"วุ้นเส้น วิริฒิพา" เผยโมเมนต์งานวิวาห์ที่ฝรั่งเศส พร้อมเผยจุดเปลี่ยนใจที่ทำให้อยากมีลูก
"วุ้นเส้น วิริฒิพา" เผยโมเมนต์งานวิวาห์สุดโรแมนติกที่เมืองโพรวองซ์ ฝรั่งเศส พร้อมเผยจุดเปลี่ยนใจที่ทำให้อยากมีลูก เพราะเชื่อว่า “นิกม์” เป็นพ่อที่ดีได้
หลังจากควงแขนเจ้าบ่าว “นิกม์ ธนะภูมิกุล” ไปจัดงานวิวาห์สุดโรแมนติกไกลถึงเมืองโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ท่ามกลางเพื่อนๆ และคนใกล้ชิดที่บินไปร่วมเป็นสักขีพยานรักประมาณ 120 คน
ล่าสุดเจ้าสาวป้ายแดง “วุ้นเส้น วิริฒิพา” ที่ได้ไปร่วมงานเปิดตัว JM COSMETICS ในฐานะผู้บริหารแบรนด์ SEWA ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ก็ได้เปิดใจเล่าถึงบรรยากาศงานวิวาห์สุดโรมแมนติกกับสามีหนุ่ม “นิกม์ ธนะภูมิกุล” พร้อมเผยโมเม้นต์สุดประทับใจ วินาทีเจ้าบ่าวให้คำมั่นสัญญาถึงขั้นน้ำตาไหล และได้รีวิวชีวิตหลังแต่งงาน 1 เดือน
เล่าถึงงานแต่งให้ฟังหน่อย?
“ก็กลับมาแล้วค่ะ (หัวเราะ) เหนื่อยมาก ก็ผ่านไปเดือนนึงรู้สึกว่าแฮปปี้กับทุกอย่าง เหนื่อยเดินทาง แล้วก็เหนื่อยแทนเพื่อนๆ หลายคนที่ไปถึงจุดนั้นเพราะว่ามันไม่ได้ไปง่าย คือทุกคนคิดว่าพอลงเครื่องบินเสร็จก็ถึงเลย แต่ต้องต่อไปอีกเมืองหนึ่ง (สาแก่ใจไหม?) สาแก่ใจ เหนื่อยสมใจ”
หลายคนอยากรู้ว่าไปจัดที่นู่นงบประมาณเยอะขนาดไหน?
“จริงๆ มันก็บางอย่างก็เยอะ บางอย่างก็ไม่เยอะ เหมือนกับเราสับสนกับงบเราเหมือนกันว่าอันนี้คิดว่าแพงแต่จริงๆ ไม่แพง แต่บางอย่างคิดว่าไม่ควรแพงแต่แพง แต่โดยรวมก็อยู่ในบัตเจ็ทที่วางไว้ ไม่ได้เยอะมาก เพราะว่าแขกเราไม่เยอะประมาณ 120 คน”
เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้ทั้งหมดเลยไหม?
“เป็นโมเมนต์อย่างที่ตั้งใจและบางอย่างก็เกินกว่าที่คิด เพราะอย่างพลุ ตอนแรกก็คิดว่าจะน้อยกว่านี้เขาก็เหมือนแถมให้”
ประทับใจตรงไหนที่สุด?
“น่าจะประทับใจคำพูดของเจ้าบ่าวมากกว่าว่าเหมือนเราไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไรวันนั้น แล้วเหมือนเขาไม่ได้เตรียมตัว แต่พอพูดออกมาแล้วเขาดูเตรียมตัว (หัวเราะ) คือก่อนหน้าหน้านั้น 2-3 วันเขาบอกเขายังไม่ได้เขียนเลยนะ ยังไม่ได้ทำ เราก็รู้สึกว่าเขาต้องเขียนไม่ทันแน่เลย ต้องมีเราเขียนคนเดียว แต่พอตอนหลังเขาก็ พูดออกมา เราก็เซอร์ไพรส์ จะร้องไห้”
จำได้ไหมว่าเขาพูดว่าอะไร?
