รีวิวหนัง "Bogota: City of the Lost โบโกตา เมืองคนหลง" พลังดาราแน่น ๆ แต่เรี่ยวแรงยังไหวไม่พอ

เป็นหนังที่เข้าฉายในเกาหลีไปแบบเงียบ ๆ เมื่อช่วงสิ้นปี ก่อนจะโยกมาเป็นหนังลงจอสตรีมมิงทั่วโลกแบบเงียบ ๆ เช่นกันในตอนนี้ สำหรับ "Bogota: City of the Lost โบโกตา เมืองคนหลง" ผลงานหนังดรามาระทึกขวัญตีแผ่ชีวิตคนเกาหลีไกลบ้าน ที่โดดเด่นด้วยกองทัพนักแสดงซุปตาร์แบบอัดแน่นจอ เคยเป็นหนึ่งในโปรเจกต์หนังฟอร์มดีของเกาหลีตั้งแต่เริ่มสร้าง แต่ไฉน..ปลายทางของหนังเรื่องนี้กับเงียบเชียบเช่นนี้? 

เรื่องราวในช่วงปี 1997 ที่เกาหลีใต้เผชิญหน้ากับวิกฤตเศรษฐกิจไอเอ็มเอฟ นั่นทำให้ธุรกิจครอบครัวของกุกฮุยต้องพังครืนลงไป ทำให้เขากับครอบครัวตัดสินใจย้ายไปตั้งต้นใหม่ที่กรุงโบโกตา เมืองหลวงของโคลอมเบีย ทวีปอเมริกาใต้ เขาได้เริ่มทำงานให้กับคุณพัค พ่อค้าชาวเกาหลีที่ทรงอิทธิพลในพื้นที่ ที่ความมุ่งมั่นบากบั่นของเขาเข้าตาเจ้านาย จึงได้รับมอบหมายงานเสี่ยงอันตรายให้กับเขาที่ไม่ต่างกับเอาชีวิตเป็นเดิมพัน

นี่คือผลงานใหม่ของผู้กำกับ "คิมซองเจ" ที่กลับมาสร้างหนังอีกครั้งในรอบ 7-8 ปี ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ความยิ่งใหญ่ในการเป็นหนังที่รวมทัพดาราเอาไว้แน่นได้ดีอีกครั้ง คิมซองเจมีชื่อค่อนข้างดีในฐานะผู้จัดและผู้สร้าง แต่อาจจะไม่ได้มีประสบการณ์ในการสร้างหนังสักเท่าไหร่ นี่น่าจะเป็นผลงานการทำหนังเรื่องที่ 2 หรือ 3 ในอาชีพของเขาเท่านั้น กลายเป็นว่าหนังยังเต็มไปด้วยส่วนขาด ๆ เกิน ๆ อยู่มากมาย พึ่งพาพลังดาราอย่างเดียวไม่ไหวจริง ๆ

แม้ว่าพล็อตเรื่องของหนังจะค่อนข้างเข้มข้นน่าสนใจดี กับการตีแผ่ประเด็นคนเกาหลีหนีตายออกนอกประเทศ จากวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงปลายยุค 90s แต่น่าเสียดายที่พล็อตเรื่องดีแต่การเล่าเรื่องยังไม่สามารถสร้างพลังได้เปี่ยมล้นเพียงพอได้สักเท่าไหร่ กลายเป็นหนังที่มีแต่อะไรดี ๆ แต่ถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างจืดชืด และจำเจกับหนังเกา หลีที่วาดลวดลายสไตล์หนังแนว ๆ อยู่เพียบวงการมากในเวลานี้ จนกลายเป็นสิ่งที่ไม่น่าสนใจไปแล้ว

หนังเรื่องนี้เผชิญหน้าความล่าช้ากว่าจะได้ฉาย เพราะจำได้ว่าหนังเปิดกล้องถ่ายทำตั้งแต่ช่วงโควิดแพร่ระบาด ยกกองถ่ายไปทำงานที่ฝั่งอเมริกาใต้ โดยในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา วงการหนังเกาหลีมักนิยมการยกกองไปสู่โลเคชันต่างแดนและวางโครงเรื่องที่ค่อนข้างเต็มไปด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอยู่หลายเรื่อง ในเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน มาพร้อมกับสูตรยอดนิยมของหนังเกาหลีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อหลังได้โอกาสฉายหลังใครเพื่อน ก็กลายเป็นว่าไร้ความสดใหม่ไปในทันที

Bogota: City of the Lost ได้พระเอกซุปตาร์ "ซงจุงกิ" มารับบทนำในหนังเรื่องนี้ แต่น่าเสียดายที่กลายเป็นว่าบทบาทการแสดงของเขาค่อนข้างซ้ำกับผลงานเรื่องก่อน ๆ ในช่วง 2-3 ปีผ่านมาของเขา ไม่ว่าจะเป็น Hopeless หรือ My Name is Loh Kiwan โครงสร้างของบทแทบจะมาในลักษณะเดียวกันหมด กับบทชายหนุ่มผู้ไร้สิ้นความหวังในชีวิต แน่นอนว่าเขายังรับมือกับบทตัวเองได้อย่างเป็นมืออาชีพอยู่ แต่พลังของเขาก็ยังไม่อาจจะแบกหนังทั้งเรื่องไว้ได้อย่างลุล่วง

ถึงจะยังได้ทีมนักแสดงระดับตัวเทพ ๆ อย่าง "อีอีจุน", "ควอนแฮฮโย" หรือ "พัคจีฮวัน" มาร่วมผสมโรงในหนังเรื่องนี้ แต่กลายเป็นว่าพลังของพวกเขาก็ไม่เพียงพอ ถึงจะมันจะเป็นหนังที่รวมทัพดาราตัวเป่ง ๆ แต่ตัวหนังยังทรงพลังได้ไม่เพียงพอสักเท่าไหร่ กลายเป็นเพียงหนังรวมดาราตามสูตร ที่บทบาทต่าง ๆ ยังค่อนข้างไร้มิติไปสักนิด

ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว Bogota: City of the Lost ค่อนข้างเป็นหนังเกาหลีที่ฟอร์มดีที่โดดเด่นที่องค์ประกอบงานสร้างและโปรดักชัน แต่ทว่าหนังยังไร้พลังไปอย่างน่าเสียดาย พล็อตหนังและสตอรี่ยังไม่ค่อยดึงดูดใจได้อยู่หมัด บทหนังก็วนอยู่สูตรเดิม ๆ ของหนังเกาหลียอดนิยมในยุคนี้ แม้ว่าจะเป็นการรวมพลังดาราตัวเป้ง ๆ เอาไว้ แต่หนังก็ยังไม่สามารถกระตุ้นความยิ่งใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิผล ผลลัพธ์จึงออกมาค่อนข้างน่าผิดหวังนิดหน่อยอยู่เหมือนกัน

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Bogota: City of the Lost โบโกตา เมืองคนหลง

• ประเภท: แอคชัน / ระทึกขวัญ / ดรามา
• ผู้กำกับ: คิมซองเจ
• นำแสดงโดย: ซงจุงกิ, อีอีจุน, ควอนแฮฮโย, พัคจีฮวัน
• ความยาว: 106 นาที
• กำหนดฉายในไทย: 3 กุมภาพันธ์ 2025 (ที่ Netflix)

Movie.TrueID METRIC: Bogota: City of the Lost โบโกตา เมืองคนหลง

• ภาพรวม
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6.2/10)
• การเล่าเรื่อง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (ุ5.8/10)
• การแสดง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.0/10)
• เทคนิคงานสร้าง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (6.8/10)
• บทภาพยนตร์
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6.0/10)