Short Comment จำได้ว่า ภาคที่แล้ว (2016) ที่คำวิจารณ์ไม่ค่อนดีเท่าไหร่ แต่ผู้เขียนก็ยังดูสนุกอยู่ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะดูกับลูกคนเล็ก และเด็กก็สนุก ผู้ใหญ่ก็สนุกตาม มั้งนะ เพียงแต่ ในความสนุกของหนัง มันดันไม่มีอะไรน่าจดจำ สำหรับผู้ใหญ่ ผิดกับเด็ก (ที่บ้าน) ที่กลับมาดูซ้ำแล้วซ้ำอีก เมื่อหนังลงสตรีม ทว่า สิ่งที่น่าจดจำ มีเพียง Haley Quinn ที่ขโมยซีนไปทั้งเรื่อง และสร้างชื่อให้ Margot Robbie แต่กระนั้น เมื่อมีกระแสว่า จะมีการสร้างภาคต่อ ถึงจะรู้ว่าเสี่ยง แต่ยังจะขอลองรอดู จนเมื่อปีที่ผ่านมา หนังดันเข้ามาฉายในภาวะโรคระบาด ทำให้ไม่สามารถพาลูก ที่เขาตั้งตารอมากกว่าไปดูในโรง อย่ากระนั้นเลย เมื่อหนังมีมาให้ชมทาง TrueID ที่ผู้เขียนเป็นลูกค้ามาเนิ่นนาน จนร่ำรวยคะแนน ก็จึงแลกคะแนนดูผลปรากฎว่า สาแก่ใจยิ่งนักส่วนหนึ่ง อาจเป็นเพราะหนังอยู่ในมือของคนที่ "มือถึง" เข้าใจเล่น และเข้าใจเล่า มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง James Gunn คือชื่อนั้น ซึ่ง การข้ามฟากจากฝั่ง MARVEL มายังฝั่ง DC ครั้งนี้ คือการมาทั้งตัวและวิญญาณ เพราะหนัง ออกมาเป็นหนังในแบบ James Gunn เต็มที่ เพราะเขากำกับจากบทภาพยนตร์ของตนเอง และมองเห็นชัดเจนว่า เขามีอิสระที่จะสร้างงานในแบบที่เขาจินตนาการไว้ และยังได้พิสูจน์ว่า อารมณ์แบบ Guardians Of The Galaxy คืออารมณ์แบบ James Gunn ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของเขา ยังคงมีให้เห็นเต็มที่ ทั้งงานด้านภาพ อารมณ์ม่วน กวน ป่วน ขำกลิ้งลิงกับหมา สนุกสนาน เร้าใจ แต่ไม่ลืมความตื่นเต้นเร้าใจ และมันก็เป็นเช่นนั้นตั้งแต่ต้น เมื่อกล้าๆเอาตัวละครมากำจัดเล่น เพื่อเซอร์ไพรส์ผู้ชม และเริ่มไปทีละสเต็ป และนั่น ก็เรียกเสียงฮาได้ตั้งแต่เริ่ม ไปจนถึงการเข้าใจขายบุคลิกของตัวละคร ที่มีความต่างกันชนิดอยู่คนละมุม ไกลโข จนดูเหมือนไม่น่าจะไปกันได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ จุดขายของแต่ละคน ล้วนมีประโยชน์ในภารกิจ (หรือเปล่า) ก็นำมาซึ่งความขัดแย้ง และพัฒนามาเป็นประสานงานในเวลาที่เหมาะสม และมันไม่ได้มาเล่นๆลอยๆ แต่มีจุดเปลี่ยนให้เห็นชัดสัมผัสได้ เรื่องจึงไม่ดูเบาบาง บทหนังสามารถขับเน้นจุดขายนั้นๆได้ทั่วถึง และเหมือนกับเป็นของถนัดมือสำหรับ James Gunn ที่สามารถสร้างตัวละครให้ออกมาน่าจดจำได้หมด แม้ว่าตัวละครจะมากมายยั้วเยี้ย เช่นเดียวกับที่เคยเห็นในรวมพลผู้พิทักษ์จักรวาลเรื่องนั้น และความสนุกอีกอย่างคือความรั่ว ที่ดูไม่จงใจ แต่อยู่ในภาวะที่เข้าใจได้ เพราะตัวละครเหล่านี้ ล้วนเป็นผู้ร้าย แต่ก็เป็นตัวร้ายที่มีอะไรข้างในผ่องแผ้วนพคุณอยู่บ้าง แบบที่ ตัวร้ายที่รักเธอ นะจ๊ะแล้วบทหนัง ยังเต็มไปด้วยความพลิกผันไปมา หักมุมนิดหน่อย จังหวะนรกบ้างเล็กน้อย ทำให้อร่อยเหลือหลาย จึงเป็นการยืนยันความชัดเจนในแนวทางว่า เมื่อชัดเจนจะไปทางใด ก็ไปทางนั้นให้สุด และเมื่อมันไม่สะดุด หนังก็ออกมาสุดๆแบบนี้ เพราะนี่คือหนังที่ดูสนุกสุดๆ ครบรส ครบทุกอารมณ์ ในหนังที่มีจุดขายของการเอาผู้ร้ายมาเป็นฮีโร่มัยซิน เอ๊ย ฮีโร่จำเป็นแบบนี้ เพราะอารมณ์นี้ มันมีอะไรให้เล่นมาก และเป็นบทเรียนว่า ในภาคที่แล้ว ถ้าเลือกจะไปทางหม่น ก็หม่นไปให้สุด ไม่ใช่กั๊กอยู่ตรงกลาง ทำให้ไม่มีที่มีทางของตนเอง แต่กับเรื่องนี้เมื่อเทียบกัน เหมือนใส่ซุปก้อนหรือผงชูรสลงในต้มไก่ ที่มันก็ยังเป็นต้มไก่ แต่ทำไมรสชาติคล่องคอยิ่ง หรือเป็นเพราะความชัดเจน ที่จะขายอารมณ์ประมาณนี้ สัตย์ซื่อ ไม่แคร์คำคน ไม่สนใจใคร ไม่เปลี่ยนแนว แล้วเมื่อ James Gunn เป็นคนแน่แน่ว เขาจึงเป็นผู้ชนะ ถ้ามองในมุมความเป็นเขา หนังจึงออกมาสนุกได้ใจ และสร้างตัวละครที่น่าประทับใจทุกคน ทั้งที่ความจริงไม่ใช่บทที่ซับซ้อนอะไรเลย หรือใครจะลืม พวกขาบู๊อย่าง Peacemaker (John Cena) Bloodshot (Idris Elba) Rick Flag (Joel Kinnaman) หรือจะรวม King Shark (Sylvester Stallone) ก็ย่อมได้ กระทั่งพวกที่พลังดูเหมือนไม่มีประโยชน์อะไรอย่าง Ratcatcher (Daniela Melchior) ที่ดูอี๋ๆ หรือ Polca-Dot Man (David Dastmalchian) ที่ดูไปก็ขมวดคิ้วไปว่าพลังของพี่เค้าจะมีประโยชน์อะไร แม้กระทั่งพวกที่เอามาทิ้งไว้ที่ชายหาดเล่นอย่าง Javelin เป็นอาธิ และแน่นอน อีกจุดขายที่ยังขายได้ ก็คือ Harley Quinn ที่ยังคง Sexy Naughty B*tchyแถมด้วยเอกลักษณ์แห่งเอกบุรุษ James Gunn ที่ต้องมีการใส่เพลงคลาสสิคที่ฟังรื่นหู เหมือนที่เคยเป็นมา คล้ายกับแสดงให้เห็นว่า คนอย่างข้าพเจ้านี้ มีคนเดียวในโลก ที่ทำหนังที่กวนๆ ใส่เพลงในแนวๆแบบนี้ แต่หนังก็ออกมาสนุกสุดๆ กระนั้น อาจมองได้อีกทางว่า บางทีภาพในหัวผู้กำกับ ก็คือของศักดิ์สิทธิ์ ที่สตูดิโออย่าอาจเอื้อม เพราะถ้าผู้กำกับมือถึงจริง และถ่ายทอดภาพในหัวของตนเองออกมาได้เต็มร้อยเบอร์นี้ ก็คือความสำเร็จในแบบที่ ความบันเทิงมาพร้อมคุณภาพ แม้ว่า ถ้าจะเอาตามจริง หนังแนวนี้ กวนอวัยวะเบื้องต่ำแบบนี้ ตัวละครเหมือนไปคนละทิศคนละทางแบบนี้ มันง่ายมากที่จะออกมามั่ว แต่...เมื่อมันอยู่ในมือคนที่เก่ง รู้วิธีจัดการกับความมั่ว ให้กลายมาเป็นความสนุก ก็ทำให้หนังสนุกสุดๆไปเลยอย่างที่เห็น และคุ้มค่ากับทุกคะแนนที่แลก และแน่นอน ต้องดูซ้ำก่อนที่หนังจะหมดอายุ เพราะคู่ควรซะปานนั้นThe Suicide Squad (2021) ทาง TrueID (แลก 499 True Point)ดูไปขำไป สนุกสนานได้ใจ โดย ดูไปบ่นไป#TheSuicideSqoudขอบคุณรูปประกอบภาพปก / รูปที่ 1 / รูปที่ 2 / รูปที่ 3 / รูปที่ 4 / รูปที่ 5 จาก Facebook The Suicide Squadจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !