เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายเลยที่ตัดสินใจรีเมคภาพยนตร์ที่เคยได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยดและผู้กำกับยอดเยี่ยมในปี 1931 จากผลงานการกำกับโดย ลิวอิส ไมล์สโตน (Lewis Milestone) และ ผู้กำกับชาวเยอรมัน เอ็ดเวิร์ด เบอร์เกอร์ (Edward Berger) ก็ได้นำเอานวนิยายคลาสสิกอย่าง เอรัช มาเรีย เรอมาร์ค (Im Westen nichts Neues) มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์อีกครั้งในปี 2022นี้ กับการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของคนเยอรมันที่ไม่ได้มีสิ่งใดให้รู้ถึงความภาคภูมิ แต่เป็นความรู้สึกผิด หวาดกลัว สยดสยอง และเต็มไปด้วยความรับผิดชอบต่ออดีตที่ผ่านมา โดยได้ผลงานการเขียนบทจาก เเอียน สโตเคลล์ (Ian Stokell) เลสลีย์ ปีเตอร์สัน (Lesley Paterson) และ เอ็ดเวิร์ด เบอร์เกอร์ (Edward Berger) ผ่าน Netflixเรื่องย่อ: เรื่องราวของเด็กหนุ่มอายุ 17 พอล บาวเมอร์ (Paul Bäumer) (รับบทโดย Felix Kammerer) และสหายร่วมรบต่างตื่นเต้นไปกับการร่วมรบ แต่เมื่อพวกเขาได้เข้าไปประสบเหตุการณ์จริง ก็ได้ตระหนักถึงความรู้สึกหวาดกลัวและสิ้นหวังกับสงครามที่พรากชีวิตผู้คนที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อรักษาตัวเองให้รอดในสนามเพลาะแนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลงโดยเรื่องราวของ All Quiet on the Western Front มีชื่อไทย "แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง" นั้น กล่าวถึงความน่าสะพรึงกลัวของสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เหล่าพลเมืองได้ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร แล้วได้ค้นพบสัจจะธรรมในสงครามนั้น ล้วนเป็นเพียงเรื่องที่พรากชีวิตผู้คนไปอย่างเปล่าประโยชน์ พรากความเป็นมนุษย์ให้หลุดลอยหายไป เป็นหนังต่อต้านสงครามที่สะท้อนถึงผลการะทบที่เกิดขึ้น ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจของเหล่าทหาร ต่างต้องเผชิญความโหดร้ายในสงคราม ซึ่งส่วนนี้ที่ผู้กำกับเล่าออกมาเห็นเห็นได้อย่างดีและสามารถดึงดูดคนดูให้สนใจการเล่าเรื่องไปหนัง ตัวบทเองก็ไม่ได้สลับซับซ้อนให้คนดูเข้าใจยากเลย เพราะหนังค่อย ๆ เล่าถึงความโหดร้ายของสงครามที่ต้องเผชิญกับความสูญเสีย ตัดสลับไปมากับผู้มีอำนาจอยู่อย่างเสวยสุขและสนใจเพียงผลประโยชน์ของตนเองอีกอย่างเราชอบชื่อไทยมากมันทำให้เราคิดถึงตอนจบของหนัง “แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง” ส่วนตัวเรามองว่า มันไม่ใช่แค่เล่าเรื่องอดีตที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไป แต่ยังเป็นสงครามที่เป็นวนลูปไม่เปลี่ยนแปลง ประทับใจฉากสุดท้ายในตอนจบที่มีทหารอีกคนมาเก็บป้ายชื่อของทหารที่เคยทำหน้าที่นั้นมาก่อน เรามองมันเป็นสัญญะว่าถ้าท้ายที่สุดสงครามไม่ถูกยุติลง สิ่งเหล่านี้ก็จะวนกลับมาจุดเดิมโฆษณาชวนเชื่อ พรากความเป็นมนุษย์หลุดหายไปสิ่งหนึ่งที่จะได้เห็นในหนังคือ โฆษณาชวนเชื่อจากฝ่ายผู้มีอำนาจ ปลุกเร้าเหล่าเด็กหนุ่มเยอรมันให้มีความตื่นเต้นไปกับสงครามและการรักชาติ แต่สุดท้ายสิ่งเหล่านี้ก็ได้ย้อนกลับมาทำร้ายผู้คนอย่างโหดร้าย ซึ่งคนดูจะได้เห็นเหตุการคำกล่าวปลุกเร้า เพียงแค่ต้นเรื่องและตอนท้ายเรื่อง เพื่อให้เห็นปฏิกิริยาของเหล่าทหารนั้นต่างกันออกไป จากตอนแรกที่ได้รับเพียงข้อมูลด้านเดียวก่อนเข้าสู่สงคราม แต่เมื่อได้เข้าร่วมรบอย่างจริงจังก็ได้ตระหนักถึงความจริงที่ไม่มีอยู่ในคำโฆษณา มีแต่ทหารทั้งสองฝ่ายที่ตรากตรำทำสึกอย่างยาวนาน เพื่อความหวังที่จะได้กลับบ้าน ความหนักหน่วงของการเล่าเรื่องจากการค่อย ๆ เห็นตัวละครจากหายไปทำให้คนดูรู้สึกสูญเสียไปกับสงครามแสนโหดร้าย ที่ต้องฆ่ากันเองของเหล่าทหาร เพียงเพราะความต้องการของเหล่าผู้มีอำนาจ ทั้งที่เหลือเพียงแค่ 15 นาทีก่อนหยุดยิง ความรู้สึกที่ถูกตรึงไว้ตลอดเรื่องราวสิ่งที่กล่าวชมไม่ได้เลยก็ได้เลยก็คือ การแสดงของนักแสดงที่สามารถตรึงอารมณ์คนดูได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ตัวเราจะไม่ได้คุ้นหน้าคุ้นตาของตัว เฟลิกซ์ คัมเมอเรอร์ (Felix Kammerer) และ แคทซินสกี้ (Albrecht Schuch) แต่การแสดงของเขานั้นตราตรึงใจคนดูได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการสื่ออารมณ์ทางสีหน้า ท่าทาง และแวดตาที่สื่อออกมาให้เห็นถึงความเป็นด็กหนุ่มที่ถูกพรากหายไปจากสงคราม ซึ่งตัวเฟลิกซ์เองก็ถือได้ว่าเป็นนักแสดงดาวรุ่งที่เคยผ่านงานแสดงเวทีมาก่อนที่จะแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ อีกทั้ง สิ่งที่เราประทับที่สุดคงเป็นเสียงกลองที่เป็นเหมือนกับการให้จังหวะหนัง เป็นเหมือนสัญญาณบอกว่าหนังจะมีทิศทางที่เปลี่ยนไป คนดูจะได้ยินเสียงนี้แทบทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนทิศทางของหนัง เราว่ามันเป็นเสน่ห์ที่ตรึงคนดูไว้ให้สนใจตัวหนังเรื่อย ๆ แม้ว่าตัวหนังจะไม่ได้ถึงขั้นดีเยี่ยมไร้ที่ติ แต่เป็นภาพยนตร์ชั้นดีที่ควรค่าแก่การดูเรื่องหนึ่ง สามารถรับชมได้ทั้งระบบพากย์ไทยและบรรยายไทยทาง Netflix สามารถรับชมผ่านกล่อง TrueID ได้ด้วยเช่นกันตัวอย่าง https://youtu.be/hf8EYbVxtCYภาพและเครดิต: ภาพประกอบปก I ภาพประกอบที่ 1, 2, 3 - Twitter Netflix Germany ขอขอบคุณวิดีโอจาก: Youtube - Netflix บทความแนะนำ:รีวิวหนัง The Good Nurse เขย่าขวัญ อาชญากรในคราบบุรุษพยาบาล กับนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ ผ่าน Netflixรีวิวเรียลลิตี้ KAI's Bucket List เต็มอิ่มกับรูปแบบการเที่ยวแบบ ไค EXO ทั้ง 5 วันรีวิวซีรีส์ Jirisan (2021) เข้าสู่เรื่องราวลึกลับแห่งหุบเขาจีรี ท่ามกลางการสูญหายมากมาย ผ่าน Netflix iQIYI และ TrueID ชวนแต่งแฟนซี หลอน สวย เซ็กซี่หรือสร้างสรรค์ ถ่ายภาพหรือวิดีโอ แล้วโพสต์ที่ TrueID Community ห้อง "13 สยองขวัญ"สำหรับผู้ที่ยอดกดไลค์สูงสุด 5 อันดับแรกอันดับที่1 : (ต้องมียอดไลค์เกิน 150 ไลค์) เงินรางวัล 3,000 บาทอันดับที่ 2-5: (ต้องมียอดไลค์เกิน 50 ไลค์) เงินรางวัล รางวัลละ 1,000 บาท (รวม 4 ท่าน 4,000 บาท)STAR COVER ส่งภาพเข้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 65 ถึง 3 พฤศจิกายน 65***