“จี๋ สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร" นักแสดงที่มีผลงานมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2016 ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด ระยะเวลา 7 ปี รวมทั้งผลงานล่าสุดรับบท "รก บูรณพนธ์" จากภาพยนตร์ "4 Kings II" ก็ยิ่งทำให้มีแฟน ๆ ติดตามมากขึ้นเรื่อย ๆ “จี๋" ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงมาอย่างที่เจ้าตัวไม่ได้คาดคิดมาก่อน เพียงเพราะ "ป้าตือ สมบัษร" มองเห็นแววขณะที่เขานั่งเล่นอยู่ที่สยาม จึงชวนไปเป็นนายแบบ และ "จี๋" ก็ตอบรับด้วยความสนใจ เพราะการเข้าวงการบันเทิงก็เป็นความฝันหนึ่งในช่วงเด็ก ๆ และเมื่อได้ก้าวมาสู่เส้นทางความฝัน จึงมีผลงานทั้งการเป็นนายแบบ ภาพยนตร์ ละคร มิวสิควิดีโอ และงานโฆษณา มีผลงานให้ได้ชมกันจากหลากหลายคาแรคเตอร์ "จี๋" รับทุก ๆ งานด้วยความรู้สึกสนุกจากบทบาทที่ท้าทายความสามารถ จึงทุ่มเทความตั้งใจในการทำงานให้ผลงานนั้น ๆ อย่างสุดพลัง ลงลึกไปถึงรายละเอียดของตัวละครให้มากที่สุด ก่อนจะส่งผ่านรายละเอียดเหล่านั้นออกมาเป็นการแสดงตามแต่ละบทบาทที่ได้รับ เมื่อนึกถึงผลงานของ “จี๋” ว่ามีเรื่องอะไรบ้าง ก็ขอเลือกเรื่องมาทั้งหมด 5 เรื่อง จากหลาย ๆ ผลงานการแสดงนะคะ ภาพยนตร์ "4 Kings II""4 Kings II" เล่าถึงปัญหาของนักเรียนอาชีวะยุค 90 ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์ เป็นเรื่องที่สร้างต่อเนื่องจาก "4 Kings" ที่เล่าเรื่องของนักเรียนอาชีวะมาแล้วในหลาย ๆ รูปแบบของปัญหา อย่างเข้าถึงปัญหาจริง ๆ ทำให้ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จทั้งในแง่รายได้และรางวัล “4 Kings II" เป็นเรื่องราว 1 ปีต่อมาจากเรื่องราวของภาค 1 ก็ยังยึดหลักตั้งใจสะท้อนปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นจริง ๆ อีกครั้ง เน้น ๆ ที่สังคมของอาชีวะ กับปัญหาครอบครัว, ยาเสพติด และปัญหาความรุนแรง เป็นการนำเรื่องจริงในสังคมออกมาตีแผ่ ในรูปแบบของความบันเทิงที่เป็นอุทาหรณ์ให้ตระหนักรู้ และหาทางแก้ไขกันต่อไป ไม่ได้เป็นหนังที่สร้างค่านิยมความรุนแรงแต่อย่างใด "จี๋ สุทธิรักษ์” รับบทเป็น “รก บูรณพนธ์” หรือ “โก๋รก” ซึ่ง "จี๋" ทุ่มเทให้กับการแสดงในเรื่องนี้มาก ทั้งลดน้ำหนัก ไว้ผมยาว ไว้หนวด ทำให้ผิวกร้านมากขึ้น ฟังเพลงในยุค 90 ใช้ชีวิตแบบตัวละคร เพื่อให้เข้ากับคาแรคเตอร์ และโชว์พลังอย่างสุด ๆ กับทุกซีนที่ต้องเข้าฉาก ทั้งความตั้งใจของ "จี๋" รวมทั้งนักแสดงและทีมงาน จึงทำให้ภาพยนตร์ภาคต่อประสบความสำเร็จ ครองใจแฟนหนังได้อีกครั้งละคร “เกมรักทรยศ”“จี๋” รับบทเป็น “ตุลย์” ในละคร ”เกมรักทรยศ” ด้วยบทบาทพระเอกหนุ่มที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่เบื้องหลังคือชายหนุ่มที่มีปัญหาในชีวิต มีภาวะเป็นโรคซึมเศร้าจากการทำงาน แม้จะอ่อนแอ แต่ก็ยังต้องมีความเข้มแข็งเพื่อคอยดูแล “หมอเจน” (แอน ทองประสม) ที่ประสบปัญหาในครอบครัว การมารับบทคนที่มีภาวะซึมเศร้า “จี๋” ได้ศึกษาการของคนป่วยด้วยความตั้งใจ เพื่อให้เข้าถึงตัวละคร “ตุลย์” ให้มากที่สุด ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก เรียกว่าตั้งแต่ฉากแรกที่ออกมาให้ได้เห็นในฐานะคนไข้ของหมอเจน ก็ถูกใจในความเป็นหนุ่มมาดเซอร์ที่หล่อละมุน จนได้รับฉายาสามีแห่งชาติไปอีกคน และเป็นเจ้าของสมญานาม “สามีที่ดีคือสามีใหม่” ไปครองกันเลยทีเดียวละคร “ผู้ใหญ่ลี ศรีบานเย็น”"จี๋" รับบทเป็น "แบงค์" ในละคร "ผู้ใหญ่ลี ศรีบานเย็น" เพื่อนรุ่นน้องในวัยเด็กของ "ผู้ใหญ่ลี" หรือ "ข้าวสำลี" รับบทโดย "รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น" ที่เมื่อแบงค์รู้ว่าสังคมในหมู่บ้านตั้งข้อรังเกียจ ไม่ต้องการผู้ใหญ่บ้านที่เป็นกะเทย จึงอัดคลิปเต้นในลุคสาวสองให้ทุกคนเข้าใจว่าตัวเองก็เป็นเหมือนกัน เพื่อให้มีความเสมอภาคกัน ในการที่จะลงแข่งขันเป็นผ้ใหญ่บ้านด้วยกัน เพราะไม่ต้องการให้ใครใช้เรื่องของเพศสภาพมาเป็นข้อกำหนดแทนที่จะเลือกจากการใช้ความสามารถ เพื่อมาทำงานรับใช้ประชาชน ฉากอัดคลิปเต้น เป็นฉากที่ "จี๋" โชว์มุมน่ารัก ๆ ในบทที่ไม่เคยเห็นมาก่อนให้แฟน ๆ ได้ยิ้มกัน และก็ยังได้บันเทิงไปกับตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่ต้องทำหน้าที่ช่วยงานผู้ใหญ่ลี ที่มีเรื่องวุ่น ๆ ไม่เว้นแต่ละวันอีกด้วย เป็นละครดราม่าคอเมดี้ ที่สนุกมาก ๆ ละคร “Letter From The Sun ครั้งนั้นไม่เคยลืม” ละครสั้น 2 ตอนจบ "Letter From The Sun ครั้งนั้นไม่เคยลืม" เป็นผลงานจากโครงการวิจัยเรื่อง “นวัตกรรมละครโทรทัศน์เพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรมไทย 4.0” ของศูนย์พหุวัฒนธรรมศึกษาและนวัตกรรมทางสังคม สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “จี๋” รับบทเป็น “ทาคูมิ” ลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น คาแรคเตอร์เป็นหนุ่มสุขุมนุ่มลึก ชอบที่จะฟังมากกว่าพูด ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมาให้ใครรู้ว่าคิดอะไรอยู่ เขาเดินทางจากญ๊่ปุ่นมาเมืองไทยเพื่อตามหาความจริงบางอย่างเกี่ยวกับคุณแม่ของเขาในประเทศไทย ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เรื่องราวในละครเล่าผ่านงานจักสานย่านลิเภา เล่าถึงความรักในวัยหนุ่มสาวของแม่ทาคูมิและพ่อของ "ลิตา" (มายด์ วรัทยา) ที่มีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน แต่ก็ต้องจากกันเมื่อแม่ทาคูมิเดินทางกลับญี่ปุ่น และมาถึงวันนี้ทาคูมิเองก็ต้องถึงทางเลือกเช่นกันระหว่างลิตาหญิงสาวที่เขารักกับคู่หมั้นที่รอคอยอยู่ที่ญี่ปุ่น ด้วยคาแรคเตอร์หนุ่มญี่ปุ่น แฟน ๆ ที่ได้ติดตามละครเรื่องนี้ พูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า “จี๋” เหมือนคนญี่ปุ่นมาก เมื่อมาโชว์การพูดไทยคำญี่ปุ่นคำ พูดภาษาไทยแบบคนญี่ปุ่นพูด ซึ่งเป็นความท้าทายใหม่ในชีวิตการเป็นนักแสดงของเขา ทำให้ผู้ชมอย่างเรา ๆ รู้สึกว่า “จี๋” แสดงเป็นคนญี่ปุ่นได้น่ารักมาก ๆ ละครได้เล่าถึงความรักที่ไม่ได้มีแค่มุมสวยงาม