สวัสดีแฟนๆซีรีส์ Boy's Love ทุกท่านนะคะ ในบทความแรกครีเอเตอร์ได้เขียนแนะนำเกี่ยวกับซีรีส์เรื่อง ‘Jazz for Two’ ที่มีกำหนดออกอากาศเดือนมีนาคมซึ่งค่อนข้างได้รับการสนใจจากหลายๆท่าน ดังนั้นในบทความนี้จะเป็นการรีวิวผสมสปอยเนื้อเรื่องหลังจากรับชมซีรีส์เรื่องนี้จบนะคะ เพราะฉะนั้น**ขอดอกจันตัวแดงว่าใครที่ยังไม่ได้รับชมเรื่องเต็มและไม่อยากถูกสปอยเพราะจะทำให้การดูสูญเสียอรรถรสก็สามารถเข้าไปรับชมซีรีส์ Jazz for Two พร้อมซับไทยได้ทางแอปพลิเคชั่น GagaOOLala นะคะ แต่สำหรับใครที่อยากโดนสปอยก่อนรับชมเรื่องเต็ม หรือกำลังอยู่ในกระบวนการหารีวิวและข้อมูลเนื้อเรื่องเพื่อประกอบการตัดสินใจก็ไปตามอ่านกันได้เลยค่ะ ตัวอย่างซีรีส์ Jazz for Two : https://youtu.be/pEmkHVSJ48I?si=dPtDK8YbrwNZj25- Jazz for Two ซีรีส์ BL สัญชาติเกาหลีใต้ที่ดัดแปลงจากมังงะยอดนิยมชื่อเดียวกันโดยผู้เขียน ‘Clarju’ ในฉบับมังงะจะมีทั้งหมด 64 ตอนและตอนพิเศษอีก 10 ตอน ส่วนในฉบับซีรีส์มีทั้งหมด 8 ตอน ความยาวตอนละ 30 นาที ซึ่งหนึ่งในความพิเศษของซีรีส์เรื่องนี้คือถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์ฉบับคนแสดงโดยทีมโปรดิวเซอร์และผู้กำกับเดียวกันจากเรื่อง ‘A Shoulder To Cry On’ ดังนั้น Jazz for Two ก็จะให้กลิ่นอายในแบบที่คล้ายกัน ชี้แจงก่อนการอ่านรีวิวและสปอย : เนื้อเรื่องในฉบับของซีรีส์มีจุดแตกต่างจากมังงะอยู่หลายจุด ซึ่งน่าจะหยิบยกมาเฉพาะเค้าโครงเรื่องแล้วทำการปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้สามารถออกอากาศได้ในระยะเวลา 8 ตอน ดังนั้นบางประเด็นในมังงะจะไม่มีปรากฏในซีรีส์ และบางเรื่องก็ถูกเติมแต่งจากฉบับของมังงะ แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านมังงะมาก่อนก็สามารถดูได้แบบเข้าใจตามเนื้อเรื่องที่ซีรีส์นำเสนอ และการรีวิวซีรีส์เรื่อง Jazz for Two ในครั้งนี้จะไม่มีการเปรียบเทียบระหว่างฉบับมังงะและซีรีส์นะคะ เนื่องจากทุกอย่างย่อมมีข้อจำกัดในตัวเอง *Trigger Warning* ของซีรีส์ที่ทุกคนควรรู้ก่อนรับชม : ในซีรีส์มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทำร้ายตัวเอง การกลั่นแกล้ง การกลัวความรักระหว่างเพศเดียวกัน และการทำร้ายร่างกาย ครีเอเตอร์ไม่สามารถตัดสินได้ว่าเนื้อหาเหล่านี้อยู่ในความรุนแรงระดับใด เพราะสำหรับบางคนเป็นเรื่องที่อ่อนไหวต่อจิตใจมาก แต่หากมองในมุมของครีเอเตอร์ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์เกาหลีอีกหนึ่งเรื่องที่สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัวและสังคมควบคู่ไปกับพัฒนาการของตัวละคร โดยต้องใช้วิจารณญาณในการรับชมค่ะ Spoil Alert! (บทความด้านล่างทั้งหมดจะเป็นการพูดถึงเนื้อเรื่องในซีรีส์) ‘Jazz for Two’ บอกเล่าเรื่องราวของ ‘ฮัน แทอี’ นักเรียนมัธยมปลายปีที่ 5 ผู้สูญเสียพี่ชายเพียงคนเดียวจากเหตุการณ์บางอย่างเมื่อ 2 ปีก่อน โดยที่ตัวแทอีไม่เคยรับรู้ถึงสาเหตุของการจากลา ส่งผลให้ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา แทอีต้องจมอยู่กับความเศร้า ความโกรธและความคิดถึงจนกลายเป็นโรคนอนไม่หลับ เริ่มเปลี่ยนเป็นคนที่เย็นชาไม่สนใจคนรอบข้าง และสิ่งสำคัญคือเขาไม่ปรารถนาจะได้ยินเสียงบรรเลงเปียโนเพลงโปรดของพี่ชายอีก