“เขาก็สัญญาว่าจะดูแลเรา เขาบอกว่าจะทำอะไรบ้าง อย่างประโยคที่เรารู้สึกว่ามันก็ตัวเขาจริงๆ ก็คือเขาจะถ่ายรูปให้เราไปตลอดชีวิต จะเป็นหมอนข้างให้เรา เราก็แบบฉันกำลังดูหนังเกาหลีอยู่หรือเปล่า (ยิ้ม) เขาก็น่ารักนานๆ ที (ตั้งแต่คบกันมาเขาเคยพูดอะไรแบบนี้ไหม?) เขาก็เป็นคนหวาน แต่ไม่ขนาดนี้ วันนั้นคือมันจะเป็นหวานแบบมีโมเมนต์โรแมนติกแล้วก็มีน้ำตานิดนึง บรรยากาศมันซึ้งมาก”
ได้ใช้ชีวิตสามีภรรยาแล้วเป็นยังไงบ้าง?
“ก็แทบไม่ได้เปลี่ยนอะไรนะคะ จริงๆ เราก็เรียนรู้กันอยู่แล้ว อยู่กันมา 5 ปีแล้ว มันก็เหมือนไม่ได้ปรับตัวอะไรมาก เขาก็เป็นตัวของตัวเองแต่แรก ถ้าเกิดเราไม่เป็นตัวของตัวเองเราก็คงอยู่กับเขาไม่ได้ ก็เลยรู้สึกว่าเราเลือกคนที่รักในตัวเรา ไม่ต้องปรับเยอะ”
งานต่อไปก็คืองานฉลอง?
“พี่ๆ สื่อไปด้วยนะคะ วันที่ 7 ธันวาค่ะ ที่โรงแรมดุสิตธานี (มีธีมไหม?) มี แต่ว่าอาจจะไม่ได้จริงจังมาก เพราะเหมือนเราเหนื่อยกับงานนั้นแล้ว งานนี้ก็เหมือนมาปาร์ตี้กันมากกว่าค่ะ ง่ายๆ”
หมอดูว่ายังไงบ้าง แต่งครั้งนี้ต้องมีอะไรพิเศษ ?
“หมอดูเขาก็ไม่ได้บอกว่าจะเป็นยังไง แต่เหมือนตอนแรกเขาก็บอกว่าให้จัดแบบไม่ต้องมีพิธีตอนเช้าอะไรเยอะ คืออยากให้จัดตอนเย็นไปเลย เราก็ไม่ได้ถึงขนาดจำ หรือเชื่อขนาดนั้น แต่เราก็คุยกับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเขาก็เห็นด้วยว่าเราแต่งแบบจริงจังที่นู่นไปแล้วที่นี่ก็ขอให้เป็นแขกที่ยังไม่ได้ไป แล้วก็มาปาร์ตี้มาร่วมกันดีกว่าง่ายๆ ค่ะ (สรุปไม่มีพิธีเช้า?) สรุปไม่มี (ยิ้ม)”
ที่หลายคนจับตามองคือชุดเจ้าสาว?
“เป็นชุดที่เราตั้งใจทำมากๆ ในชุดแรกเพราะเหมือนเป็นชุดที่เจ้าบ่าวเห็นชุดแรก แต่ว่าชุดที่ 2 ชุดที่ 3 ก็สำคัญหมด มีคอนเซปต์ที่เราตั้งใจทำหมด เราก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆ มีแบรนด์ที่ตัดให้เราเป็นของขวัญ สวยมาก ก็ช่วยกัน เขาก็บอกว่าสงสาร เห็นใช้งบไปเยอะแล้ว บางอย่างที่ไม่ต้องจ่ายตังค์ก็ให้”
เจ้าบ่าวอึ้งไหมตอนเห็น?
