[รีวิวซีรีส์] The Sympathizer (ตอนแรก) สปายเวียตกงสุดแสบจากฝีมือผู้กำกับ Old Boy
สิ่งที่ควรรู้ก่อนจะกดปุ่มเพลย์ซีรีส์อย่าง ‘The Sympathizer’ คือแม้ซีรีส์จะถูกผลิตโดย A24 บริษัทหนังอินดี้อเมริกันที่นับวันจะยิ่งผลิตงานที่ทะเยอทะยานมากขึ้นทุกที แต่โทนของซีรีส์กลับห่างไกลจากการโปรอเมริกาอย่างสิ้นเชิงเพราะมันถูกสร้างมาจากนิยายรางวัลพูลิตเซอร์ชื่อเดียวกันของเวียต ธาน เหวียน (Viet Thanh Nguyen) ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2015 โดยเรื่องราวจะถูกบอกเล่าในลักษณะเรื่องเล่าหลายตระกูลเพราะในขณะที่มันสร้างพล็อตแบบนิยายสายลับ ดราม่าอิงประวัติศาสตร์ (Historical Drama) แต่มันกลับวิพากษ์วิจารณ์การแพร่กระจายวัฒนธรรมอเมริกันในสงครามเวียตนามด้วยน้ำเสียงแบบตลกเสียดสี (Black Comedy) จนโดนใจ พัคชานวุค ผู้กำกับจากเกาหลีใต้ที่แจ้งเกิดจาก ‘Old Boy’ (2003) และ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) ซูเปอร์สตาร์จาก ‘Ironman’ หนังซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวลที่ร่วมกันผลักดันให้เกิดเป็นฉบับมินีซีรีส์ที่เรากำลังจะกล่าวถึง
แม้จะมีชื่อโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ เป็นชื่อเรียกแขกแต่เซ็นเตอร์ของเรื่องราวกลับกล่าวถึงตัวละคร “ผู้กอง” (รับบทโดย ฮวา เซวียนเต, Hoa Xuande) สายลับเวียตกงคอมมิวนิสต์ที่ได้รับภารกิจให้แทรกซึมอยู่กับ “นายพล” (รับบทโดย ต่วน เล, Toan Le) ผู้นำของเวียตนามใต้ที่ถูกชักใยจาก คล้อด (รับบทโดย โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์) ซีไอเอที่มาทำงานหาผลประโยชน์ในยุคสงครามเย็นก่อนไซง่อนจะแตกในไม่กี่วัน – ซึ่งนี่คือพลอตของตอนปฐมบทของมินิซีรีส์ที่เราได้รับอนุญาตให้กล่าวถึงในรีวิวฉบับนี้
และเพียงแค่ตอนแรกก็ต้องบอกว่าสิ่งที่จะทำให้ดูซีรีส์เรื่องนี้ได้อย่างสนุกสนานจริง ๆ คงหนีไม่พ้นการเสริมภูมิหลังเรื่องประวัติศาสตร์สงครามเวียตนามล่ะครับ เพราะนี่คือสิ่งที่ ‘The Sympathizer’ เองก็พยายามเน้นย้ำและทำให้เห็นว่าการเข้าไปแส่ไม่เข้าเรื่องของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ก่อความวุ่นวายให้เวียตนามแค่ไหน เพราะต้นกำเนิดของมันก็คือความขัดแย้งในช่วงสงครามเย็น (พ.ศ. 2490 – 2532) ระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตที่ต่อสู้ด้วยกระแสแนวคิดสุดขั้วสองฝั่งได้แก่เสรีนิยมและคอมมิวนิสต์จนเกิดสงครามตัวแทนหลายแห่งและหนึ่งในนั้นได้แก่ สงครามเวียตนามหรือสงครามอินโดจีนครั้งที่ 2 ที่เป็นสงครามกลางเมืองที่มีเวียตนามเหนือเป็นตัวแทนฝั่งคอมมิวนิสต์ถูกหนุนหลังจากจีนและโซเวียต ส่วนเวียตนามใต้เป็นหุ่นเชิดให้สหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตก
แต่ถึงฉากหลังจะดูเป็นประวัติศาสตร์ที่ต้องการการอธิบายอย่างละเอียดแต่ความชาญฉลาดของนิยายเรื่องนี้คือการกำหนดภูมิหลังของตัวละคร “ผู้กอง” ที่เป็นลูกครึ่งเวียตนาม ฝรั่งเศส ที่ถูกทิ้งไว้ให้เติบโตมาในเวียตนามยุคของความขัดแย้ง ซึ่งดันตรงกับประวัติศาสตร์จริง ๆ ที่จุดกำเนิดของสงครามก็เริ่มหลังจากการถอนตัวออกจากอินโดจีนหลังสงครามอินโดจีนครั้งแรกในปีพ.ศ. 2497 ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแรงให้คาแรกเตอร์ของการเป็นสายลับที่ตัวตนยิ่งพร่าเลือนลงไปทุกทีได้อย่างดีเยี่ยม
