หลอนระทึกขวัญ เทคนิคสร้างความกลัวดีมากจากนิยายวิทยาศาสตร์มนุษย์ล่องหน The Invisible Man ปลายปากกาของ เอช.จี. เวลส์ ที่สร้างความเลื่องลือในเรื่องของไอเดียสุดพิศดารที่ว่าด้วยมนุษย์ที่สามารถล่องหนโดยที่ไม่ดูดซับแสงหรือสะท้อนแสงได้ พร้อมกับพฤติกรมสุดประหลาดที่เกิดอาชญากรรมโดยที่ไม่มีใครหาตัวจับได้ จากเรื่องราวนี้ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นภาพยนตร์หลายครั้ง ที่น่าจะคุ้นตาที่สุดก็คงเป็น Hollow Man ในปี 2000 นำแสดงโดย เควิน เบคอนแม้ว่านิยายวิทยาศาสตร์นี้จะดูถูกทำซ้ำดัดแปลงมาหลายรอบจนชินตา ประกอบกับในยุคปัจจุบันความสามารถในการล่องหนได้ ถูกนำมาเป็นมุกตลกล้อเลียนจนไม่เป็นที่น่ากลัวอีกต่อไป จนกระทั่งล่าสุดในปี 2020 เหมือนว่าความน่ากลัวของการล่องหนจะกลับมาอีกครั้งในภาพยนตร์ทุนต่ำจากค่าย Blumhouse ในชื่อ The Invisible Manที่มารูปภาพ: theinvisiblemanmovieThe Invisible Man ในฉบับปี 2020 จะอิงเนื้อหาตัวละครจากนิยายบางส่วนผนวกกับยุคสมัยใหม่ ทำให้เป็นหนังระทึกขวัญผสมการไล่ล่าของหญิงสาวที่ถูกคุกคามจากบุรุษเพศ ว่าด้วยหญิงสาวชื่อว่า "เซสิเลีย" กำลังหลบหนีออกจากบ้านแฟนหนุ่ม "เอเดรียน กริฟฟิน" ผู้นำด้านทัศนศาสตร์ของโลก เมื่อเธอหนีจากเขาได้สำเร็จไม่นานนัก ก็พบว่า เอเดรียน เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาด้วยความโล่งใจทำให้เธอคิดว่าหลุดพ้นจากความรุนแรงที่เอเดรียนทำกับเธอได้แล้ว ทว่าเธอกลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ความรู้สึกคุกคามที่คุ้นเคย บางทีเธอคงรู้แล้วว่าเอเดรียนไม่ได้ตายแต่ค้นพบว่าทำให้ตัวเองล่องหนได้ ด้วยความสามารถนี้ทำให้เซสิเลียต้องเอาตัวรอดในขณะที่สภาพจิตใจก็ถูกย่ำยีจนใกล้อยู่ในสถานะ "บ้า"ที่มารูปภาพ: theinvisiblemanmovieภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถดัดแปลงเนื้อหาต้นฉบับเข้ากับยุคสมัยใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม ในเรื่องของผู้หญิงถูกคุกคามซึ่งในยุคสมัยนี้มีการตื่นตัวมากขึ้นผนวกกับจิตใจของนางเอกที่หวาดระแวงอยู่ก่อนแล้วเพราะสามีควบคุมการกระทำทุก ๆ อย่าง เมื่อมาเจอมนุษย์ล่องหนสุดจิตที่เป็นสามีเก่าของเธออีกก็ทำให้จิตใจพังมากขึ้น อนิจจาในเรื่องเธอกลับถูกหาว่าเป็นบ้าถูกจับเข้าสถานบำบัดเสียมันก็เหมือนกับการที่ผู้หญิงลุกมาเรียกร้องหรือถูกกระทำชำเราจนแบกหน้าขอความช่วยเหลือ แต่สุดท้ายคนภายนอกก้ไม่เคยเข้าใจจิตใจจริง ๆ ว่าพวกเธอรู้สึกอย่างไร ภาพยนตร์ The Invisible Man