ไม่ใช่เรื่องราวของอารมณ์ชั่ววูบ แต่หมายรวมถึงความอดทน ความมุ่งมั่น และการไม่ทอดทิ้งคนหนึ่งคนใดไว้เบื้องหลังให้เผชิญปัญหาแต่โดยลำพัง ซึ่งทาคูมิก็ต้องทบทวนเรื่องราวความรักของตนเอง ผ่านเรื่องราวความรักของรุ่นพ่อแม่ ที่สะท้อนให้เห็นถึงทางเลือกครั้งสำคัญในชีวิตรัก ที่ท้ายที่สุดแล้วได้บอกเล่าเรื่องราวการตัดสินใจ ผ่านสายตา ผ่านรอยยิ้มได้ โดยไม่ต้องมีคำพูดใด ๆ ละครเรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้รับรางวัลประเภท Special Mention Award งาน 6th Innovative International Film Festival (IIFF) ณ เมืองบังคาลอร์ รัฐกรณาฏกะ ประเทศอินเดีย ละคร "Tea Box ชายชรากับหมาบ้า""Tea Box ชายชรากับหมาบ้า" ละครสั้น 4 ตอนจบ เป็นละครชุด "อย่า อยู่ อย่าง อยาก The Series" ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับมุมมองในการใช้ชีวิตให้ได้ชมกันหลายเรื่อง สำหรับเรื่องนี้ เล่าเรื่องราวของ "วิชัย" (นิรุตติ์ ศิริจรรยา) ชายชราอายุ 70 ปี ที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและกลายเป็นโรคซึมเศร้าหลังจากภรรยาเสียชีวิต กับ "เจเจ" (จี๋ สุทธิรักษ์) เด็กหนุ่มข้างบ้านที่ชีวิตไม่ประสบความสำเร็จสักเรื่อง ตกงาน แฟนทิ้ง แถมต้องมามีเรื่องกับลุงข้างบ้านอย่างวิชัยเพราะแอบไปขโมยมะม่วงลุงจนโดนแจ้งความจับ แต่ตำรวจก็ช่วยไกล่เกลี่ยให้เจเจมาช่วยรดน้ำต้นไม้เพื่อเป็นการไถ่โทษ เจเจที่ตกงานและเงินหมดจึงยอมทำงานนี้แต่ก็ขอค่าแรงด้วย ทั้งคู่ไม่ถูกชะตากัน แต่เพราะต่างก็ไม่มีใครในชีวิต จึงเลือกวิธีสื่อสารผ่านการเขียนโน้ตไว้ในกล่องชาแทนที่จะพูดคุยกัน โดยไม่รู้ตัวเลยว่านั่นคือจุดเริ่มต้นของมิตรภาพต่างวัย ที่ได้มาเติมเต็มชีวิตให้กันและกัน และตอบคำถามของตัวเองได้ว่าในวันที่ไม่มีใคร ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร แท้จริงแล้วยังมีความสุขในฐานะของผู้ที่เติมเต็มความสุขให้อีกคนหนึ่งได้ เรื่องนี้เป็นละครที่ได้เห็นชายชรากับเด็กหนุ่มที่ต่างก็กวนอารมณ์กันได้แบบสุด ๆ แต่ก็ทำให้คนดูละครยิ้มได้ และลุ้นไปกับการตัดสินใจในชีวิตของพวกเขาว่าจะเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองอย่างไร ทั้ง "อาหนิง นิรุตติ์" และ "จี๋" แสดงได้ประทับใจมาก ๆ และด้วยความยอดเยี่ยมของทั้งนักแสดง ทีมงานและบท ทำให้ได้รับรางวัลละครสร้างสรรค์สังคมดีเด่น ในงานประกาศรางวัลโทรทัศน์ทองคำครั้งที่ 36 ประจำปี 2021 ด้วย"จี๋ สุทธิรักษ์" ยังมีอีกหลาย ๆ ผลงานละครทั้งที่ออกอากาศให้ชมกันไปแล้ว และยังอยู่ในระหว่างถ่ายทำ ซึ่งจะมีเรื่องอะไรบ้าง รอติดตามกันได้เลย... ติดตาม "จี๋ สุทธิรักษ์"IG :: geesutthirakขอบคุณภาพประกอบจาก geesutthirak / ละคร ไทยพีบีเอสภาพปก ภาพที่1 ภาพที่2-4ภาพที่1 ภาพที่2 ภาพที่3 ภาพที่4 ภาพที่5 ภาพที่6 ภาพที่7 ภาพที่8 ภาพที่9 ภาพที่10 ภาพที่11 ภาพที่12 ภาพที่13 ภาพที่14 ภาพที่15 ภาพที่16 ภาพที่17ติดตามข่าวสาร คอนเทนต์เด็ด ๆ ก่อนใคร อย่าช้า โหลดเลยที่ TrueID !!