นี่จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แทอีได้พบกับ ‘ยุน เซฮอน’ นักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาและยังเป็นคนเล่นเพลงที่เขาไม่อยากได้ยิน แนะนำตัวละครหลัก ฮัน แทอี รับบทโดย จี โฮกึน ชายหนุ่มผู้มีพรสวรรค์โดดเด่นและน้ำเสียงที่ดึงดูด สิ่งที่แทอีสนใจคือทรัมเป็ตและดนตรีแจ๊ส แต่หลังสูญเสียพี่ชายจากเคยชอบสองสิ่งนี้ก็เริ่มห่าง ไม่เพียงแค่นั้นการใช้ชีวิตเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปก็เปลี่ยนไป แทอีมักเก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งราวกับคนไร้ความรู้สึก เขาไม่สนใจใคร เพื่อนที่มีอยู่คนเดียวก็คือ ซอ โดยุน และหลังจากเหตุการณ์นั้นแทอีก็มักจะฝันเห็นภาพในอดีตของพี่ชายที่กำลังเล่นเปียโนทุกครั้งที่หลับตามาตลอด 2 ปี จนเขากลายเป็นโรคนอนไม่หลับถึงขั้นปรึกษาจิตแพทย์และต้องกินยานอนหลับอยู่ตลอด ปมของ ฮัน แทอี คือความเจ็บปวดจากการสูญเสียพี่ชาย : แทอีรักและสนิทกับพี่มาก เพราะมีกันอยู่แค่สองคนพี่น้องกับอาอีกคน นั่นทำให้แทอีทั้งโกรธ ทั้งเสียใจที่พี่ทิ้งตัวเองไปโดยไม่บอกอะไรให้รับรู้เลยสักอย่าง แต่สิ่งที่แทอีเสียใจมากที่สุดคือเขาไม่มีโอกาสได้ช่วยพี่เลยสักครั้ง MBTI (แบบทดสอบบุคลิกภาพตามทฤษฎีทางจิตวิทยา) ของฮัน แทอี ‘INTP’ เป็นคนเย็นชาที่มีโลกส่วนตัวสูง มักจะพูดตรงๆ แต่มีความเด็ดเดี่ยวและเฉียบแหลม จี โฮกึน นายแบบและนักแสดงวัย 24 ปี ที่มารับบท ฮัน แทอี ชายหนุ่มผู้เก็บซ่อนความเจ็บปวดจากการสูญเสียพี่ชายไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่ง สำหรับซีรีส์เรื่อง Jazz for Two เป็นซีรีส์เรื่องแรกในสายงานการแสดงของโฮกึน เพราะที่ผ่านมาเขามักจะปรากฏตัวในสายงานการถ่ายแบบและโฆษณา โดยในบทบาทของฮัน แทอี โฮกึนก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีโดยเฉพาะซีนอารมณ์ระหว่างแทอีกับเซฮอน และบทของตัวละครที่ต้องเผชิญกับความบอบช้ำทางจิตใจ INSTAGRAM จี โฮกึน : https://www.instagram.com/jeejby/?hl=en ยุน เซฮอน รับบทโดย คิม จินควอน นักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจากโฮมสคูล บุคลิกสดใสแต่จริงจัง มุ่งมั่นกับสิ่งที่ชอบ เซฮอนเป็นลูกชายคนเล็กในครอบครัวที่พ่อเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยดนตรีชื่อดัง และยังเป็นปรมาจารย์เปียโนคลาสสิก ส่วนพี่ชายเป็นนักเรียนทุนดีเด่นของมหาวิทยาลัยดนตรี ขณะที่เซฮอนคือตัวกลายพันธุ์ของครอบครัว เพราะสิ่งที่เขาชอบคือเปียโนประเภทแจ๊ส ไม่ใช่คลาสสิกแบบพ่อกับพี่ชาย นั่นทำให้ตอนอยู่บ้านเซฮอนต้องขยันซ้อมเปียโนแนวคลาสสิกเพื่อให้พ่อที่เข้มงวดและตั้งความหวังกับตัวเองไม่สงสัยถึงความชอบนี้ และการที่เขาเลือกหนีจากการเรียนแบบโฮมสคูลก็เพื่อต้องการอิสระในการเล่นดนตรีแจ๊ส ปมของยุน เซฮอน คือ เรื่องครอบครัวที่ต้องเอาชนะความกลัวและเผชิญหน้ากับการถูกคาดหวังเพื่อทำในสิ่งที่รัก MBTI ของ ยุน เซฮอน ‘ISFJ’ เป็นคนขี้อายแต่จิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มักจะเก็บซ่อนความรู้สึกลึกๆของตัวเองไว้ไม่ค่อยให้ใครรู้ คิม จินควอน หัวหน้าวงบอยแบนด์ NewKidd และนักแสดงชาวเกาหลีใต้วัย 23 ปีที่เคยผ่านผลงานการแสดงมาสองเรื่อง แต่ที่หลายคนคุ้นหน้าค่าตากันดีคือในบทบาทของแบคโฮมิน จากซีรีส์ BL เรื่อง To My Star และสำหรับจินควอนการรับบท