มันเลยเป็นกระจกที่สะท้อนไปยังโลกแห่งความเป็นจริงว่ายังมีผู้หญิงที่ถูกคุกคามแต่ไม่มีใครเชื่ออีกมากมายที่มารูปภาพ: theinvisiblemanmovieหากมองดูที่ความน่ากลัวของเรื่อง ต้องบอกว่าแม้จะไม่ใช่หนังผีแต่ถ่ายทอดออกมาเหมือนหนังผีมาก แม้จะรู้อยู่แล้วว่ามันคือมนุษย์ล่องหนแต่เราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ณ สถานที่ตรงนั้นในจอภาพยนตร์ "มัน" อยู่ตรงนั้นหรือเปล่า ซึ่งทางผู้กำกับฉลาดมากในการใช้ไอเดียเรียบง่ายในการถ่ายทำ เพียงแค่แช่กล้องในที่โล่งแล้วปล่อยให้จิตใจคนดูคิดไปเองว่า ตรงนั้นมันมีมนุษย์ล่องหนจริงหรือไม่ ?ซึ่งเทคนิคถ่ายทำแบบนั้นถูกใช้กันตลอดทั้งเรื่อง มันก็ยิ่งเล่นกับใจคนดูอย่างหนักหน่วง แน่นอว่าฉาก Jump Scare มีแน่นอนแต่จะโดนผู้กำกับหลอกฉากไหนให้ตกใจก็ขอให้ไปดูกันในโรงภาพยนตร์เองนะครับ บอกเลยว่ามันจะมาแบบไม่รู้ตัวเลยที่มารูปภาพ: theinvisiblemanmovieบรรยากาศของเรื่องจะอึดอัดบีบคั้นหัวใจตั้งแต่เริ่มเรื่องเลยครับ เพียงแค่ฉากแรกที่นางเอกลืมตาความกดดันก็ถาโถมใส่คนดูกันแล้ว อีกอย่างที่น่าชื่นชมคือการเล่นกับสถานที่คับแคบที่มีตลอดทั้งเรื่อง จะสังเกตว่าฉากไหนที่ตัวละครหลักอยู่ในพื้นที่โล่งหรือสถานที่ที่มีคนเยอะ หนังจะพาตัวละครไปสู่ที่แคบโดยเร็วที่สุดและแนบเนียนอีกต่างหากนอกจากเทคนิคถ่ายทำกับบรรยากาศแล้ว เทคนิคการหลอกล่อคนดูให้คล้อยตามก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ The Invisible Man ทำได้ดี มันจะทำให้คนดูสามารถคิดไปอีกแบบได้ว่าเซสิเลียถูกมนุษย์ล่องหนคุกคามหรือเพียงเพราะเธอเป็นบ้าเพราะจิตหลอนไปเองจริง ที่มารูปภาพ: theinvisiblemanmovieในส่วนของนักแสดงนำต้องพูดถึงมาก ๆ เลยครับเพราะ เอลิซาเบธ มอสส์ ในบท เซสิเลีย เธอทำได้ดีมากแสดงอารมณ์สีหน้าความวิตกจริต การเอาตัวรอดอย่างไม่ห่วงสวย หรืออารมณ์ต่าง ๆ บ่งบอกได้เลยว่ามันมีอันตรายอยู่จริง ๆ ส่วนนักแสดงสมทบท่านอื่น ๆ ก็ทำได้ดีตามมาตรฐานครับ อาจจะไม่โดดเด่นอะไรนักแต่ก็เป็นส่วนเติมเต็มให้หนังสมบูรณ์แบบสรุปแล้ว The Invisible Man เป็นภาพยนตร์สยองที่ปรับให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ได้ดีมาก ๆ แสดงให้เห็นว่าความสามารถล่องหนได้มันอนตรายและน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน เทคนิคการถ่ายทำไม่หวือหวาแต่สามารถเล่นกับจิตใจความกลัวได้ดีเยี่ยม หากใครที่ต้องการความระทึกในช่วงเวลานี้ The Invisible Man คือคำตอบเดียวที่แนะนำให้ไปดูครับ"8.5/10" (A- Rank)ที่มารูปภาพปก: theinvisiblemanmovie