สมรักษ์ กัดฟันนำเช็ค 10.75 ล้าน ขึ้นเงินอีกครั้ง จ่อแจ้งความพรุ่งนี้ หากเด้งอีก
สมรักษ์ กัดฟันนำเช็ค 10.75 ล้าน ขึ้นเงินอีกครั้ง จ่อแจ้งความพรุ่งนี้ หากเด้งอีก
จากกรณีเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน เมื่อเวลา 16.00 น. นายสมรักษ์ คำสิงห์ ได้เดินทางมายังธนาคารทหารไทย สาขาเมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมเช็คขีดคร่อม 2 ใบ ใบละ 5 ล้านบาท 1 ใบ และ ใบละ 5.7 ล้านอีกหนึ่งใบ ซึ่งเป็นเช็คที่ยี่ปั้วคนดังกล่าวสั่งจ่ายให้กับนายสมรักษ์ เพื่อนำไปขึ้นเงินในวันที่ 11 มิ.ย. เมื่อตรวจสอบเช็คกับธนาคารปรากฏว่าในบัญชีมีเงินอยู่เพียง 1,000 กว่าบาท เท่านั้น ธนาคารแนะนำให้มาขึ้นเช็คใหม่อีกครั้งในวันที่ 14 มิ.ย. ก่อนเวลา 14.00 น.
นายสมรักษ์ คำสิงห์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ซึ่งเป็นวันที่ 10 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันนัดหมายที่ยี่ปั้วคนดังกล่าวนัดจ่ายเงินที่ยังค้างตนอยู่อีกจำนวน 10.75 ล้านบาท ตามที่ขอโอกาสตนไว้ จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. ยี่ปั้วได้ให้แมสเซนเจอร์ นำเช็คธนาคารทหารไทยมาให้ตนจำนวน 2 ฉบับ ฉบับละ 5 ล้านบาท และ 5.75 ล้านบาท ซึ่งระบุขึ้นเงินวันที่ 11 มิ.ย.64 โดยบอกกับตนเองว่า ก่อนจะนำเช็คไปขึ้นเงินให้รอทางเขาโทรแจ้งบอกเวลา เพื่อนำเงินเข้าก่อนและจะโทรมาแจ้งให้ตนทราบ ซึ่งในวันนี้ตนก็ยังคงให้โอกาสรอคอยที่เขาจะติดต่อแจ้งกลับมาตลอดทั้งวัน ตนก็แจ้งให้ชาวบ้านเจ้าของเงินทราบแล้ว ว่าทางยี่ปั้วนัดจะจ่ายเงินคืนในวันนี้ ซึ่งทุกคนก็รอคอยและโทรมาสอบถามเรื่องเงินที่รอคืนด้วยความหวังตลอดทั้งวัน เหมือนตนเป็นความหวังของหมู่บ้าน
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 มิถุนายน นายสมรักษ์ คำสิงห์ ได้นำเช็ค 2 ใบจำนวนเงินรวม 10.75 ล้านบาท มาขึ้นยังธนาคารทหารไทย สาขาเมืองทองธานีอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ยี่ปั๊วได้โทรมาขอความเห็นใจว่าไม่ให้นำเช็คไปขึ้นกับธนาคาร โดยเวลา 18.00 น.จะนำเงินสดจำนวน 5 ล้านบาทมาให้ และวันที่ 15 มิ.ย. อีกจำนวน 5.75 ล้านบาท แต่หลังจากปรึกษากับทนายรณรงค์ได้มีความคิดเห็นว่าให้นำเช็คไปขึ้นกับธนาคารก่อนและถ้าได้เงินสดจริงในวันพรุ่งนี้จะไม่แจ้งความ
นายสมรักษ์ คำสิงห์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาขึ้นเช็คตามที่ทนายแนะนำ รู้อยู่ว่าไม่มีเงิน เพราะตัวแทนคู่กรณีได้โทรมาบอกว่าจะนำเงินสดจำนวน 5 ล้านบาทมาให้ 6 โมงเย็นวันนี้ แต่ทนายก็อยากให้ขึ้นเช็คไว้ก่อนเป็นหลักฐานทางกฏหมาย เพราะถ้าเย็นนี้ไม่นำเงินสดมาให้ พรุ่งนี้จะเดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มอีกข้อหาเช็คเด้ง และตนไม่เคยคิดว่าจะมีเงินในบัญชีเพราะคู่กรณีบ่ายเบี่ยงมาตลอด 20 กว่าครั้ง
“ถามว่ามีความหวังไหม ก็อยากให้นำเงินมาคืนเพราะชาวบ้านเขาเดือดร้อน ตนก็ร้อนใจสงสารชาวบ้าน และก็สงสารครอบครัวคู่กรณีด้วยที่ต้องมาเป็นจำเลยของสังคม คิดว่ากรณีแบบนี้มีอีกหลายคนที่ถูกหลอกเหมือนกัน และน่าจะมีจำนวนเงินมากกว่าด้วย ตอนนี้อยากรู้จริงว่าเจ้านายเขาเป็นใครเพราะทุกครั้งที่โทรมาจะบอกว่าเจ้านายไม่โอนเงินมา รอเจ้านาย วันนี้นำเช็คเข้าก็ไม่มีเงินอยู่ดีมีเงินที่ใช้ได้แค่ 1,000 กว่าบาท ตนรู้สึกเศร้าใจแต่ก็ต้องกัดฟันยอมรับฟังและรออย่างมีความหวัง”
เบื้องต้นทางธนาคารแจ้งว่าตามปกติถ้านำเช็คมาเข้า วันถัดไปจะสามารถเบิกเงินไปใช้ได้เวลา 14.30 น. ซึ่งเช็คจำนวนดังกล่าว จะสามารถตรวจสอบจำนวนเงินเข้าได้ ซึ่งถ้าไม่มีเงินเข้า ทางนายสมรักษ์และทนายจะเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด ต่อไป