Cover Image by Bokskapet from Pixabayจุณจบวิชาการเงินจากมหาวิทยาลัย ทิพย์ได้แง่คิดการเงินจากพ่อที่เป็นนักลงทุน พลอยเรียนการเงินจากแม่ที่เป็นอาจารย์ แต่ฉันได้วิชาการเงินจากภาพยนตร์!ใช่แล้วฉันเรียนสารพัดวิชาจากหนัง แทบไม่มีอะไรเลยที่หนังให้ฉันไม่ได้ โลกเซลลูลอยด์ที่จำลองโลกใบใหญ่ ร้อยเรื่องราวชวนอึ้งใส่เข้าไป ให้เราเรียนรู้ได้ในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมงนอกจากสารพัดบทเรียนชีวิตจากตัวละคร หนังหลายเรื่องยังสอนบทเรียนทางการเงินที่จับใจ สามารถนำไปใช้ได้กับชีวิตจริงที่น่ารักคือหนังไม่เคยเลคเชอร์แบบน่าเบื่อ เรียนการเงินจากหนังจึงไม่มีทางหาวหวอดวันนี้ฉันขอแนะนำหนัง 3 เรื่องที่ให้ทั้งความเพลิดเพลิน และสอนบทเรียนการเงินที่สำคัญThe Pursuit of Happyness (2006)หนังชีวิตที่เปี่ยมด้วยแง่คิดลึกซึ้ง สร้างจากชีวิตจริงของมหาเศรษฐีเงินล้านที่ฐานะตกต่ำเพราะผิดพลาดเรื่องการลงทุนวิล สมิธ รับบท คริส การ์ดเนอร์ ที่ก้าวพลาดทางธุรกิจจนบริษัทขายเครื่องสแกนกระดูกของเขาไปไม่รอด ทำให้ทรัพย์สินของครอบครัวหมดสิ้นไปด้วย เมื่อภรรยาของเขาขอเดินจากไปในวันที่เลวร้ายที่สุด คริสก็ต้องเดินหน้าเผชิญปัญหาชีวิตกับลูกชายตามลำพังระหว่างที่เข้าอบรมเป็นนายหน้าค้าหุ้นที่ยังไม่มีค่าตอบแทน คริสต้องประทังชีวิตด้วยเงินน้อยนิดที่มี สารพัดมรสุมการเงินปะทะชีวิตมากมาย ถึงกับต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน อดทนจนวันที่ลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง คริสจึงได้เรียนรู้และเข้าใจ ว่าความสุขที่แท้จริงของชีวิตคืออะไรกันแน่น่าทึ่งที่แม้แต่ชื่อหนังยังตั้งใจสะกดผิด ใช้ Happyness แทน Happiness เพราะคริสไปเห็นใครบางคนเขียนคำนี้ไว้บนผนัง นำไปสู่การตั้งคำถามว่าทำไมถึง "Y not I" (ทำไมไม่ใช่ฉัน) คำถามที่อาจเป็นเหตุผลสำคัญ ว่าทำไมเราถึงไม่เจอความสุขสักทีหนังสอนอะไรฉันชีวิตนั้นไม่แน่นอน ไม่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นกับเราได้เสมอ หากเราไม่ประมาทเกินไป วางแผนการเงินเผื่อไว้สำหรับวันฉุกเฉินบ้าง ก็อาจจะทำให้เรายังพอรับมือกับมันได้สักระยะหนึ่งอย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว คริสทุ่มเงินทั้งหมดที่มีไปกับธุรกิจที่เขาเชื่อมั่น เพียงเพราะเชื่อว่ามันจะทำให้เขารวย เป็นเรื่องการไม่รู้จักบริหารความเสี่ยงอดทนในระยะสั้นเพื่อผลดีในระยะยาว วันที่ยากลำบากจะผ่านไปถ้าเราไม่ถอดใจเสียก่อน คริสอาศัยความอดทนฝ่าฟันทุกอุปสรรคไปด้วยใจมุ่งมั่น ความข้นแค้นทางการเงินเป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้น โดยเฉพาะกับคนขยันและสู้ไม่ถอย สุดท้ายผลลัพธ์อันหอมหวานจะอยู่ไม่ไกลBreakfast at Tiffany's (1961)สุดยอดหนังคลาสสิคที่ซุกซ่อนแง่คิดไว้อย่างแยบยล ออเดรย์ เฮปเบิร์น รับบท ฮอลลี่ โกไลท์ลี่ สาวรักสนุกผู้ลุ่มหลงชีวิตหรูหราในนิวยอร์ก เธอมีชีวิตอยู่กับความฝันที่จะไต่บันไดสังคมให้ได้ ด้วยการแต่งงานกับผู้ชายรวย ๆ สักคนฉากเปิดของหนังคือฉากที่ติดตรึงในความทรงจำของนักดูหนังทั้งโลก ฮอลลี่แต่งตัวไฮโซ เดินกรุยกรายลงจากแท็กซี่ เพื่อมายืนกินอาหารเช้าที่ตระเตรียมมา อยู่ที่หน้าต่างร้านทิฟฟานีส์ ร้านเพชรอันดับหนึ่งของโลกบนถนนสายห้าอันหรูหราของนิวยอร์กนี่คือไลฟ์สไตล์ของคนตะกายฝันของจริง ท่ามกลางชีวิตที่ต้องกระเสือกกระสนเพื่ออัพเกรดตัวเอง ฮอลลีเชื่อว่าทิฟฟานีส์คือ “สถานที่สุดท้ายที่จะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับเรา” แต่บทสรุปของการไขว่คว้า กลับมาจบที่พอล (จอร์จ เปปปาร์ด) นักเขียนหนุ่มข้างห้องนั่นเองหนังสอนอะไรฉันเลิกโยนความรับผิดชอบให้คนอื่น อย่ามัวเฝ้าฝันถึงความร่ำรวยหรือชีวิตหรูหราที่มาจากการพึ่งพาคนอื่น ความรวยของเราคือความรับผิดชอบของตัวเรา เอาเวลาตะกายดาวมาสร้างความมั่นคงทางการเงินให้ชีวิตตัวเองจะยั่งยืนกว่าความรู้ทางการเงินสำคัญกว่าสามี ไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาชีวิตให้ใครได้ ตราบใดที่คนนั้นไม่รู้วิธีจัดการการเงินของตัวเองความสุขที่แท้จริงอยู่ไม่ไกล ยิ่งไขว่คว้าหาสิ่งที่อยากได้อาจยิ่งไม่เจอ บางครั้งสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ ก็คือสิ่งที่เรามีอยู่แล้วThe Shawshank Redemptionแอนดรูว์ ดูเฟรน (ทิม รอบบินส์) นายธนาคารผู้มีชีวิตขาวสะอาด เจอกับคำพิพากษาที่ผิดพลาด จนต้องเดินเข้าคุกในข้อหาสังหารภรรยาและชู้รักของเธอ ณ เรือนจำชอว์แชงค์ นักโทษดูเฟรนใช้ความรู้ความสามารถรับเป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงินให้กับผู้คุมในเรือนจำ เขาช่วยทำรายงานยื่นภาษีรวมทั้งช่วยซักฟอกเงินผิดกฎหมายให้กับพัสดี เพื่อแลกกับการช่วยเหลือให้นักโทษอื่น ๆ ได้สุขสบายขึ้นต่อมาดูเฟรนได้พบนักโทษคนหนึ่งที่พร้อมเป็นพยานความบริสุทธิ์ให้เขา แต่พัสดีกลัวว่าดูเฟรนจะเป็นอิสระจึงฆ่าปิดปากพยานคนนี้เสีย รุ่งขึ้นดูเฟรนหายตัวไปจากเรือนจำ ทิ้งไว้เพียงอุโมงค์กว้างสู่อิสรภาพที่ดูเฟรนใช้ค้อนสลักหินด้ามจิ๋วขุดไว้วันละเล็กน้อยตลอด 29 ปีหนังสอนอะไรฉันทุกอย่างเป็นไปได้ขอแค่ลงมือทำ ความสำเร็จทางการเงินก็เหมือนการขุดอุโมงค์ด้วยค้อนจิ๋ว แลดูเป็นไปไม่ได้แต่มันก็เป็นไปได้ ขอแค่เราลงมือทำไปเรื่อย ๆ อย่าหยุดยั้งเป้าหมายระยะยาวสำคัญมาก แม้ว่ามันจะไกลจนแทบมองด้วยตาไม่เห็น แต่ต้องรักษาความศรัทธาไว้ให้มั่นและอดทนทำมันอย่างถึงที่สุดเมื่อตกต่ำอย่าพาตัวเองลงเหว หากคุณใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังแต่เหตุร้ายก็ยังเกิดขึ้นกับคุณ อย่าปล่อยให้ความสิ้นหวังทำลายตัวตน จงรักษาคุณธรรมของคุณไว้ให้มั่นคง รอวันที่ฟ้ามืดมนจะสว่างขึ้นอีกครั้งความดีงามของการดูหนังอยู่ตรงนี้ ตรงที่หนังทุกเรื่องตัวละครทุกตัวมักเชื่อมต่อกับชีวิตจริงของเราได้ ขณะที่คนสร้างพยายามสะท้อนบทเรียนจากชีวิตจริงให้ปรากฏในหนัง เช่นเดียวกัน คนดูก็สามารถซึมซับบทเรียนจากหนังมาใช้ในชีวิตจริง เรื่อง/ภาพประกอบ : Miss Me