ยุน เซฮอน ผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลในดนตรีแจ๊สเป็นการรับบทในฐานะนักแสดงนำครั้งแรกของเขา และแน่นอนว่าจินควอนไม่ทำให้คนดูผิดหวังกับการมารับบทบาทนี้ INSTAGRAM คิม จินควอน : https://www.instagram.com/jinkwon131?igsh=eTBvNGxlaGJ5ZTBw ซอ โดยุน รับบท โดย ซง ฮันกยอม มือกลองหน้าตาดีมากทักษะ และเป็นมิตรกับคนทั้งโรงเรียน โดยุนเป็นคนที่มักมีรอยยิ้มสดใสปรากฏอยู่บนใบหน้าเสมอเหมือนเป็นพลังบวกให้กับคนรอบข้าง แต่รอยยิ้มนั้นเป็นสิ่งที่เขาพยายามสร้างขึ้นเพื่อเก็บซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ แต่ขณะเดียวกันมันก็กลายเป็นรอยยิ้มที่ทลายกำแพงในหัวใจใครบางคน ปมของซอ โดยุน คือ การแอบชอบคนที่ไม่ควรรู้สึกด้วย MBTI ของซอ โดยุน ‘ENFP’ ชอบแสดงออกและเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป สามารถเข้ากับทุกคนและทุกความสัมพันธ์ได้ง่าย และมักจะทุ่มเทให้กับคนที่ตัวเองรักอย่างเต็มที่ ซง ฮันกยอม สมาชิกบอยกรุ๊ปตำแหน่งเมนเต้นจากวง OMEGA X วัย 28 ปี ที่ผลงานการแสดงเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของเขาในฐานะนักแสดง แม้ฮันกยอมจะมารับบทตัวละครรองแต่การแสดงของเขาก็น่าชื่นชมและเป็นที่พูดถึงไม่น้อยกับบทบาทความสดใสที่แฝงไว้ด้วยความดราม่าในเรื่องราวความรักระหว่างโดยุนและจูฮา INSTAGRAM ซง ฮันกยอม : https://www.instagram.com/0_1_gyeom?igsh=NWUyNzE4NDVsYnZi ซง จูฮา รับบทโดย คิม จองฮา มือกีต้าร์ผู้ปิดตัวเองหลังเผชิญเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจในวัยเด็ก (ในซีรีส์ไม่มีการกล่าวถึงเรื่องนี้) จูฮาจึงตั้งปณิธานที่จะปกป้องน้องสาวเพียงคนเดียวของตัวเองให้ดีที่สุด มันเลยกลายเป็นเหตุผลของการกระทำบางอย่างที่ดูแย่ต่อสายตาคนรอบข้าง และยังเล่นกับความรู้สึกโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกยังไง ในแบบที่จูฮาเองก็ไม่รู้ตัวเลยว่ามันคือการปกป้องน้องสาวแบบผิดวิธี (ตัวละครจูฮามีความซับซ้อนทางความคิดที่เข้าใจยากมากกว่าแทอี) ปมของซง จูฮา คือการยอมรับความรู้สึกของตัวเองที่ขัดแย้งกันในใจ MBTI ของซง จูฮา ‘ISTP’ เป็นคนพูดตรงไปตรงมา อยากรู้อะไรให้ถามแต่อย่าถามจนกว่าจะเตรียมใจฟังคำตอบ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคนลึกลับ เข้าใจได้ยากและมักจะปกปิดความรู้สึกของตัวเอง คิม จองฮา นักแสดงและนายแบบชาวเกาหลีใต้วัย 28 ปีมากความสามารถ จองฮาเคยผ่านผลงานการแสดงก่อนเรื่อง Jazz for Two มาหลายเรื่อง สำหรับในเรื่องนี้จองฮาได้รับบทซง จูฮา ตัวละครที่มีความขัดแย้งกับทุกคน ซีนส่วนใหญ่จึงเป็นซีนที่ต้องเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครอื่น ซึ่งจองฮาก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีจนทำให้คนดูรู้สึกร่วมไปกับตัวละคร ดังนั้นการแสดงของเขาในเรื่องนี้จึงเป็นที่พูดถึงในหมู่แฟนๆต่างชาติเป็นอย่างมาก INSTAGRAM คิม จองฮา : https://www.instagram.com/jjunghaa__?igsh=NDd6Z2lvaGxxaTB0 เรื่องราวของคู่หลักและคู่รองในซีรีส์ (สปอยเนื้อเรื่อง) สำหรับสองคู่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือกว่าจะรักกันได้ก็ช้ำไปทั้งตัวแล้วค่ะ แทอี x เซฮอน วิดีโอตัวอย่างเรื่องราวของแทอีและเซฮอน : https://youtu.be/D9rn2Ck334A?si=4J-JIkQwBZVzwnv_ เรื่องราวของแทอีและเซฮอนเริ่มต้นขึ้นที่ห้องดนตรีเก่า แทอีที่เป็นคนเย็นชากลับกลายเป็นมีอารมณ์รุนแรงเมื่อได้ยินเสียงเปียโนเพลงโปรดของพี่ชายที่เซฮอนเป็นคนเล่น โดยการพบกันครั้งแรกของพวกเขาเริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีนัก เมื่อแทอีได้เอ่ยปากขู่เซฮอนว่าห้ามเข้ามาในห้องนี้อีก และอีกครั้งตอนที่เซฮอนไม่ทำตามคำสั่งก็ขู่จะหักข้อมือทิ้ง แต่เพราะความโกรธที่มีมากทำให้ข้อมือของเซฮอนเกิดการบาดเจ็บจากแรงบีบ และยังเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ซง จูฮา รุ่นพี่ม.ปลายปี 6 พ่วงตำแหน่งคู่อริของแทอีเข้ามาเห็นพอดี ความสัมพันธ์ของแทอีและเซฮอนในช่วงแรกเต็มไปด้วยความอึดอัดเพราะทุกครั้งที่เจอกันแทอีจะเมินเฉยต่อเซฮอน แต่ขณะเดียวกันก็เหมือนจะจับตามองเซฮอนอยู่แทบตลอดเวลา วันหนึ่งภาพของเซฮอนที่กำลังเล่นเปียโนด้วยใบหน้ามีความสุขได้ถูกซ้อนทับด้วยใบหน้าของพี่ชายในอดีต นั่นยิ่งกลายเป็นตัวกระตุ้นความเจ็บปวดภายในใจของแทอีให้กลับมา แต่ขณะเดียวกันก็เป็นเสียงเพลงจากเปียโนของเซฮอนที่ทำให้อาการนอนไม่หลับของแทอีดีขึ้น โดยที่ตัวเขาเองก็รู้สึกได้แต่ยังไม่ยอมรับความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นในใจ ก่อนที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะถึงจุดเปลี่ยนเมื่อมีตัวกระตุ้นอย่างจูฮาที่เริ่มเข้าหาเซฮอนเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง และนั่นยังเป็นสาเหตุให้คนที่มักจะเก็บซ่อนความรู้สึกภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งได้ดีอยู่เสมอกลับถูกอ่านได้ง่ายจากศัตรู แทอีรู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกับเซฮอนคนที่เข้ามาเปลี่ยนความรู้สึกบางอย่างในใจ แต่เลือกที่จะปฏิเสธมัน และการผลักไสเซฮอนกลับทำให้ยิ่งรู้สึกใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น ในขณะที่แทอีต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดในอดีตและความสับสนในใจ ฝ่ายเซฮอนก็ต้องเอาชนะความกลัวที่จะทำตามความฝันของตัวเองจากพ่อที่เข้มงวดและไม่ต้องการให้เขาเล่นดนตรีแจ๊ส ทั้งคู่เลยกลายเป็นเหมือนคนที่พึ่งพาเพื่อปลดล็อกปมในใจของกันและกันแบบไม่รู้ตัว เซฮอนช่วยให้ความเศร้าภายในใจของแทอีเบาบางลง ขณะที่แทอีก็ทำให้เซฮอนเล่นดนตรีแจ๊สได้อย่างมั่นใจ การใช้เวลาร่วมกันโดยมีเปียโนและดนตรีแจ๊สเป็นจุดเชื่อมโยงพวกเขาไว้ด้วยกันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแทอีและเซฮอนพัฒนาในทางที่ดีขึ้น แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรเมื่อแทอีที่พยายามปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองมาโดยตลอดได้เผลอทำสิ่งที่สร้างความเจ็บปวดและเสียใจให้กับเซฮอนหลังจากที่อีกฝ่ายตัดสินใจพูดความรู้สึกของตัวเองออกไป วันเวลาผันเปลี่ยนและแล้ววันหนึ่งความจริงบางอย่างก็ปรากฎขึ้น และนี่คือด่านสุดท้ายที่ทั้งคู่ต้องเลือกว่าจะจมอยู่กับอดีต หรือจะก้าวข้ามผ่านความเจ็บปวดนี้ไปด้วยกัน… โดยุน x จูฮา (ระวังสับสนนะคะ) วิดีโอตัวอย่างเรื่องราวของโดยุนและจูฮา : https://youtu.be/eU69xK6Y6sY?si=JvPi9l3Lo7VJm2m- เรื่องราวของโดยุนและจูฮาเป็นความสัมพันธ์แบบ ' Red flag ' โดยที่โดยุนคือผู้เลือกว่าจะ 'เดินหน้าต่อ' หรือ 'ยุติความรู้สึก' นี้ของตัวเอง ซง จูฮา รุ่นพี่มอปลายปีสุดท้ายที่มีบุคลิกเหมือนหัวหน้าอันธพาลในโรงเรียน และมักใช้ความรุนแรงรวมถึงการทำเรื่องไร้เหตุผลโดยขาดการนึกถึงความรู้สึกของคนอื่นเพียงเพราะต้องการปกป้องความรู้สึกของน้องสาวที่เหลืออยู่คนเดียวของตัวเอง แต่ซอ โดยุนกลับไม่เคยมองจูฮาเป็นคนแบบนั้นเลยสักครั้ง เพราะเขาเชื่อมาตลอดว่าสิ่งที่จูฮาเป็นคือสิ่งที่อีกฝ่ายแสร้งทำขึ้นมา ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ วันหนึ่งโดยุนที่เห็นภาพของจูฮาเดินโอบเอวมากับเซฮอนทำให้เขาตัดสินใจทำบางอย่างที่เป็นสาเหตุให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและจูฮาไปในทิศทางที่แย่ลง ก่อนสุดท้ายโดยุนไม่อาจเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อจูฮาได้อีก คำสารภาพถูกเอ่ยออกไปต่อหน้าจูฮาที่กำลังโมโห และสิ่งที่ได้รับกลับมาคือคำพูดทำร้ายจิตใจที่โดยุนไม่อาจทนได้อีกเมื่อคิดว่าตัวเองถูกคนที่ชอบรังเกียจเพราะชอบผู้ชายด้วยกัน แม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะถูกจูฮาทำร้ายสารพัดก็ไม่เคยโกรธ นั่นเพราะการเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่างเขาและอีกฝ่ายคือความประทับใจที่โดยุนมีต่อจูฮา ในวันที่จูฮายื่นมือช่วยเขาจากพวกอันธพาล แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้โดยุนรู้สึกกับรุ่นพี่คนนี้ แต่มันเป็นเพราะมีแค่เขาที่ได้เห็นด้านอบอุ่นของคนที่มักจะทำตัวเป็นอันธพาลในสายตาคนอื่นตลอดเวลา แม้กระทั่งในสายตาน้องสาวของตัวเองด้วย หลังคำพูดทำร้ายจิตใจการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของโดยุนคือการที่เขาจะแกล้งทำเป็นไม่รู้จักจูฮาอีกเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจซึ่งโดยุนก็ทำอย่างที่พูด เขาหลบหน้าและเมินเฉยต่อจูฮาทุกครั้งที่เจอกัน ฝ่ายจูฮาเมื่อถูกเมินเหมือนคนไม่มีตัวตนหลายครั้งก็เริ่มคิดถึงคำพูดของโดยุนที่บอกว่าจะทำเป็นไม่รู้จักกันอีก ทุกอย่างเป็นไปตามที่จูฮาต้องการแต่ทำไมเขาถึงยังรู้สึกอารมณ์ไม่ดี? ก่อนที่จูฮาจะได้รับคำตอบเมื่อเหตุการณ์ที่เขาลืมไปแล้วได้ย้อนกลับมาอีกครั้งในสถานการณ์คล้ายกัน ภาพริมฝีปากของโดยุนที่กำลังยกยิ้มขอบคุณในวันที่เขาเข้าไปช่วยเหลืออีกฝ่ายทำให้จูฮาเพิ่งรู้ตัวว่ารอยยิ้มและความสดใสของโดยุนคือสิ่งที่คอยก่อกวนในใจเขามาตลอด การต่อสู้กับความขัดแย้งในใจเกี่ยวกับความรู้สึกต่อต้านความรักของเพศเดียวกัน ครั้งนี้เป็นคราวของจูฮาที่ต้องเผชิญและตัดสินใจ ระหว่างความรู้สึกแท้จริงของตัวเองกับความกลัวที่จะถูกมองด้วยสายตารังเกียจจากคนรอบข้าง ในซีรีส์เรื่องราวของโดยุนและจูฮาไม่ถูกพูดถึงมากนักเนื่องจากเป็นคู่รอง แต่ต้องยอมรับเลยว่านักแสดงเล่นซีนอารมณ์ได้ดีมากจนทำให้รู้สึกตามตัวละคร โดยเฉพาะความขัดแย้งในใจของตัวละครจูฮาที่รู้ตัวมาตลอดว่าการกระทำที่ทำร้ายโดยุนมันเกิดจากความใจร้อนและความไม่มีเหตุผลของตัวเอง อีกทั้งจูฮายังรับรู้มาโดยตลอดว่าโดยุนคือคนเดียวที่เชื่อใจเขามาตลอดต่อให้จะทำไม่ดีกับอีกฝ่ายมากแค่ไหนก็ตาม แต่ที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาแย่ลงนั่นก็เพราะความขัดแย้งระหว่างความรู้สึกที่ต้องการปฏิเสธกับสิ่งที่ถูกสังคมกำหนด รีวิวจากความรู้สึกและมุมมองของครีเอเตอร์หลังรับชมซีรีส์ (มีการพูดถึงเนื้อหาเกี่ยวกับการเฉลยปมและเคลียร์ปมของตัวละคร) 1. ดนตรีแจ๊สที่เป็นชื่อเรื่อง Jazz for Two ซีรีส์เกี่ยวกับความรักที่ควบคู่ไปกับดนตรีแจ๊ส คนส่วนใหญ่ที่ได้ยินชื่อเรื่องจะเข้าใจว่าเป็นซีรีส์ที่มีแค่แจ๊สเป็นส่วนประกอบ แต่หลังจากที่ได้ดูจะเข้าใจเลยว่า ‘ดนตรีแจ๊ส’ มันคือจุดเชื่อมของเรื่องราวทั้งหมด หนึ่งคือเป็นจุดเริ่มต้นและจุดเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างแทอีและเซฮอน สองคือเรื่องราวของแทจุนกับเซจินที่ช่วยกันทำเพลง Jazz for Two ขึ้นมาด้วยกัน ณ ช่วงเวลาหนึ่ง และสามคือดนตรีแจ๊สทำให้ทั้งสี่คนกลายมาเป็นเพื่อนกัน อีกทั้งยังได้ทำในสิ่งที่แต่ละคนชอบด้วยกัน 2. เนื้อเรื่อง ในส่วนของเนื้อเรื่องชอบที่ตัวละครทุกตัวมีปมซึ่งเป็นความเจ็บปวดของตัวเอง และเป็นสิ่งที่แต่ละคนจะต้องข้ามผ่านมันไปให้ได้ด้วยตัวเอง ยกตัวอย่างอย่างแทอีที่มีปมเรื่องพี่ชายเขาก็ต้องก้าวข้ามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แม้จะมีเซฮอนอยู่แต่ถ้าแทอียังเลือกที่จะจมกับอดีตมันก็ไม่มีความหมาย และสิ่งที่ชอบสำหรับการปลดล็อกปมของแทอีคือซีนที่แทอีฝันถึงพี่ชาย แล้วแทจุนบอกให้แทอีปล่อยตัวเองไปเพราะตอนนี้แทอีมีคนที่สำคัญกว่าแล้ว โดยซีนนี้มันสื่อถึงการบอกให้แทอีปล่อยวางอดีตแล้วให้ความสำคัญกับปัจจุบันเพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้มีความสุขอีกครั้ง อีกหนึ่งเรื่องราวที่ชอบคือตัวละครจูฮาที่ตึงแบบสุดๆ จนเราตัดสินไปแล้วว่าตัวละครตัวนี้เป็นคนไม่ดี เผลอๆเป็นอันธพาลที่ไม่ควรมีคู่เลยด้วยซ้ำ แต่เราจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วจูฮาไม่ใช่คนไม่ดี 100% แบบที่เราเห็นผ่านมุมมองความรู้สึกของโดยุน ซึ่งมันอาจจะดูไม่สมเหตุสมผลที่โดยุนชอบจูฮาเพราะถูกช่วยไว้ครั้งเดียวแต่ถูกจูฮาทำร้ายเป็นสิบครั้ง แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าความรักบางครั้งมันก็ไม่มีเหตุผล แค่รู้สึกรัก ที่สำคัญคือโดยุนเชื่อมั่นมาตลอดว่าจูฮาไม่ใช่คนไม่ดี โดยุนเลยไม่เคยโกรธจูฮาได้สักครั้ง มันจึงกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างความรู้สึกของตัวละครกับความรู้สึกของคนดูที่ทำให้สนุกไปอีกแบบสำหรับคนที่มองว่ามันเป็นแค่เนื้อหาในซีรีส์ และในขณะเดียวกันปมหลักสำคัญของคู่นี้คือจูฮาต้องต่อสู้กับความรู้สึกต่อต้านความรักระหว่างเพศเดียวกันของตัวเอง ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงว่าไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่จะยอมรับว่าคนที่ตัวเองรู้สึกด้วยเป็นผู้ชายเหมือนกันได้ง่ายๆ ยิ่งการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่แทบจะไม่ได้รับการยอมรับซ้ำยังเห็นว่าเป็นเรื่องผิดธรรมชาติยิ่งทำได้ยาก แต่พอกล้ายอมรับตัวละครก็ไม่ได้พัฒนาความสัมพันธ์แบบก้าวกระโดดเมื่อทุกอย่างต้องใช้เวลาในการปรับตัว 3. คู่หลักและคู่รอง คู่หลักเปิดมาก็ตึงเปรี๊ยะในชนิดที่อยากตะโกนให้ลูกหนีไปปปป ความสัมพันธ์ของสองตัวละครค่อยๆพัฒนาแต่ขณะเดียวกันก็ก้าวกระโดด พระเอกหล่อโฮก นายเอกก็น่ารักมาก ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง และทั้งนายเอกทั้งคนดูต้องรับมือกับความรู้สึกของพระเอกที่ขึ้นลงจนบางครั้งก็ งง ว่าพ่อเป็นอะไร๊!! แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่เข้าใจได้ว่าอารมณ์โมโหของพระเอกมันเป็นผลมาจากเรื่องราวในอดีต เพราะถ้าใครไม่เคยสูญเสียคนที่รักจากการตัดสินใจจบชีวิตตัวเองจะไม่มีวันเข้าใจว่าคนที่อยู่ข้างหลังรู้สึกยังไง และการจัดการกับความรู้สึกนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ แต่ท่ามกลางความขมก็ยังมีซีนหวานน้ำตาลเรียกพี่แบบอะไรจะขนาดนั้นคะพ่อคุณ แต่ก็นั่นแหละค่ะยังคงคอนเซ็ปต์ซีรีส์ BL ที่เน้นขายเรื่องราวและความสัมพันธ์ของตัวละคร ส่วนใหญ่จึงเป็นโมเม้นชวนจิ้นแต่จิกหมอนรอแล้วนะ อารมณ์ความรู้สึกของคู่นี้จะตึงมากในช่วงแรกก่อนจะค่อยๆผ่อน แล้วมาตึงจนเกือบขาดอีกทีเพราะอารมณ์ของพระเอก แบบอย่างแจกบัตรทุบหลังพระเอกให้คนที่ได้ดู เรื่องราวของคู่รองค่อนข้างดำเนินเร็วแต่ไม่ งง เพราะมีการเล่าย้อนว่าเพราะอะไรทำไมต่างฝ่ายต่างมีความรู้สึกให้กันและกัน สิ่งที่ชอบในช่วงต้นของการเปิดซีนคู่นี้คือการได้สงสัยว่าสายตาของโดยุนที่ใช้มองจูฮาคือสายตาที่เป็นความรู้สึกแบบไหนกันแน่? โดยุนแข็งแกร่งและมีใจแน่วแน่ในความรัก อีกฝ่ายจะแตะจะต่อยก็ไม่หือไม่อือ ไม่ตอบโต้ แถมยังปกป้องเขาอีกต่างหาก แต่มาแพ้ตอนที่เขาพูดไม่ดีใส่ (ซีนนี้สองคนเล่นดีมาก ดูไปใจก็ลงไปอยู่ตาตุ่มค่ะ) แต่จะทำไงได้ในเมื่อตกหลุมรักเขาไปตั้งแต่เขายื่นมือมาช่วย ส่วนจูฮาเป็นตัวละครที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการยอมรับความรู้สึกตัวเอง เพราะคนที่ตัวเองรู้สึกด้วยเป็นผู้ชายเหมือนกัน ซึ่งจองฮาเล่นถึงมากเส้นเลือดในสมองเต้นตุบๆทุกซีนที่ออก แต่พอเรื่องเคลียร์และเปิดใจให้โดยุนก็ออกแนวเทคแคร์แบบเนียนๆ ในขณะที่โดยุนไม่มีอะไรต้องคีพเลย เคมีคู่ดี ดีจนถ้าดูซีรีส์อย่างเดียวคงแยกโพไม่ออกว่าใครโพไหน โดยุนสดใสขณะที่จูฮาก็ห้าวเกิ๊น 4. ความประทับใจในซีรีส์เรื่องนี้ 'อารมณ์และความรู้สึกของซีรีส์' ที่เล่นกับใจคนดูคือจุดที่ชอบมากที่สุด เพราะตัวละครอย่างแทอี และจูฮา มีความซับซ้อนทางจิตใจในแบบที่คนดูต้องใช้ความพยายามในการทำความเข้าใจ และมันก็เป็นความซับซ้อนที่มีอยู่จริงในชีวิตนอกจอที่เราเองไม่มีทางเข้าใจได้ว่าจริงๆแล้วอีกฝ่ายกำลังคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่ 'การแสดงของนักแสดง' ที่ทุกคนสามารถถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองออกมาได้เป็นอย่างดีและสมบทบาท ไม่ว่าจะเป็นตัวนักแสดงหลัก นักแสดงรอง หรือแม้กระทั่งนักแสดงสมทบที่มีบทน้อยก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถ และยังมีพระเอกจากซีรีส์เรื่อง Happy Merry Ending อย่างบยอน ซงแทมารับบทพี่ชายของแทอีอีก ซึ่งในเรื่องนั้นซงแทก็เล่นเปียโน มาเรื่องนี้เล่นอีกก็ยิ่งอินเข้าไปใหญ่ และสิ่งที่เซอร์ไพร์สแบบแอบคาดหวังมาก่อน คือการได้เห็น 2 นักแสดงนำจากเรื่อง A Shoulder To Cry On อย่าง ชิน เยชาน และคิม แจฮันมารับเชิญในซีรีส์ แม้จะมาแค่แปปเดียวแต่ก็ทำให้หายคิดถึงได้ และเหมือนเป็นการส่งไม้ต่อให้กับนักแสดงในเรื่องนี้ด้วย สิ่งที่น่าเสียดายแต่ไม่ผิดหวังสำหรับซีรีส์เรื่องนี้คือ ช่วงหลังเนื้อเรื่องค่อนข้างดำเนินไปไวจนคนดูต้องสลับอารมณ์ตามให้ทัน อย่างบางปมหรือบางความขัดแย้งระหว่างตัวละครจนกระทั่งตอนพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจกัน ถ้าสามารถเล่าขยายให้ได้มากกว่านี้จะทำให้เกิดความสมเหตุสมผลในแบบที่คนดูไม่ต้องพยายามหาเหตุผลมาเพื่อรองรับการกระทำของตัวละคร อีกหนึ่งเรื่องคือบทของพ่อที่ไม่ถูกพูดถึงอีกเลยหลังรู้ว่าลูกชายชอบดนตรีแจ๊ส ในเมื่อเรื่องปูประเด็นครอบครัวมาตั้งแต่แรกถ้ามีฉากพ่อลูกพูดคุยปรับความเข้าใจกันจะทำให้เรื่องสมบูรณ์มากขึ้นในปมของเซฮอน แม้ว่าบทความนี้จะเป็นการรีวิวผสมสปอยเนื้อเรื่อง แต่อยากให้ทุกท่านรับชมด้วยตัวเองจริงๆค่ะ เพราะการอ่านผ่านตัวหนังสือไม่ได้ให้อรรถรสเท่ากับการได้เห็นกับตาและได้ยินกับหูตัวเอง ใครสายดราม่าไม่ควรพลาดเรื่องนี้ค่ะ (แต่ตอนดูอย่าลืมพกยาดมติดมือไว้นะคะ) อีกทั้งผู้กำกับ นักแสดง และทีมงานทุกคนทุ่มเทกันเป็นอย่างมาก จึงอยากให้ทุกท่านสนับสนุนผลงานในช่องทางที่ถูกลิขสิทธิ์เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในซีรีส์เรื่องนี้นะคะ สรุป : Jazz for Two ซีรีส์ที่ได้ประเภทโรแมนติก ดราม่า แต่ระดับความดราม่าทะลุ 300% แบบโรแมนติกกี่โมง? แต่เนื้อเรื่องที่มีความเข้มข้นสะกดจิตคนดูจะทำให้ Jazz for Two กลายเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ทำให้ใครหลายคนย้อนกลับมาดูอีกครั้งและอีกครั้ง รายละเอียดซีรีส์เรื่อง : Jazz for Two สองเรากับท่วงทำนองเพลงรักประเภท : โรแมนติก, ดราม่าดัดแปลงมาจากมังงะยอดนิยม โดยผู้เขียน Clarjuนักแสดง : จี โฮกึน รับบท ฮัน แทอี, คิม จินควอน รับบท ยุน เซฮอน, ซง ฮันกยอม รับบท ซอ โดยุน, คิม จองฮา รับบท ซง จูฮา, บยอน ซงแท รับบท ฮัน แทจุน, โก แจฮยอน รับบท ยุน เซจิน และ คิม มินอา รับบท ซง จูฮี จำนวนตอน : 8 ตอน ตอนละ 30 นาทีช่องทางการรับชมซับภาษาไทย : GagaOOLalaสำหรับพากย์ไทยรอติดตามรายละเอียดทาง TrueID เครดิตภาพปกและภาพประกอบบทความภาพปกจาก Quuuniverse 1, 2 https://twitter.com/Quuuniverse/status/1764969153897886067?t=uAyuubS7Wn2lQzOY2UIr1g&s=19 / https://twitter.com/Quuuniverse/status/1765693903838257279?t=AwVQ_wH75ArlDVk23j-_UQ&s=19ภาพทประกอบที่ 1 Quuuniverse https://twitter.com/Quuuniverse/status/1764969153897886067?t=uAyuubS7Wn2lQzOY2UIr1g&s=19ภาพประกอบที่ 2 จาก Quuuniversehttps://twitter.com/Quuuniverse/status/1767143439744045436?t=bu7L6q6yWSdyDEl8jQWEWw&s=19ภาพประกอบที่ 3, 4, 6, 9, 12, 15, 21 ภาพแคปหน้าจอวิดีโอตัวอย่างซีรีส์ จาก Quuuniversehttps://youtu.be/DjjmmTYRq0k?si=2yUr17jZiXb9oKd-ภาพประกอบที่ 5 จาก jeejby https://www.instagram.com/jeejby?igsh=MWV6ZXVtangyMzk2Nw==ภาพประกอบที่ 7, 16, 17 ภาพแคปหน้าจอวิดีโอตัวอย่างซีรีส์จาก GagaOOLala https://youtu.be/pEmkHVSJ48I?si=w3bQBYdfCChh8ZCrภาพประกอบที่ 8 จาก jinkwon131 https://www.instagram.com/jinkwon131?igsh=eTBvNGxlaGJ5ZTBwภาพประกอบที่ 10, 13, 18, 19,20 ภาพแคปหน้าจอวิดีโอตัวอย่างซีรีส์จาก Quuuniversehttps://youtu.be/eU69xK6Y6sY?si=8SJRYpzyIxPLoN4Dภาพประกอบที่ 11 จาก 0_1_gyeom https://www.instagram.com/0_1_gyeom?igsh=NWUyNzE4NDVsYnZiภาพประกอบที่ 14 จาก jjunghaa__ https://www.instagram.com/jjunghaa__?igsh=NDd6Z2lvaGxxaTB0ภาพประกอบที่ 22 Quuuniversehttps://twitter.com/Quuuniverse/status/1771129779921801680?t=9bQMH3YpSYe9viqZr60G2A&s=19