“คือตอนที่เขาเห็นเราไม่รู้ว่าเขาอึ้งอะไร (หัวเราะ) มันอาจจะบรรยากาศด้วย หรือตื่นเต้นที่ต้องสปีชอะไรหรือเปล่า (เขามีโมเมนต์น้ำตาไหลไหม?) มีน้ำตาไหลตอนที่เราพูดให้เขา เขาก็รู้สึกว่าเพราะบรรยากาศตรงนั้นมันมันเงียบหมดเลย (ตอนนั้นเราพูดอะไรไป?) ก็ซัพพอร์ตเขาแหละซัพพอร์ต ความฝันของเขา ในความที่เขาอยากมีความสุขกับอะไรเราก็จะทำให้เขาแฮปปี้ทุกอย่าง คือจะเป็นเรื่องดีๆ ในชีวิตเขา”
เปลี่ยนใจจะมีน้อง?
“คือจริงๆ เรื่องการมีลูก วุ้นแพลนว่าเขาอยาก เราก็เลยเหมือนคุยกันว่าเราจะยังไง เพราะเราอายุไม่น้อยแล้ว ก็เลยต้องปรึกษาหมอนิดหนึ่งว่าเรายังได้อยู่ไหม หมอบอกยังมีโอกาสอยู่ แต่ว่าต้องรีบหน่อย แต่ปีนี้คงไม่ทันเพราะเราก็มีละครอีกก็เลยต้องไปปีหน้าแล้ว (ต้องไปฝากไข่?) ต้องไปทำค่ะ จริงๆ การฝากไข่บางคนเขาก็ฝากไว้นานแล้ว แต่หมอบอกว่าถ้าดีที่สุดคือถ้าแต่งงานแล้วก็ผสมทำตัวอ่อนไปเลยก็จะดูปลอดภัยและง่ายกว่า”
จุดเปลี่ยนที่ทำให้อยากมีน้องคือตรงไหน?
“มันคงเป็นเพราะว่าคุณนิกม์ด้วยแหละ เหมือนเขามีความอบอุ่น มีความเป็นพ่อ มีหลายๆ อย่างที่เรารู้สึกว่าถ้าเขาอยากมีเราก็อยากเต็มที่กับเขา เพราะถ้าเกิดเขาเป็นคนอีกลักษณะนึงเราก็คงอาจจะชิลๆ อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ดีกว่าแต่เราสังเกตจากการที่เขาเลี้ยงแมว หรืออะไรต่างๆ ก็จะเห็นว่าเขาดูน่าจะเป็นพ่อที่ดี”
เคยบอกเขามั้ยว่าเราไม่ได้มีความคิดที่อยากจะมีลูก?
“บอกค่ะ บอกเลยว่าถ้าเธอคิดจะมีลูก แล้วเธอมาจีบฉันเนี่ยนะ ผิดคนหรือเปล่า คือต้องรู้ว่าถ้าคบกันวันแรกเราต้องอีกกี่ปีล่ะถึงจะแต่งงาน กว่าจะมีลูกเราก็อาจจะอายุมากเกินไป แต่สุดท้ายเขาก็บอกว่าให้ลองทำ ถ้าเกิดเราดูแลตัวเองดีมันก็มีโอกาส ก็ต้องลุ้นค่ะ”
แล้วพอเราตกลงโอเคเขาว่ายังไงบ้าง?
“ดีใจอยู่แล้ว เหมือนเขาทำใจไว้ 2 อย่าง ถ้ามีเขาก็คงแฮปปี้มาก แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เขาแพลนไว้ 2 แบบ ก็คงอยู่ 2 คนไปเรื่อยๆ”
มองภาพตัวเองเป็นแม่ว่ายังไง ?
“เป็นได้สิ (ยิ้ม) มันคงไม่มีใครนึกภาพออก แต่ว่าก็มีค่ะ พอเราโตขึ้นหลายๆ อย่างเราก็มีภาพตัวเองในหัวเหมือนกันว่าเราจะเลี้ยงลูกแบบไหน เป็นยังไงค่ะ”
ได้ถามหมอดูไหมว่ามีลูกแล้วจะปังไหม?
“ไม่กล้าพูดเลยอะ มันต้องมีก่อนถึงจะรู้ไง แต่ว่าทุกคนเขาก็บอกแหละถ้ามีลูกก็คงจะมีความสุขขึ้น แล้วก็มีแรงทำงานมากขึ้น มีแรงหาเงินมากขึ้น”