละครไม่มีใครจมหายไปเลยสักคนเดียว

แม้ว่ามาตรฐานของหนังหอแต่วแตก็ยังคงอยู่บนบรรทัดฐานที่คุ้นชินจากฝีมือของพชร์ อานนท์ บทหนังอาจจะไม่ได้มีชั้นเชิงใด ๆ งานตัดต่อยังไม่เฉียบมากเท่าไหร่ แต่เรากลับพบว่า หอแต่วแตก แหกหลีหู มีพัฒนาการบางอย่างที่โดดเด่นขึ้นในทางดี เมื่อเปรียบเทียบกับภาคก่อน ๆ ที่ผ่านมา ถึงมันจะเป็นหนัง LGBTQ คงสไตล์การด่ากันแบบสับ ๆ ฟาดฟันแบบไม่เหน็ดเหนื่อยแบบเดิม แต่นั่นแหละ..เป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์ของหนังชุดนี้ที่ยังรักษาเอาไว้ได้อยู่

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง หอแต๋วแตก แหกหลีหู

  • ประเภท: ตลก / แฟนตาซี / สยองขวัญ
  • ผู้กำกับ: พชร์ อานนท์
  • นำแสดงโดย: จาตุรงค์ พลบูรณ์, ชัยกฤต อ่อนละม้าย, องอาจ เจียมเจริญพรกุล
  • ความยาว: 101 นาที
  • กำหนดฉายในไทย: 25 ธันวาคม 2025

Movie.TrueID METRIC: หอแต๋วแตก แหกหลีหู

  • ภาพรวม
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.1/10)
  • การเล่าเรื่อง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.0/10)
  • การแสดง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.1/10)
  • เทคนิคงานสร้าง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.7/10)
  • บทภาพยนตร์
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6.0/10)

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa