เรารู้จักหนังสือเล่มนี้มานานแล้ว รู้ว่าเป็นหนังสือดี หนังสือรางวัล แต่ว่ายังไม่มีโอกาสอ่าน พอลูกโตขึ้นถึงวัยอ่านหนังสือวรรณกรรมได้เอง จึงแนะนำให้ลูกอ่าน แล้วลูกนั่นแหละมาบอกว่า ประทับใจ เศร้าใจ อินกับหนังสือเล่มนี้มาก ทำให้เรากลับมาอ่านบ้างความสุขของกะทิ เป็นหนังสือประเภทวรรณกรรม ผลงานของคุณ งามพรรณ เวชชาชีวะ จัดพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2546 เล่มที่เราได้อ่านอยู่ พิมพ์ครั้งที่ 18 ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์เลย เพราะล่าสุดจัดพิมพ์ไปแล้ว ครั้งที่ 100 เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้รับรางวัล วรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2549 หนังสือเรื่องนี้ถูกนำไปแปลเป็นภาษาต่างประเทศถึง 5 ภาษา และสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2552 นอกจากนี้ยังได้รับการจัดเป็น หนังสือวรรณกรรมเยาวชน 50 เรื่อง ที่ควรอ่านก่อนโต อีกด้วยผู้เขียนถ่ายทอดเรื่องราว โดยใช้การอธิบายสิ่งรอบตัวให้เรามองเห็นภาพ เหมือนเราหลุดเข้าไปเป็นผู้แสดงเอง ซึ่งคนที่จะเขียนจนเราสามารถมองเห็นภาพได้นี่ ต้องเป็นผู้ที่ใช้คำที่เก่งมาก สามารถทำให้ผู้อ่านเศร้าน้ำตาซึม น้ำตาไหล บีบกระชากหัวใจก็ได้ หรือใช้คำสร้างอารมณ์ขันก็ได้ ตัวอย่างเช่นประโยคนี้ของตอนต้นเรื่อง ที่ทำให้เราแอบอมยิ้ม “ยายไม่เคยยิ้มตอบหรือทักทาย ตาบอกว่า ยิ้มของยายมีน้อย ต้องสงวนเอาไว้อัดกระป๋องส่งออกไปขายต่างประเทศ”เริ่มต้นเรื่องสบาย ๆ ด้วยบ้านริมคลอง อธิบายความเป็นอยู่ของเด็กหญิงกะทิ อายุ 9 ปี ที่อาศัยอยู่กับตายายที่จังหวัดอยุธยา ผู้เขียนค่อย ๆ เปิดเผยเรื่องราวให้ผู้อ่านรู้ว่า แม่ของกะทิกำลังป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งไม่มีทางรักษาได้ เดินเรื่องช้า ๆ ให้ผู้อ่านซึมซับความรัก ความอบอุ่นระหว่างแม่ลูก พร้อมกับความอยากรู้ว่าเรื่องจะดำเนินต่อไปอย่างไร พอผู้อ่านเริ่มดำดิ่งลงไปในความรู้สึก บีบคั้นอารมณ์ มากพอแล้ว ก็ยิงเนื้อหาเข้มข้นเข้าจุดสำคัญ แล้วคลายออกด้วยความตายของแม่บทหลังจากที่แม่ตาย ก็ยังมีปมปริศนาให้อ่านต่ออีก ขณะอ่านไป เราเองก็ถามตัวเองไปว่า แล้วพ่อกะทิไปไหน ทำไมไม่มาช่วยเหลือ ผู้เขียนก็รู้ใจ ค่อย ๆ คลายปริศนาออกมา แต่คลายไม่หมด ทิ้งไว้เป็นปม ในบทส่งท้ายที่จบแบบดื้อ ๆ ให้ไปติดตามกันต่อในเล่มถัดไปอยากบอกว่าหนังสือเล่มนี้ สามารถอ่านได้ทุกเพศ ทุกวัย สะเทือนอารมณ์ได้ทั่วถึงทุกคน ใครที่มีลูกถึงวัยที่อ่านหนังสือวรรณกรรมได้ ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน นอกจากเรื่องต้นฉบับแล้ว ยังมีหนังสือที่เขียนตามมาอีก 2 เล่ม นั่นก็คือ ความสุขของกะทิ ตอนตามหาพระจันทร์ และ ตอนในโลกใบเล็กไม่บ่อยหรอกนะคะ ที่วรรณกรรมของคนไทย จะสามารถถูกซื้อลิขสิทธิ์จากชาวต่างชาติ เพื่อแปลเป็นภาษาต่างประเทศได้มากถึงขนาดนี้ รางวัลการันตีขนาดนี้ ยังจะต้องสงสัยอะไรอีก รีบหามาอ่านค่ะภาพทั้งหมดโดย Lek-Farmfunbookหนังสือเรื่อง : ความสุขของกะทิผู้แต่ง : งามพรรณ เวชชาชีวะจำนวนหน้า : 120 หน้าราคา : 105 บาท