และแม้ซีรีส์จะเต็มไปด้วยตัวละครยุ่บยั่บเยอะแยะ แต่ต้องยอมรับในฝีมือการแปลงบทของ ดอน แม็กเคลลาร์ (Don McKellar) อันชุลี เฟลิเซีย คิง (Anchuli Felicia King) ที่เลือกโฟกัสเรื่องราวให้เราติดตามอยู่ 2 ส่วนหลักได้แก่ความสัมพันธ์ระหว่าง 3 เกลอคือ ผู้กอง, บง (รับบทโดยเฟร็ด เหวียน คาน, Fred Nguyen Khan) ผู้ภักดีต่อนายพลเวียตนามใต้ และ ตาว (รับบทโดย สก็อต ไล, Scott Ly) นายทหารระดับสูงของเวียตนามเหนือผู้คอยชักใยภารกิจของผู้กอง ซึ่งเมื่อตัวละครเพื่อน 3 คนถูกปูคาแรกเตอร์มาเป็นอย่างดีแล้วก็ยิ่งทำให้เรื่องราวในส่วนที่สองคือ การเป็นสายลับ 2 หน้าของผู้กองยิ่งน่าติดตามโดยเฉพาะในตอนเปิดของซีรีส์ที่เขาต้องจัดการรายนามผู้อพยพให้นายพลและยังต้องคอยส่งข่าวถึงสหายชาวเวียตกง และผลกรรมจากการเล่นบทบาทนกสองหัวก็สื่อผ่านฉากที่ทำให้เห็นว่าภารกิจครั้งนี้ได้กัดกร่อนจิตใจเขาแค่ไหนด้วยการต้องฝืนทนดูการทรมานหญิงสาวชาวเวียตนามเหนือที่ถูกจับมาทรมาน
ซึ่งในบทของนายพลนั้นต้องบอกว่าการแสดงของ ฮวา เซวียนเต ได้ใส่หัวจิตหัวใจให้ตัวละครได้เป็นอย่างดี จนเชื่อได้ว่าจะทำให้ผู้ชมติดตามซีรีส์ทั้ง 7 ตอน 7 สัปดาห์ได้เพราะการแสดงของเขาจริง ๆ ในบทดราม่าก็ทำได้ดีมากและยังฉายเสน่ห์ผ่านการแสดงได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ต้องรวมถึงนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ด้วยโดยเฉพาะ ต่วน เลในบทนายพลขี้โม้ที่สร้างเสียงฮาได้ตลอดด้วยท่าทางที่ทั้งน่าเกรงขามและทำคนดูเกร็งขำ(ไม่ไหว) กับคาแรกเตอร์ท่าดีทีเหลวของเขา ส่วนการแสดงของทั้ง สก็อต ไล และเฟร็ด เหวียน คาน ก็ทำให้เรื่องราวความเป็นเพื่อนของพวกเขาสะเทือนหัวใจคนดูได้เป็นอย่างดี
และเห็นแต่ชื่อหนุ่ม ๆ อย่าคิดว่าซีรีส์จะขาดสาวสวยนะครับ เพราะถึงแม้จะโผล่มาไม่มากแต่ วี เล (Vy Le) ในบท ลาน่า ลูกสาวนายพลก็น่ารักไม่เบาเลย แถมในนิยายเธอจะมีบทบาทในช่วงที่ ผู้กอง ไปเป็นที่ปรึกษาหนังฮอลลีวูดที่สร้างเกี่ยวกับสงครามเวียตนามด้วย บอกเลยว่าซีรีส์ออกฉายหนุ่ม ๆ ได้ตามหาวาร์ปกันแน่นอน และนอกจากบรรดานักแสดงแล้วอีกหนึ่งความภาคภูมิใจคือซีรีส์ได้ใช้ อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลาบ้านเราเนรมิตรให้กลายเป็นฮานอยในยุคสงครามเย็นได้อย่างแนบเนียนจริง ๆ
ส่วนโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ตามข้อมูลกล่าวว่าเขาจะแสดงในหลายคาแรกเตอร์แต่สำหรับตอนแรกที่เขารับบท คล็อด ซีไอเอเหลี่ยมจัดก็ต้องบอกว่าจัดจ้านไม่เบา แต่ที่น่ารักมากคือการแสดงของดาวนีย์ จูเนียร์กลับไม่พยายามกลบการแสดงของ ฮวา เซวียนเต และสามารถผสานทีมเวิร์คกับนักแสดงร่วมจอคนอื่นได้เป็นอย่างดี ส่วนอีก 3 บทบาทที่เหลือจะเป็นอะไรบ้างคงต้องรอติดตามกันต่อไปทุกวันจันทร์ทาง HBO GO เริ่ม 15 เมษายน 2567 นี้ครับ
ผู้เขียน มโน วนเวฬุสิต